สรุปราคาซื้อขายทองคำ และ Gold Futures ภายในประเทศ ณ วันพุธที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2557 เวลา 9.00 น.

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday October 1, 2014 10:03 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--1 ต.ค.--MTS Gold Group ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,216 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,210 เหรียญ/ออนซ์ (22.30 น.) ค่าเงินบาทปิด 32.43 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 18,600 บาท กับ 18,700 บาท และกลับมาปิดที่ 18,600 บาท กับ 18,700 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 399 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 3,554 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 8.35% แบบ 10 บาท เพิ่มขึ้น 15.35% GFV14 ปิด 18,730 บาท และ GFZ14 ปิด 18,790 บาท GF10V14 ปิดที่ 18,730 บาท GF10Z14 ปิดที่ 18,800 บาท สัญญา Comex ลดลง 7.2 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,211.6 ดอลลาร์/ออนซ์ NYMEX ลดลง 3.41 ดอลลาร์ ปิดตลาดที่ระดับ 91.16 ดอลลาร์/บาร์เรล SPDR ถือครองทองคำที่ระดับ 769.86 ตัน (ขายออก 2.39 ตัน) ข่าวที่สำคัญ -ทองคำได้รับแรงกดดันจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น หลังจากตัวเลขเศรษฐกิจยุโรปออกมาน่าผิดหวัง จึงสนับสนุนกระแสคาดการณ์ที่ว่าอีซีบีอาจประกาศใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในวันศุกร์นี้ -สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า เมื่อวานนี้ราคาทองคำลงไปทำจุดต่ำสุดบริเวณ 1,204.40 เหรียญ/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่ 1 มกราคม 2014 -นักวิเคราะห์จากคอมเมิร์ซแบงก์ ระบุว่า ตลาดทองคำปิดปรับตัวลดลงติดต่อกัน 4 สัปดาห์แล้ว และคาดว่าอาจจะปรับฐานลงต่อในปีนี้ โดยปัจจัยสำคัญได้แก่ค่าเงินดอลลาร์ที่ยังคงแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับค่าเงินยูโร และยังมีทิศทางจะแข็งค่าต่อไปจนถึงสิ้นปีนี้ จึงอาจเห็นราคาทองคำยังคงปรับตัวลงต่อในปีหน้า -นักลงทุนจับตาไปยังตัวเลขสำคัญในคืนนี้ ได้แก่ การจ้างงานภาคเอกชน และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตประจำเดือนกันยายน ซึ่งจะบ่งบอกเป็นนัยถึงการพิจารณาเกี่ยวกับนโยบายของเฟดได้ -ในช่วงระหว่าง 1 – 7 ตุลาคมที่ตลาดการเงินจีนปิดทำการในวันชาติจีน อาจส่งผลให้ปริมาณการซื้อขายในตลาดทองคำค่อนข้างเงียบเหงา ขณะที่ตลาดค้าปลีกทองรูปพรรณอาจได้รับแรงหนุนจากกลุ่มผู้ซื้อในช่วงวันหยุดยาว -เมื่อวานนี้ SPDR เทขายทองคำออกอีก 2.39 ตัน ปัจจุบันเหลือการถือครองทองคำที่ระดับ 769.89 ตัน ซึ่งยังคงเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปีนับตั้งแต่ปี 2009 -ค่าเงินดอลลาร์ยังคงแข็งค่าอย่างต่อเนื่อง และแตะระดับสูงสุดในรอบ 22 เดือนเมื่อเทียบกับค่าเงินยูโรเมื่อวานนี้ที่ระดับ 1.2631 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับ 1.2692 ยูโร/ดอลลาร์ ขณะที่ค่าเงินเยนยังคงอ่อนค่าสู่ระดับ 109.70 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 109.43 เยน/ดอลลาร์ -ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐฯ ประจำเดือนกันยายน ปรับตัวลดลงสู่ระดับ 86 จากระดับ 93.4 ในเดือนก่อนหน้า ซึ่งถือเป็นการปรับตัวลดลงครั้งแรกในรอบ 5 เดือน เนื่องจากกลุ่มผู้บริโภคมีมุมมองเชิงบวกลดลงเกี่ยวกับตลาดแรงงานในปัจจุบัน -ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อเขตชิคาโก ประจำเดือนกันยายน ชะลอตัวลงสู่ระดับ 60.5 จากเดิม 64.3 ในเดือนก่อนหน้า ถึงแม้จะมีภาวะชะลอตัวแต่ตัวเลขที่สูงกว่าระดับ 50 ยังคงบ่งชี้ถึงการขยายตัวในแถบมิดเวสต์ -อัตราเงินเฟ้อยูโรโซนประจำเดือนกันยายนออกมาลดลงสู่ระดับ 0.3% จากเดิม 0.4% เมื่อเทียบรายปี ขณะที่อัตราเงินเฟ้อภาคบริการปรับตัวลดลงสู่ระดับ 0.7% จากระดับ 0.9% บ่งชี้ให้เห็นว่าสภาวะเศรษฐกิจยูโรโซนยังไม่สามารถขยายตัวได้อย่างเต็มที่ และอาจส่งผลให้อีซีบีประกาศใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม เพื่อป้องกันไม่ให้ยูโรโซนต้องเผชิญกับภาวะเงินฝืด -สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า ธนาคารกลางรัสเซีย กำลังประเมินมาตรการการควบคุมเงินทุนชั่วคราว หากกระแสเงินทุนมีการไหลออกจากประเทศอย่างรุนแรง -อย่างไรก็ดี หลังจากสหรัฐฯและอียูประกาศมาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย ได้ส่งผลให้มีกระแสเงินทุนไหลออกจากรัสเซียในปีนี้แล้วประมาณ 1 แสนล้านดอลลาร์ โดยเป็นการปรับตัวสูงขึ้น 64% เมื่อเทียบกับปีก่อน -ธนาคารกลางจีน ผ่อนคลายการซื้อบ้านมือสอง เพื่อให้อุปสงค์สินเชื่อที่อยู่อาศัยในจีนเป็นไปอย่างสมเหตุสมผลท่ามกลางภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ซบเซา -แหล่งข่าวจากอิรัก รายงานว่า จากเหตุ Car Bomb ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 35 คน ในกรุงแบกแดด ซึ่งสถานการณ์ในประเทศทวีความรุนแรงมากขึ้น ตั้งแต่สหรัฐฯเริ่มปฏิบัติการโจมตีด้วยวิธีทิ้งระเบิดทางอากาศเพื่อกำจัดกลุ่ม IS ในอิรัก -กลุ่มผู้ประท้วงในฮ่องกงยังคงปักหลักประท้วงเพื่อกดดันรัฐบาลจีน ในการหลีกเลี่ยงการละเมิดกฎหมายและผลกระทบต่อความปลอดภัยและผลประโยชน์ของตนเอง -อย่างไรก็ดี กระทรวงการต่างประเทศจีนประจำฮ่องกง ได้ส่งจดหมายถึงกงสุลต่างประเทศทุกแห่งในฮ่องกง โดยขอให้หลีกเลี่ยงการชุมนุมประท้วงที่กำลังขยายวงกว้างหลายพื้นที่ในฮ่องกง -เมื่อคืนนี้ตลาดหุ้นดาวโจนส์ปิด -0.17% ซึ่งเป็นการปิดลบติดต่อกัน 2 วันทำการ หลังจากสหรัฐฯเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ออกมาซบเซา -เช้านี้ตลาดหุ้นโตเกียวเปิด -0.13% หลังบีโอเจ เผยผลสำรวจความเชื่อมั่นทางธุรกิจของกลุ่มผู้ผลิตรายใหญ่ญี่ปุ่น ประจำไตรมาสที่ 3/57 พบว่า ความเชื่อมั่นร่วงลงแตะระดับ +13 จาก +19 แสดงให้เห็นว่า การปรับขึ้นภาษีการบริโภคอาจทำให้การบริโภคและการลงทุนต่างๆในภาคเอกชนอ่อนแอลง -นักบริหารเงิน คาดว่า ค่าเงินบาทยังคงอยู่ในทิศทางอ่อนค่า และจะยังเคลื่อนไหวในกรอบ 32.30-32.50 บาท/ดอลลาร์ -นักวิเคราะห์ตลาดหุ้นไทย ประเมินว่า แนวโน้มหลักของ SET50 ยังคงเป็นทิศทางขาขึ้น แต่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในฝั่ง Short เกือบ 20,000 สัญญา จึงแนะนำให้เฝ้าระวังบริเวณ 1040 จุด เพราะหากหลุดระดับดังกล่าวแนะนำให้ Follow Short โดยปัจจัยที่ต้องติดตามได้แก่เรื่องการประมูลรถไฟฟ้า, ปัจจัยทางเทคนิค และ Fund Flow ต่างชาติ ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืน - Chicago PMI ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 64.3 ตัวเลขจริงปรับตัวลดลงสู่ระดับ 60.5 - CB Consumer Confidence ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 93.4 ตัวเลขจริงปรับตัวลดลงสู่ระดับ 86 ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญในคืนนี้ - ADP Non-Farm Employment Change ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 204K คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 207K - ISM Manufacturing PMI ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 59 คาดการณ์ว่าจะปรับตัวลดลงสู่ระดับ 58.6 ทิศทางราคาทองคำ ราคาทองคำยังคงเคลื่อนตัวในทิศทางผันผวน โดยยังคงปรับตัวลดลงต่อเนื่องในช่วงต้นตลาด London และมีการแกว่งตัวในกรอบระหว่าง 1,207 – 1,220 เหรียญ การชุมนุมประท้วงของฮ่องกงอาจจะมีผลต่อราคาทองคำบ้างแต่ไม่น่าจะมากนัก จะเห็นได้จากภาพรวมราคาทองคำยังเป็นลักษณะเคลื่อนตัว Sideways ในทิศทางของตลาดเอเชีย เมื่อวานนี้ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาออกมาแย่ลง ได้แก่ Chicago PMI และ CB Consumer Confidence ขณะที่เมื่อวานนี้ SPDR ลดการถือครองทองคำ 2.39 ตัน ปัจจุบันคงทองที่ระดับ 769.89 ตัน สำหรับวันนี้ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ได้แก่ การจ้างงานภาคเอกชน ที่คาดว่าจะดีขึ้น ขณะที่ภาคการผลิตคาดการณ์ว่าจะลดลง วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค ในระยะสั้นในทางเทคนิคจะเห็นความผันผวน แต่เป็นความผันผวนในทิศทางขาลง ขณะที่กรอบ Trend Line ก็ยังเคลื่อนตัวขาลงบริเวณ 1,184 – 1,230 เหรียญ ขณะที่วันนี้คาดว่าราคาทองคำอาจถูกกดันให้ทดสอบแนวรับแรกทางจิตวิทยาที่ระดับ 1,200 เหรียญได้ และในวันนี้คาดว่าราคาทองคำจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,200-1,218 เหรียญ กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ ยังคงแนะนำให้ปิดสถานะ Long Position หรือลดการถือครองลง และหันมาถือ Short Position ในทิศทางขาลง - นักลงทุนที่ถือ Long Position หาจังหวะปิดสถานะ - นักลงทุนที่ถือ Short Position แนะนำให้ทำกำไรในระยะสั้นเป็นช่วงๆ และเปิดสถานะ Short Position เพิ่มเมื่อราคาดีดตัวสูงขึ้น กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading แนะนำให้ทำกำไรในระยะสั้นและถือสถานะเป็น Short Position มากกว่า Gold Futures V14 จะมีแนวรับที่ระดับ 18,640 บาท และแนวต้านที่ระดับ 18,840 บาท Gold Futures Z14 จะมีแนวรับที่ระดับ 18,690 บาท และแนวต้านที่ระดับ 18,890 บาท บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง ประชาสัมพันธ์: 1. HOT Line: “MTS E-Business 02-770-7791” นักลงทุนสามารถสอบถามรายละเอียดด้านการลงทุนผ่านระบบอินเตอร์เน็ต ทั้งระบบ Gold Online และ Gold Futures ได้ตั้งแต่เวลา 09.00-24.00น.

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ