สรุปราคาซื้อขายทองคำ และ Gold Futures ภายในประเทศ ณ วันจันทร์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2557 เวลา 9.00 น.

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday September 29, 2014 10:41 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--29 ก.ย.--MTS Gold Group ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,223 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,215 เหรียญ/ออนซ์ (22.30 น.) ค่าเงินบาทปิด 32.33 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 18,650 บาท กับ 18,750 บาท และกลับมาปิดที่ 18,650 บาท กับ 18,750 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 768 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 5,507 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท ลดลง 1.3% แบบ 10 บาท ลดลง 3% GFV14 ปิด 18,750 บาท และ GFZ14 ปิด 18,780 บาท GF10V14 ปิดที่ 18,750 บาท GF10Z14 ปิดที่ 18,810 บาท สัญญา Comex ลดลง 6.5 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,215.4 ดอลลาร์/ออนซ์ NYMEX เพิ่มขึ้น 1.01ดอลลาร์ ปิดตลาดที่ระดับ 93.54 ดอลลาร์/บาร์เรล SPDR ถือครองทองคำที่ระดับ 772.25 ตัน (ขายออก 1.2 ตัน) ข่าวที่สำคัญ -ทองคำได้รับแรงกดดันจากดัชนีดอลลาร์ที่ปรับตัวสูงขึ้นในรอบ 4 ปี, ค่าเงินดอลลาร์ที่ยังคงแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง, ข้อมูลGDP และความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯออกมาดีขึ้น รวมไปถึงการดีดตัวขึ้นของตลาดหุ้นนิวยอร์ก -นักวิเคราะห์จากรอยเตอร์ส กล่าวว่า ทองคำยังอยู่ในทิศทางขาลงและมีสัญญาณที่บ่งชี้ถึงความเสี่ยงที่ราคาทองคำจะหลุดแนวรับสำคัญทางจิตวิทยาที่ระดับ 1,200 เหรียญ/ออนซ์ หากค่าเงินดอลลาร์ยังคงแข็งค่าต่อในสัปดาห์นี้ ทั้งนี้หากราคาหลุดลงมาจะส่งผลกระตุ้นให้เกิดแรงเทขายในทองคำ -ประธานกลุ่มผู้ค้าทองคำในฮ่องกง กล่าวว่า ปริมาณความต้องการทองคำอาจช่วยให้ราคายืนเหนือ 1,200 เหรียญได้ แต่ปริมาณทองคำ ณ ขณะนี้ยังไม่เพียงพอที่จะเป็นแรงสนับสนุนได้ -อินเดียอาจมีปริมาณความต้องการทองคำสูงขึ้นในช่วงเทศกาลแต่งงานที่จะเริ่มต้นขึ้น และอาจเห็นปริมาณการเข้าซื้อจากจีนที่สูงขึ้นในช่วงวันหยุดยาวตั้งแต่ช่วง 1 ตุลาคมนี้ -SPDR ลดการถือครองทองคำในคืนวันศุกร์อีก 1.20 ตัน ปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 772.25 ตัน -ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นต่อเนื่องในคืนวันศุกร์ และนับเป็นการแข็งค่าขึ้นติดต่อกัน 11 สัปดาห์แล้ว หลังข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯออกมาสดใส จึงสนับสนุนกระแสคาดการณ์ที่ว่าเฟดอาจขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่ากำหนด ขณะที่ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.2683 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับ 1.2747 ดอลลาร์/ยูโร -อย่างไรก็ดี ค่าเงินเยนยังคงอ่อนค่าสู่ระดับ 109.36 เยน จากระดับ 108.69 เยน -ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ (Dollar Index) ปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 4 ปีที่ระดับ 85.521 ในช่วงท้ายของการซื้อขายในคืนวันศุกร์ ขณะที่เช้าวันนี้ยังคงทำสถิติปรับตัวสูงขึ้นต่อสู่ระดับ 85.648 -GDP สหรัฐฯ ประจำไตรมาสที่ 2/2014 ขยายตัวสู่ระดับ 4.6% ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวที่รวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่ช่วงปลายปี 2011 ซึ่งการปรับตัวของตัวเลข GDP ได้รับแรงสนับสนุนจากการใช้จ่ายผู้บริโภค ภาคการส่งออก และภาคการลงทุนในสินค้าคงคลังของภาคเอกชน -ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคประจำเดือนกันยายนของสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้นสู่ระดับ 84.6 จากระดับ 82.5 ในเดือนก่อนหน้า แสดงให้เห็นว่ากลุ่มผู้บริโภคยังมีมุมมองเชิงบวกต่อเศรษฐกิจของสหรัฐฯ -นาย ริชาร์ด ฟิชเชอร์ ประธานเฟดสาขาดัลลัส กล่าวว่า เฟดไม่ควรเร่งรีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพราะถึงแม้เศรษฐกิจสหรัฐฯจะกำลังฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง แต่ภาคที่อยู่อาศัยและภาคแรงงานยังคงเป็นปัจจัยกดดันการฟื้นตัว -การลาออกของ บิล กรอส หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งและผู้บริหารของบริษัท พิมโก้ ทำให้บริษัทได้รับผลกระทบอย่างหนักโดยมีนักลงทุนถอนเงินจากบัญชีไปแล้วถึง 70,000 ล้านเหรียญ -โกลด์แมน แซ็ค กำลังเปลี่ยนแปลงนโยบายที่จะก่อให้เกิดผลประโยชน์ทับซ้อนกับกลุ่มวาณิชธนากร จากการซื้อขายหุ้นและพันธบัตรเฉพาะบุคคล -รัฐสภาอังกฤษมีมติเข้าร่วมปฏิบัติการกับสหรัฐฯและชาติพันธมติรในการสู้รบกับกลุ่มก่อการร้าย IS -ยูเครน กล่าวเตือนกลุ่มเบื้องหลังที่ควบคุมหัวหน้าของกลุ่มแบ่งแยกดินแดนในแถบตะวันออกของยูเครน หลังจากมีการโจมตีกองกำลังของรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อห้ามการทำข้อตกลงหยุดยิง -ทางรัสเซียขุดพบแหล่งน้ำมันดิบบริเวณมหาสมุทรอาร์ติก ซึ่งอาจจะกลายมาเป็นแหล่งผลิตน้ำมันดิบที่สำคัญที่สุดของโลกได้ -รัฐบาลจีนเตรียมยกเลิกมาตรการการลงทุนจากต่างชาติสำหรับธุรกิจ 27 ประเภทในเขตการค้าเสรีนำร่องเซี่ยงไฮ้ -NBS เผยว่า บริษัทอุตสาหกรรมจีนมีผลกำไรลดลง 0.6% ที่ระดับ 4.83 แสนล้านหยวน (7.85 หมื่นล้านดอลลาร์) สถาบัน มูดี้ อินเวสเตอร์ ระบุว่า ตลาดที่อยู่อาศัยของจีนจะเผชิญกับแรงกดดันด้านราคาต่อไป แม้ว่าไตรมาสที่ 4 มีแนวโน้มยอดขายขยายตัวเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยคาดว่า มีมูลค่ายอดขายลดลง 5.10% หลังจากในช่วงเดือนม.ค.-ส.ค. ร่วงลงไป 10.9% -ตำรวจฮ่องกงปราบปรามกลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้านรัฐบาลโดยการใช้แก๊สน้ำตาในเช้าวันนี้ หลังจากกลุ่มผู้ประท้วงขู่ว่าจะสร้างความปั่นป่วนอย่างเร่งด่วนในเช้าวันนี้ -ทั้งนี้ กลุ่มผู้ประท้วงเหล่านี้ได้ออกมาเคลื่อนไหวตั้งแต่เมื่อวานนี้ในนาม "Occupy Central with Peace and Love" โดยมีเป้าหมายที่จะทำให้ศูนย์กลางทางการเงินของฮ่องกงตกอยู่ในภาวะชะงักงัน เพื่อตอบโต้แผนการของจีนที่ต้องควบคุมการเสนอชื่อบุคคลที่ลงสมัครรับเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานบริหารเขตปกครองพิเศษฮ่องกง -ในคืนวันศุกร์ตลาดหุ้นดาวโจนส์ปิด +0.99% เนื่องจากนักลงทุนขานรับ GDP ที่ขยายตัวตามคาดการณ์ของสหรัฐฯ และความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ออกมาดีขึ้น รวมไปถึงผลประกอบการของภาคเอกชนที่ดีขึ้นด้วย -นักบริหารเงิน คาดการณ์ว่า ค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.10 – 32.40 บาท/ดอลลาร์ โดยต้องติดตามการเคลื่อนไหวของค่าเงินดอลลาร์ เพราะอาจได้รับแรงหนุนเพิ่มเติมหากตัวเลขการจ้างงาน และภาคการผลิตของสหรัฐฯในสัปดาห์นี้ออกมาดี นอกจากนี้ตลาดยังรอผลการประชุมนโยบายของอีซีบี และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจไทย -นักวิเคราะห์ตลาดหุ้นไทย ประเมินว่า สัปดาห์นี้ดัชนีมีโอกาสปรับขึ้นต่อ เพราะได้รับแรงหนุนจากการที่รัฐบาลเปิดเผยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศไทยเพิ่มเติม รวมถึงความเป็นไปได้ของการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติมของอีซีบี ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืน - Final GDP q/q ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 4.2% ตัวเลขจริงออกมาที่ระดับ 4.6% - Revised UoM Consumer Sentiment ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 84.6 ตัวเลขจริงออกมาที่ระดับ 84.6 ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญในคืนนี้ - Core PCE Price Index ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.1% ตัวเลขจริงที่ออกมาอยู่ที่ระดับ 0.0% - Personal Spending ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -0.1% ตัวเลขจริงที่ออกมาอยู่ที่ระดับ 0.5% - Pending Home Sales ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 3.3% ตัวเลขจริงที่ออกมาอยู่ที่ระดับ -0.4% ทิศทางราคาทองคำ ราคาทองคำดีดตัวในช่วงปลายสัปดาห์ที่แล้ว และมีการแกว่งตัวในแนวโน้มขาลงค่อนข้างมาก โดยช่วงหนึ่งของราคาทำจุดต่ำสุดบริเวณ 1,207 เหรียญ ขณะที่ตลาด COMEX ปิดตลาดที่ที่ระดับ 1,215.4 เหรียญโดยประมาณ โดยที่ภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐฯแข็งแกร่งมากขึ้น อันได้แก่ GDP ไตรมาสที่ 2/2014 ออกมาสู่ระดับ 4.6% จากระดับ 4.2% ขณะที่ความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวสูงขึ้น 84.6 จึงส่งผลกดดันทองคำ ทำให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับค่าเงินยูโรที่ระดับ 1.2678 ยูโร/ดอลลาร์ และยังมีทิศทางแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ นายมาริโอ ดรากิ ประธานอีซีบี ยังมีความพยายามจะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจแต่ยังส่งผลไม่ดีเท่าที่ควร ขณะที่วันศุกร์ SPDR เทขายทองคำเพิ่ม 1.2 ตัน เหลือการถือครองที่ระดับ 772.25 ตัน ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม 2009 สำหรับคืนนี้มีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ ได้แก่ Personal Spending ที่คาดว่าจะออกมาดีขึ้น ขณะที่ Core PCE Price Index และ Pending Home Sales คาดว่าจะออกมาแย่ลงเล็กน้อย อย่างไรก็ดีจีนจะหยุดยาว 1-7 ต.ค. เนื่องในวันชาติจีน จึงต้องระมัดระวังการลงทุน วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค ราคาทองคำยังคงเคลื่อนตัวในแนวโน้มขาลง โดยที่ราคายังคงทำจุดต่ำสุดใหม่ในแต่ละสัปดาห์ จึงคาดว่าราคาในสัปดาห์ที่จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,184 และแนวต้านด้านบน 1,240 เหรียญซึ่งเป็นกรอบรายสัปดาห์ ขณะที่รายวันคาดว่าราคาจะเคลื่อนตัวในกรอบ 1,200-1,225 เหรียญ คือในกรอบแคบของการแกว่งตัวรายวัน กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ เก็งกำไรในกรอบการแกว่งตัว - นักลงทุนที่ถือ Long Position นักลงทุนที่ขาดทุนมากกว่า 500 บาท/บาททองคำ ยังแนะนำให้หาจุด Stop Loss และปิดสถานะ Long Position - นักลงทุนที่ถือ Short Position แนะนำให้ทำกำไรระยะสั้นเป็นช่วงๆ กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading แนะนำทำกำไรระยะสั้น และยังคงลงทุนตามแนวโน้มระยะยาวที่เป็นขาลง Gold Futures V14 จะมีแนวรับที่ระดับ 18,650 บาท และแนวต้านที่ระดับ 18,850 บาท Gold Futures Z14 จะมีแนวรับที่ระดับ 18,690 บาท และแนวต้านที่ระดับ 18,890 บาท บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง ประชาสัมพันธ์: 1. เรียนเชิญนักลงทุนเข้าร่วมงานสัมมนาพิเศษในหัวข้อ “เทคนิคการทำกำไรในทองคำแท่งและGold Futures” บรรยายโดย นพ. กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ในวันที่ 29 กันยายน 2557 ณ สาขาเซ็นทรัลลาดพร้าว ชั้น12 เวลา 15.00-17.00น. สำรองที่นั่งได้ที่ MTS Gold Call Center: 02 770 7777 2. HOT Line: “MTS E-Business 02-770-7791” นักลงทุนสามารถสอบถามรายละเอียดด้านการลงทุนผ่านระบบอินเตอร์เน็ต ทั้งระบบ Gold Online และ Gold Futures ได้ตั้งแต่เวลา 09.00-24.00น.

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ