ซิตี้ ออโต้โมบิล แนะเทคนิคขับรถอย่างไรให้ปลอดภัยในฤดูฝน

ข่าวยานยนต์ Wednesday September 3, 2014 11:50 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--3 ก.ย.--Vivaldi Public Relations เมื่อย่างเข้าฤดูฝน ผู้ขับขี่หลายท่านคงหงุดหงิดรำคาญใจไม่น้อย เพราะการขับรถช่วงฤดูฝนต้องเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากอุบัติเหตุบนท้องถนนสามารถเกิดขึ้นได้ง่ายกว่าปกติ ซิตี้ ออโต้โมบิล ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์จากัวร์และแลนด์โรเวอร์เพียงรายเดียวในประเทศไทย จึงขอแนะนำเทคนิคการขับขี่ในช่วงฤดูฝนและการดูแลรักษารถยนต์เบื้องต้นที่ท่านสามารถทำได้อย่างง่ายๆ เพื่อช่วยให้ท่านเดินทางถึงจุดหมายอย่างปลอดภัยไร้กังวล ดังต่อไปนี้ การเตรียมสภาพรถในฤดูฝน ที่ปัดน้ำฝน ตรวจสภาพของที่ปัดน้ำฝนให้อยู่ในสภาพดี ควรใช้น้ำส้มสายชูชุบผ้าสะอาดเช็ดบริเวณเส้นยางของที่ปัดน้ำฝนเป็นครั้งคราว เพื่อลดคราบสิ่งสกปรกและทำให้ทัศนวิสัยในการขับขี่ดีขึ้น หากเส้นยางที่ปัดน้ำฝนเสื่อมสภาพ ควรเปลี่ยนตัวใหม่ที่ตัวแทนจำหน่ายใกล้บ้านท่าน ระบบไฟส่องสว่าง ดูแลระบบไฟส่องสว่างให้สามารถใช้งานได้ดีอยู่เสมอ เพราะการเปิดไฟในขณะฝนตกหนักจะช่วยให้มองเห็นเส้นทางได้ชัดเจนและเป็นการส่งสัญญาณแก่เพื่อนร่วมทางของท่าน หากต้องจอดรถเพื่อเติมน้ำมันหรือแวะพักในระหว่างเดินทางไกล อย่าลืมใช้ผ้าเช็ดทั้งไฟหน้า ไฟท้าย ไฟเลี้ยว ไฟกะพริบและไฟถอยหลัง เพราะอาจเกิดคราบสกปรกจากการขับขี่โดยที่ท่านไม่รู้ตัว ยางรถยนต์ นับเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการขับขี่อย่างปลอดภัย ควรเลือกใช้ชนิดดอกยางละเอียดและเติมลมยางให้มีแรงดันลมมากกว่าปกติ 2-3 ปอนด์/ตารางนิ้ว (หรือ 0.1-0.2 บาร์) เพื่อให้หน้ายางแข็งและรีดน้ำได้ดียิ่งขึ้น (หากดอกยางขนาดเล็กกว่า 3 มม. จะทำให้ความสามารถในการเกาะถนนน้อยลง เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ) และควรเตรียมยางสำรองไว้ทุกครั้งที่เดินทาง หากมีข้อสงสัย ควรปรึกษาตัวแทนจำหน่ายใกล้บ้านท่าน แบตเตอรี่ ตรวจดูแบตเตอรี่และเติมน้ำกลั่นอย่างสม่ำเสมอ เพราะในเวลากลางคืนที่ฝนตกหนัก รถยนต์จะใช้ไฟฟ้ามากกว่าปกติ อุปกรณ์ประดับยนต์ หากเป็นไปได้ควรเตรียมอะไหล่ขนาดเล็ก อาทิ ฟิวส์หรือหลอดไฟ ติดรถไว้เสมอเพราะในกรณีที่อุปกรณ์เหล่านี้เสียระหว่างการเดินทาง ท่านสามารถนำรถไปยังศูนย์บริการใกล้บ้านและซ่อมแซมอุปกรณ์เหล่านี้ได้ในทันที การขับรถขณะฝนตก ไม่ควรขับรถเร็วเกินไป โดยระดับความเร็วที่ทำให้รถไม่เกิดการลื่นไถลคือไม่เกิน 60 กม./ชม. และไม่ควรหักพวงมาลัยกะทันหันหรือเคลื่อนที่ในมุมกว้าง เมื่อสภาพถนนเปียกลื่นควรเผื่อระยะทางเบรกมากกว่าปกติ 10-15 เมตร เพื่อให้สามารถหยุดรถได้ทันและลดการเกิดอุบัติเหตุ ระหว่างขับรถในขณะฝนตกหรือผ่านบริเวณน้ำขัง ให้ระวังการเกิดละอองน้ำเกาะกระจกรถด้านใน ควรกดปุ่ม ‘หมุนเวียนแอร์’ (Recirculation) ให้เครื่องปรับอากาศสลับการเปิดและปิด เพื่อลดการเกิดละอองน้ำ (สำหรับรถยนต์บางรุ่น) อย่างไรก็ตาม ควรเตรียมผ้าสะอาดไว้ในรถเพื่อเช็ดละอองน้ำเป็นระยะ หากจำเป็นต้องขับรถผ่านพื้นที่น้ำขัง ให้สังเกตระดับความลึกของน้ำจากรถคันหน้าหรือขอบฟุตบาทข้างทางเพื่อประเมินสถานการณ์และเตรียมหลีกเลี่ยงจุดที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ เมื่อขับรถผ่านพื้นที่น้ำขังและพ้นสภาพถนนเปียกแล้ว ให้ขับรถช้าๆ และเหยียบเบรกเบาๆ หลายๆครั้ง เพื่อเป็นการไล่น้ำให้ผ้าเบรกแห้งและมีประสิทธิภาพในการใช้งานต่อไป ในกรณีที่ฝนตกหนักมากจนทัศนวิสัยในการขับขี่ไม่ดี ควรจอดรถข้างทางและรอจนกว่าฝนเบาหรือหยุดลง พร้อมเปิดไฟกะพริบเพื่อเป็นสัญญาณให้ผู้ขับขี่คันอื่นมองเห็น เทคโนโลยีเพื่อการขับขี่ที่ปลอดภัย บรรดาผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำได้พัฒนาระบบอัจฉริยะเพื่อช่วยให้การขับขี่ปลอดภัยและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ซึ่งฟังก์ชั่นที่น่าสนใจในปัจจุบันคือ โหมดการขับขี่แบบ Terrain Response®2 ซึ่งจะทำการวิเคราะห์สภาพถนนและและพฤติกรรมของผู้ขับขี่ แล้วเลือกโหมดการขับขี่ที่เหมาะสมโดยอัตโนมัติ รวมถึงระบบกันสะเทือนน้ำหนักเบารุ่นใหม่ที่ช่วยเสริมประสิทธิภาพการควบคุมพวงมาลัยและมอบความนุ่มนวลที่เหนือกว่าแม้ในสภาพถนนการขับขี่ที่เป็นอุปสรรค นอกจากนี้ การมีโครงสร้างตัวถังที่แข็งแรงมั่นคงและระบบควบคุมการสะบัดและโคลงของตัวรถ (Roll Stability Control: RSC) และระบบควบคุมเสถียรภาพการเคลื่อนที่ (Dynamic Stability Control : DSC) ยังช่วยให้ท่านควบคุมการขับขี่ได้อย่างเฉียบคม นอกจากนี้ ในรถยนต์พรีเมี่ยมหลายรุ่น ยังมีระบบการเพิ่มปริมาณอากาศ (Air Intake System) ที่ช่วยดึงอากาศทั้งภายในและภายนอกแผงรถ เพื่อให้เครื่องยนต์มีกำลังแรงขึ้น ระบบนี้ถูกออกแบบให้เหมาะสมกับการขับขี่ทุกสภาวะแม้ในช่วงฝนตกหนัก จึงช่วยให้นักขับสามารถลุยบริเวณที่มีน้ำลึกสูงถึง 90 ซม.ได้อย่างวางใจ มร.แกรี่ เคมป์ หัวหน้าที่ปรึกษาฝ่ายเทคนิค บริษัท ซิตี้ ออโต้โมบิล จำกัด กล่าวว่า “ฤดูฝนเป็นช่วงที่เกิดอุบัติเหตุได้ง่ายว่าฤดูอื่นๆ การดูแลระบบต่างๆ ในเครื่องยนต์ให้มีสภาพสมบูรณ์จึงเป็นสิ่งจำเป็น ด้วยเหตุนี้ เราให้ความสำคัญอย่างมากในการมอบบริการระดับพรีเมี่ยมทั้งในด้านการซ่อมบำรุง อุปกรณ์ เทคโนโลยี และพนักงานของเราทุกคน เพื่อมอบการบริการที่ดีเยี่ยมที่สุดให้แก่ลูกค้าจากัวร์และแลนด์โรเวอร์ในเมืองไทย พวกเรามีความรู้และทักษะ รวมถึงการบริการอะไหล่ของแท้ของ แลนด์ โรเวอร์ และจากัวร์ เพื่อให้ลูกค้าของเราสามารถเดินทางในฤดูฝนได้อย่างปลอดภัยและรู้สึกอุ่นใจตลอดเส้นทาง ทั้งนี้ ลูกค้าสามารถใช้บริการหลังการขายที่ได้มาตรฐานระดับโลกของเราได้ที่ศูนย์บริการของ ซิตี้ ออโต้โมบิล สาขาถนนวิทยุ ลุมพินี (โทรศัพท์ 02 651 4545) และที่ศูนย์บริการสาขาถนนพระราม 3 โดยศูนย์บริการทั้งสองแห่งพร้อมมอบบริการด้วยเครื่องมือ อุปกรณ์ และเทคโนโลยีล้ำสมัยตามมาตรฐานของจากัวร์และแลนด์โรเวอร์ และดำเนินการโดยช่างซ่อมบำรุงและเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายที่ผ่านการฝึกอบรมอย่างครบถ้วน”

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ