สรุปราคาซื้อขายทองคำ และ Gold Futures ภายในประเทศ ณ วันพุธที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 เวลา 9.00 น.

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday November 12, 2014 10:30 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--12 พ.ย.--MTS Gold Group ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,154 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,155เหรียญ/ออนซ์ (22.30น.) ค่าเงินบาทปิด 32.87 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 17,900 บาท กับ 18,000 บาท และกลับมาปิดที่ 17,850 บาท กับ 17,950 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 941 คู่สัญญาแบบ 10 บาทอยู่ที่ 6,606 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 3% แบบ10 บาท เพิ่มขึ้น 5% GFZ14 ปิด 18,120 บาท และ GFG14 ปิด 18,170 บาท GF10Z14 ปิดที่ 18,110 บาท GF10G14 ปิดที่ 18,170 บาท สัญญา Comex เพิ่มขึ้น 3.2 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,163 ดอลลาร์/ออนซ์ NYMEX เพิ่มขึ้น 0.67 ดอลลาร์ ปิดตลาดที่ระดับ 77.94 ดอลลาร์/บาร์เรล SPDR ถือครองทองคำที่ระดับ 724.46 ตัน (ขายออก 0.9 ตัน) ข่าวที่สำคัญ -ทองคำปิดปรับตัวสูงขึ้น 0.28% และทรงตัวบริเวณ 1,160 เหรียญได้อีกครั้ง เพราะได้รับแรงสนับสนุนจากการเข้าซื้อเก็งกำไรของกลุ่มนักลงทุนหลังจากที่ทองคำร่วงลงติดต่อกันหลายวันทำการในสัปดาห์ที่ผ่านมา -นักวิเคราะห์จาก LBMA กล่าวว่า ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นตามราคาน้ำมันดิบ หลังจากที่ร่วงลงติดต่อกันในวาระก่อนหน้า ซึ่งโดยภาพรวมราคาทองคำอาจยังคงถูกกดดันต่อในทิศทางขาลงจนถึงปีหน้า และอาจทรงตัวบริเวณ 1,200 เหรียญ/ออนซ์ ในช่วงเดือนตุลาคม 2015 -นายแดนนี แลดเดอร์ ประธานกองทุน ETF ของออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ เผยว่า ภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐฯที่อยู่ในแนวโน้มที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น จึงเป็นปัจจัยหลักในขณะนี้ที่กดดันราคาทองคำ โดยจะเห็นได้ว่ามีกระแสเงินไหลออกจากกลุ่มสินค้า และการถือครองทองคำเป็นจำนวน 85.8 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ตลอด 4 สัปดาห์ที่ผ่านมากระแสเงินไหลเข้าจากนักลงทุนยังคงอยู่ในภาวะขาลง -นักวิเคราะห์จากคิทโก ระบุว่า เมื่อวานนี้ราคาทองคำมีการซื้อขายที่เบาบางเนื่องจากเป็นวันหยุดของสหรัฐฯในวันทหารผ่านศึก ขณะที่ในวันนี้ยังคงไม่มีการประกาศปัจจัยสำคัญใดๆจากสหรัฐฯ จึงคาดว่าในวันนี้ราคาจะเคลื่อนไหว Sideways โดยมีแนวต้านอยู่ที่ 1,170 และ 1,175 เหรียญตามลำดับ ขณะที่แนวรับอยู่ที่ระดับ 1,150 เหรียญ -กองทุนทองคำ SPDR ยังคงเทขายทองคำต่อเนื่องติดต่อกัน 6 วันทำการ โดยเมื่อวานนี้ถือครองลดลง 0.90 ตัน ปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 724.46 ตัน ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่ 26 กันยายน 2008 -ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับค่าเงินยูโรที่ระดับ 1.2478 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับ 1.2434 ยูโร/ดอลลาร์ -อย่างไรก็ดี ค่าเงินดอลลาร์ยังคงแข็งค่าแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 ปี เมื่อเทียบกับค่าเงินเยนที่ระดับ 115.40 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 114.89 เยน/ดอลลาร์ และสามารถไปทำจุดสูงสุดได้ที่ระดับ 116.10 เยน/ดอลลาร์ (จุดสูงสุดเดิมในเดือนตุลาคม 2007) เพราะได้รับแรงหนุนจาก-กระแสคาดการณ์ที่ว่า นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นอาจจะชะลอแผนการปรับขึ้นภาษีการบริโภค -โดยผู้นำญี่ปุ่นระบุว่า จะใช้มาตรการเพื่อบรรเทาผลกระทบจากการอ่อนค่าของเงินเยน แม้จะมีความกังวลเกี่ยวกับต้นทุนการนำเข้าในราคาที่สูงขึ้น และผลกระทบต่อเศรษฐกิจที่เข้าสู่ภาวะชะลอตัวของประเทศ -ขณะที่ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคประจำเดือนตุลาคมของญี่ปุ่น พบว่า ปรับตัวลดลงแตะระดับ 38.9 ซึ่งเป็นระดับที่ “อ่อนแอ” และเป็นการปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 แสดงให้เห็นว่ากลุ่มผู้บริโภคมีมุมมองลบต่อเศรษฐกิจของประเทศ เพราะได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นภาษีการบริโภคในเดือนเมษายนที่ผ่านมา -สหพันธ์ธุรกิจอิสระของสหรัฐฯ (NFIB) เผยว่า ความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดเล็กประจำเดือนตุลาคมของสหรัฐฯปรับตัวขึ้น 0.8 จุด สู่ระดับ 96.1 จุด จากมุมมองที่เป็นบวกเกี่ยวกับภาคแรงงาน การใช้จ่ายด้านการลงทุนและยอดขาย -นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน กล่าวว่า ที่ประชุมเอเปก มีมติเห็นชอบในเรื่องการใช้แรงจูงใจ 5 ประเด็น เพื่อส่งเสริมการขยายตัวทางเศรษฐกิจในอนาคต ( 5 ประเด็นสำคัญในการประชุม 1) การปฏิรูปเศรษฐกิจ 2) นโยบายเศรษฐกิจรูปแบบใหม่ 3) การขยายตัวอย่างมีนวัตกรรม 4) การสนับสนุนพิเศษ 5) การพัฒนาเขตเมือง) -รายงานจากระทรวงพลังงานโลก ระบุว่า ในช่วงต้นปี 2030 จีนจะกลายเป็นผู้อุปโภคน้ำมันรายใหญ่เทียบเท่ากับสหรัฐฯ ซึ่งเป็นผู้อุปโภคน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลก -ตลาดหุ้นดาวโจนส์ยังคงปิดบวกติดต่อกัน 6 วันทำการ โดยเมื่อวานนี้ปิดตลาด +0.01% และเป็นการปิดระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 5 วันทำการ เนื่องจากนักลงทุนยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ และผลประกอบการของบริษัทเอกชน -เช้านี้ ดัชนีนิกเกอิ เปิด +0.75% เพราะได้รับแรงสนับสนุนจากการอ่อนค่าของเงินเยน ที่ยังคงอ่อนค่าอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์ โดยแตะกรอบบน 115 เยน/ดอลลาร์ จึงช่วยหนุนให้หุ้นกลุ่มส่งออกปรับตัวขึ้น -นักบริหารเงิน ประเมินว่า ค่าเงินบาทไทยในวันนี้จะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.80-32.92 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งหากในวันนี้ยังคงไม่มีปัจจัยสำคัญใดเข้ามา ทิศทางในวันนี้อาจเคลื่อนไหวอยู่บริเวณแนวต้าน 32.92 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งค่าเงินบาทยังคงปรับตัวอ่อนค่าตามภูมิภาค -นักวิชาการไทย จากสถาบันอนาคตไทย ประเมินทิศทางเศรษฐกิจไทยปี 2558 ว่า เศรษฐกิจไทยยังคงต้องเผชิญปัจจัยท้าทายจากการส่งออก เพราะได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกที่ยังฟื้นตัวได้ไม่เต็มที่ แต่เศรษฐกิจไทยปี 2558 มีโอกาสจะเติบโตได้มากกว่า 4% จากฐานต่ำในปีนี้ ขณะที่การส่งออกจะยังเติบโตได้ไม่สูงนัก เนื่องจากอุปสงค์ของโลกปีหน้ายังไม่สูง ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับการใช้จ่ายและการลงทุนของภาครัฐเป็นสำคัญ รวมถึงการท่องเที่ยวที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในปีหน้า ซึ่งจะเห็นได้ว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2557 จะเติบโตเพียง 1.2% ขณะที่การส่งออกแทบจะไม่เติบโตเลย -รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานไทย เผยว่า ภายใน 1 ปี จะเร่งเดินหน้าแผนปรับโครงสร้างพลังงานทั้งน้ำมันและก๊าซ รวมถึงการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินในพื้นที่ภาคใต้ พร้อมสำรวจหาแหล่งพลังงานในประเทศ แม้จะมีเสียงคัดค้านก็ตาม ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญเมื่อคืน - ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญในคืนนี้ - ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ ทิศทางราคาทองคำ ราคาทองคำมี Technical Rebound ขึ้นมาในช่วงที่ตลาดค่อนข้างเงียบเหงา และการซื้อขายไม่ค่อยคึกคักเนื่องจากเป็นวันทหารผ่านศึกของสหรัฐอเมริกา โดยราคาดีดขึ้นมาบริเวณ 1,160 เหรียญในช่วงเวลาประมาณ 23.00น. วานนี้ ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจทั่วไปของเมื่อวานนี้และวันนี้ไม่มีอะไรสำคัญ สำหรับSPDR เทขายทองคำออก 0.9 ตัน ปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 724.46 ตัน วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวในทิศทางตามการแกว่งลักษณะ Technical Rebound ซึ่งในเชิงเทคนิคในระยะสั้นราคาทองคำอาจจะขึ้นไปทดสอบบริเวณ 1,170 เหรียญได้ อย่างไรก็ดีในระยะกลางและระยะยาวยังเป็นขาลง คาดว่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,150-1,170 เหรียญ กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ เก็งกำไรในระยะสั้น และลงทุนในทิศทางขาลงเป็นหลัก - นักลงทุนที่ถือ Long Position แนะนำให้ปิดสถานะ Long Position - นักลงทุนที่ถือ Short Position หาจังหวะ Short Position เพิ่มเมื่อราคาดีดตัว กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading เน้นลงทุนในทิศทางขาลงเป็นหลัก Gold Futures Z14 จะมีแนวรับที่ระดับ 18,050 บาท และแนวต้านที่ระดับ 18,250 บาท Gold Futures G15 จะมีแนวรับที่ระดับ 18,100 บาท และแนวต้านที่ระดับ 18,300 บาท บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง ประชาสัมพันธ์: 1. พบบูธ MTS Gold และโปรโมชั่นแรง X6 ภายในงาน “SET in the City 2014” ในวันที่ 20-23 พฤศจิกายน 2557 เวลา 10.00-20.00น. ณ รอยัล พารากอนฮอลล์ ชั้น 5 สยามพารากอน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม 02-770-7777 2. เรียนเชิญนักลงทุนเข้าร่วมงานสัมมนาพิเศษ “Technical Class : ทำกำไรในทองคำโดยใช้กราฟเทคนิค” (Level 2) ร่วมบรรยายโดย นพ. กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ วันที่ 24 พฤศจิกายน 2557 ณ สาขาเซ็นทรัลลาดพร้าวชั้น12 เวลา 15.00-17.00น. รับจำนวนจำกัด 40 ที่นั่ง สามารถสำรองที่นั่งได้ที่ MTS Gold Call Center: 02 770 7777 (เปิดรับเฉพาะสมาชิกของบริษัท MTS Gold และ MTS Gold Futures เท่านั้น หากผู้ที่ไม่ใช่สมาชิกต้องมีการเปิดบัญชีก่อนเข้าร่วมงานสัมมนา). 3. HOT Line: “MTS E-Business 02-770-7791” นักลงทุนสามารถสอบถามรายละเอียดด้านการลงทุนผ่านระบบอินเตอร์เน็ต ทั้งระบบ Gold Online และGold Futures ได้ตั้งแต่เวลา 09.00-24.00น. MTS Research MTS Gold Group Phone: 02-770-7777 Fax: 02-623-9366 Email: research@mtsgoldgroup.com Website: http://www.mtsgold.co.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ