สรุปราคาซื้อขายทองคำ และ Gold Futures ภายในประเทศ ณ วันพฤหัสบดีที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 เวลา 9.00 น.

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday November 20, 2014 10:30 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--20 พ.ย.--MTS Gold Group ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,192 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,195เหรียญ/ออนซ์ (22.30น.) ค่าเงินบาทปิด 32.80 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 18,450บาท กับ 18,550บาท และกลับมาปิดที่ 18,550 บาท กับ 18,650 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 871 คู่สัญญาแบบ 10 บาทอยู่ที่ 6,644 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 0.3 % แบบ10 บาท ลดลง 5.1% GFZ14 ปิด 18,690 บาท และ GFG14 ปิด 18,760 บาท GF10Z14 ปิดที่ 18,690 บาท GF10G14 ปิดที่ 18,750 บาท สัญญา Comex ลดลง 3.2 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,193.9 ดอลลาร์/ออนซ์ NYMEX ลดลง 3 เซนต์ ปิดตลาดที่ระดับ 74.58 ดอลลาร์/บาร์เรล SPDR ถือครองทองคำที่ระดับ 720.91 ตัน ( ขายออก 2.1 ตัน) ข่าวที่สำคัญ -ทองคำปิดปรับตัวลง เพราะได้รับแรงกดดันจากผลสำรวจที่บ่งชี้ว่า ชาวสวิตเซอร์แลนด์อาจปฏิเสธการให้ธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์สามารถถือครองทองคำได้มากขึ้น -โดย MKS ระบุว่า ผลสำรวจการลงประชามติพบว่า มีผู้โหวต Yes จำนวน 38% โหวต No 47% และ 15% ยังไม่ตัดสินใจ -อย่างไรก็ดี ธนาคารกลางสวิสเซอร์แลนด์ (SNB) จะมีการลงประชามติในวันที่ 30 พฤศจิกายนนี้ เพื่อตัดสินว่า SNB จำเป็นที่จะต้องถือครองทองคำเพิ่มเติมหรือไม่ โดยที่นักวิเคราะห์ออกมาให้ความเห็นว่า การโหวต YES อาจจะสร้างความเสียหายให้กับตลาดการเงินได้ โดยจะทำให้ธนาคารกลางสวิสเซอร์แลนด์ต้องถือครองทองคำเพิ่มถึง 20% ซึ่งนับเป็นจำนวนมากกกว่าการถือครองปัจจุบันถึง 3 เท่า หรือคิดเป็น 7% -ผู้อำนวยการจากสถาบัน CPM Group กล่าวว่า ผลสำรวจการลงประชามติที่มีมีผู้เห็นด้วยกับการถือครองทองคำเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่คาด อาจทำให้ตลาดทองคำได้รับแรงกดดันในการเผชิญกับแรงเทขายของตลาด จึงยังคงสนับสนุนภาพหลักระยะยาวที่เป็นแนวโน้มของทองคำหลังจากเมื่อวานนี้ปรับตัวลดลงมาทำจุดต่ำสุดบริเวณ 1,175 เหรียญ/ออนซ์ นักวิเคราะห์จากคิทโก้ กล่าวว่า หากทองคำหลุดต่ำกว่าระดับ 1,160 เหรียญซึ่งเป็นแนวรับที่แข็งแกร่งทางเทคนิค ก็จะยืนยันภาพหลักในทิศทางขาลงของทองคำอีกครั้ง ซึ่งในวันนี้คาดว่าราคาจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,170 – 1,200 เหรียญ -เมื่อวานนี้ SPDR ลดการถือครองทองคำลง 2.10 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ระดับ 720.91 ตัน ซึ่งยังคงเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 6 ปี -ค่าเงินดอลลาร์เคลื่อนไหวผันผวนเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก โดยอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับค่าเงินยูโรที่ระดับ 1.2544 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับ 1.2435 ยูโร/ดอลลาร์ ขณะที่เทียบกับค่าเงินเยนอยู่ที่ระดับ 117.88 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 116.89 เยน/ดอลลาร์ หลังจากรายงานการประชุมเฟดระบุว่าเฟดจะจับตาดูความเสี่ยงช่วงขาลงของเศรษฐกิจโลกต่อไป -เมื่อคืนนี้ข้อมูลภาคอสังหาริมทรัพย์เป็นไปอย่างผันผวน โดยตัวเลขอนุญาตการสร้างบ้านปรับตัวดีขึ้นสู่ระดับ 1.08 ล้านยูนิต จากเดิม 1.03 ล้านยูนิต ขณะที่ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านประจำเดือนตุลาคมของสหรัฐฯ ปรับตัวลดลง 2.8% สู่ระดับ 1.01 ล้านยูนิต จากระดับ 1.04 ล้านยูนิต แสดงให้เห็นว่าภาคอสังหาริมทรัพย์เริ่มชะลอลงเล็กน้อย -รายงานการประชุมเฟดประจำวันที่ 28 – 29 ตุลาคมที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่าเฟดให้ความสนใจไปยังการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก หลังจากแรงกดดันเงินเฟ้อและราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลง อาจมีความเป็นไปได้ว่าเฟดจะยังคงดำเนินนโยบายผ่อนคลายต่อไปเป็นระยะเวลาที่นานขึ้น -นอกจากนี้ เฟดยังไม่ได้ระบุถึงแนวทางการรับมือกับตลาดหากเฟดดำเนินการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งเฟดจะตรึงอัตราดอกเบี้ยต่อไปอีกระยะหนึ่ง โดยขณะนี้เฟดกำลังพิจารณาเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงกลางปีหน้า -นักวิเคราะห์ ระบุว่า ค่าเงินเยนยังคงอยู่ในแนวโน้มอ่อนค่าในรอบ 7 ปีเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์ จากกระแสคาดการณ์ที่ว่า นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น พรรค LDP จะได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งทั่วไป และจะส่งผลให้ผู้นำญี่ปุ่นสามารถสานต่ออำนาจในการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ ขณะที่การการเดินหน้านโยบายเศรษฐกิจของบีโอเจ จะส่งผลให้เงินเยนมีแนวโน้มอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง -เมื่อวานนี้ บีโอเจ ยังมีมติคงนโยบายผ่อนคลายทางการเงิน โดยระบุว่า เศรษฐกิจของประเทศฟื้นตัวในระดับปานกลาง แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากค่าใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ปรับตัวลง สรุปรายงานการประชุมของบีโออี ระบุว่า คณะกรรมาการบริหารมีความกังวลเกี่ยวกับเรื่องเงินเฟ้อที่อาจส่งผลให้เศรษฐกิจของอังกฤษอ่อนตัวลง และอาจเสี่ยงที่จะกระทบการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยูโรโซน -น้ำมันดิบ ปิดปรับตัวลดลงเมื่อคืนนี้ หลัง EIA เผยว่าสต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่แล้วปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างเหนือความคาดหมายแตะระดับ 381.1 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ 4 กรกฎาคมที่ผ่านมา -เมื่อคืนนี้ ตลาดหุ้นดาวโจนส์ปิด -0.01% หลังจากข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านของสหรัฐฯปรับตัวลง รวมถึงแรงเทขายทำกำไรจากนักลงทุนหลังดัชนีปรับตัวสูงขึ้นในช่วงก่อนหน้า -เช้านี้ ดัชนีนิกเกอิเปิด +0.69% หลังจากค่าเงินเยนอ่อนค่าแตะระดับต่ำสุดในรอบ 7 ปีเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์ จึงส่งผลให้หุ้นกลุ่มบริษัทส่งออกปรับตัวขึ้น -นักบริหารเงิน ประเมินว่า ค่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.70-32.92 บาท/ดอลลาร์ โดยภาพรวมเงินบาทค่อนข้างนิ่ง และมีฝั่ง offshore ทยอยเข้ามาซื้อดอลลาร์บ้าง ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญเมื่อคืน Building Permits ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 1.03 m ตัวเลขจริงที่ออกมาอยู่ที่ระดับ 1.08 m Housing Starts ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 1.04 M ตัวเลขจริงที่ออกมาอยู่ที่ระดับ 1.01 M ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญในคืนนี้ CPI m/m ตัวลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.1% ตัวเลขที่คาดการณ์อยู่ที่ระดับ -0.1 % Core CPI m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.1 % ตัวเลขที่คาดการณ์อยู่ที่ระดับ 0.2% Unemployment Claims ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 290 K ตัวเลขที่คาดการณ์อยู่ที่ระดับ 286K Flash Manufacturing PMI ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 55.9 ตัวเลขที่คาดการณ์อยู่ที่ระดับ 56.2 Philly Fed Manufacturing Index ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 20.7 ตัวเลขที่คาดการณ์อยู่ที่ระดับ 18.9 Existing Home Sales ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 5.17 M ตัวเลขที่คาดการณ์อยู่ที่ระดับ 5.16 M ทิศทางราคาทองคำ ราคาทองคำยังคงมีการแกว่งตัวผันผวนค่อนข้างมาก โดยที่เมื่อวานตอนปลายตลาด COMEX ปรับตัวลดลงรวดเร็วลงแรง จนหลุดระดับ 1,180 เหรียญ ลงมา และมีแรงกระชากกลับอยู่ระยะหนึ่ง ก่อนจะปรับตกอีกครั้งในช่วงเช้าวันนี้ เรียกว่าภาพรวมราคาทองคำมีความผันผวน โดยแนวต้าน 1,200 เหรียญ ยังไม่ใช่จุดที่สามารถผ่านไปได้ ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาออกมาไม่ดีนัก ได้แก่ Housing Startsอย่างไรก็ดี ดอลลาร์เมื่อเทียบกับเยนก็ยังคงแข็งค่าในรอบ 7 ปี ขณะที่ดอลลาร์เมื่อเทียบกับยูโรยังคงทรงตัวที่ระดับ 1.2535 ยูโร/ดอลลาร์ วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค ราคาทองคำกลับมาผันผวนในทิศทางขาลงระยะสั้นอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่ราคาปรับตัวลดลงเมื่อวานนี้ประมาณ 3% โดยวิเคราะห์ได้ว่า ทองคำไม่สามารถฝ่าแนวต้านสำคัญ 1,200 เหรียญได้และน่าจะกลับมาเป็นทิศทางขาลงเช่นเดิม โดยมีแนวรับแรก 1,170 เหรียญ และขณะนี้กำลังทดสอบแนวรับระดับ1,180 เหรียญอยู่ แต่คาดว่าจะทะลุกลับลงมาได้ ขณะที่แนวต้านด้านบนอยู่ที่ระดับ 1,195 เหรียญ กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ แนะนำให้เริ่มกลับทิศเป็นแนวโน้มขาลงอีกครั้งสำหรับระยะสั้นและระยะยาว ตามที่ได้กล่าวมาแล้ว ระยะที่เป็นขาขึ้นน่าจะเป็นเพียงช่วงสั้นๆเท่านั้น และน่าจะจบสิ้นไปแล้วเมื่อคืนนี้ ราคาเป้าหมายใหม่จึงกลับมาอยู่ที่ระดับ 1,140 เหรียญอีกครั้งหนึ่ง - นักลงทุนที่ถือ Long Position ปิดสถานะ หรือทำ Stop Loss ออกไป - นักลงทุนที่ถือ Short Position รอจังหวะทำ Short เพิ่มเมื่อราคาดีดตัวขึ้นมาบริเวณแนวต้าน กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading กลับมาลงทุนในแนวโน้มขาลงอีกครั้งหนึ่ง Gold Futures Z14 จะมีแนวรับที่ระดับ 18,420 บาท และแนวต้านที่ระดับ 18,620 บาท Gold Futures G15 จะมีแนวรับที่ระดับ 18,490 บาท และแนวต้านที่ระดับ 18,690 บาท บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง ประชาสัมพันธ์: 1. พบบูธ MTS Gold และโปรโมชั่นแรง X6 ภายในงาน “SET in the City 2014” ในวันที่ 20-23 พฤศจิกายน 2557 เวลา 10.00-20.00น. ณ รอยัล พารากอนฮอลล์ ชั้น 5 สยามพารากอน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม 02-770-7777 2. เรียนเชิญนักลงทุนเข้าร่วมงานสัมมนาพิเศษ “Technical Class : ทำกำไรในทองคำโดยใช้กราฟเทคนิค” (Level 2) ร่วมบรรยายโดย นพ. กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ วันที่ 24 พฤศจิกายน 2557 ณ สาขาเซ็นทรัลลาดพร้าวชั้น12 เวลา 15.00-17.00น. รับจำนวนจำกัด 40 ที่นั่ง สามารถสำรองที่นั่งได้ที่ MTS Gold Call Center: 02 770 7777 (เปิดรับเฉพาะสมาชิกของบริษัท MTS Gold และ MTS Gold Futures เท่านั้น หากผู้ที่ไม่ใช่สมาชิกต้องมีการเปิดบัญชีก่อนเข้าร่วมงานสัมมนา). 3. HOT Line: “MTS E-Business 02-770-7791” นักลงทุนสามารถสอบถามรายละเอียดด้านการลงทุนผ่านระบบอินเตอร์เน็ต ทั้งระบบ Gold Online และGold Futures ได้ตั้งแต่เวลา 09.00-24.00น. MTS Research MTS Gold Group Phone: 02-770-7777 Fax: 02-623-9366 Email: research@mtsgoldgroup.com Website: http://www.mtsgold.co.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ