ซัมมิทแคปปิตอลเผยผลผลประกอบปี 57 กำไรพุ่งเกินเป้า

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday January 23, 2015 12:49 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--23 ม.ค.--ดีซี คอนซัลแทนส์ แอนด์ มาเก็ตติ้ง คอมมูนิเคชั่นส์ ซัมมิท แคปปิตอล ผู้นำธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ ในเครือซูมิโตโม คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น บริษัทเทรดดิ้งยักษ์ใหญ่ระดับโลก เผยผลประกอบการปี 2557 ทำกำไรดีเกินคาด อานิสงส์เศรษฐกิจฟื้นตัวและการดำเนินแผนยุทธศาสตร์เชิงรุกเพื่อมุ่งสู่การเป็นผู้นำธุรกิจใน 5 ปีด้วยการขยายพื้นที่บริการให้ครอบคลุมทั่วประเทศที่คืบหน้าไปด้วยดี นายวิชิต พยุหนาวีชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสัญชาติไทยคนแรกของบริษัท ซัมมิท แคปปิตอล ลีสซิ่ง จำกัด กล่าวว่า ถึงแม้โจทย์ใหญ่ที่ได้รับมอบหมายมาจากบริษัทแม่จะเป็นการขยายตลาดธุรกิจสินเชื่อรายย่อยของบริษัทในประเทศไทย แต่ภารกิจสำคัญอันดับแรกในตอนนี้คือการปลุกปั้นธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัทให้มีส่วนแบ่งตลาดสูงสุดเป็นอันดับหนึ่งในประเทศภายในเวลา 5 ปี โดยปัจจุบัน ซัมมิท แคปปิตอลถือเป็นผู้เล่นรายใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศ ดังนั้น เพื่อให้แผนดังกล่าวบรรลุตามเป้าหมายที่วางไว้ ทางบริษัทจะต้องเพิ่มจำนวนลูกค้าสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ให้ได้เป็นเดือนละ 10,000 คัน หรือคิดเป็นวงเงินสินเชื่อเดือนละประมาณ 500 ล้านบาท และต้องขยายสาขาการบริการสินเชื่อให้ได้เป็น 50 แห่งครอบคลุม 71 จังหวัดทั่วประเทศ (ยกเว้นจังหวัดชายแดน) ตั้งแต่ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้บริหารคนใหม่ของซัมมิท แคปปิตอลเมื่อเดือนมกราคม ปี 2557 ที่ผ่านมา นายวิชิตได้ลงมือดำเนินการในหลายด้านเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับบริษัทมาอย่างต่อเนื่อง เริ่มจากคัดสรรบุคลากรคุณภาพเข้ามาเสริมทีมทั้งในระดับจัดการและปฏิบัติงาน และนำระบบเครดิต สกอริ่งรูปแบบใหม่เข้ามาใช้เพื่อยกระดับมาตรฐานการคัดกรองลูกค้า ช่วยลดปริมาณการเกิดหนี้เสียและย่นเวลาการอนุมัติสินเชื่อให้รวดเร็วมากขึ้น โดยมองว่าขั้นตอนการอนุมัติสินเชื่อของซัมมิท แคปปิตอลที่ทำได้รวดเร็วภายในเวลา 30 นาทีถือเป็นจุดแข็งที่สำคัญของบริษัท นอกจากนี้บริษัทยังประสบความสำเร็จอย่างมากในการสร้างความสัมพันธ์อันดีกับผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ท้องถิ่นในพื้นที่ต่างๆ ผ่านกิจกรรมส่งเสริมการขายหลากหลายรูปแบบ ช่วยให้การเร่งขยายเครือข่ายบริการออกไปให้ครอบคลุมทั่วประเทศรุดหน้าไปด้วยดี ทั้งนี้ปัจจุบัน ซัมมิท แคปปิตอลมีศูนย์บริการรวม 15 สาขา โดยในปี 2558 บริษัทวางแผนที่จะเปิดสาขาบริการสินเชื่อให้ได้เดือนละ 1 แห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ ซึ่งมองว่ายังมีความต้องการซื้อรถจักรยานยนต์อยู่สูง ภายใต้งบลงทุนสาขาละ 3-4 ล้านบาท นายวิชิตระบุต่อว่า ถึงแม้ยอดขายรถจักรยานยนต์ปี 2557 จะลดลง 15% จากที่เคยมียอดขายเฉียด 2 ล้านคันในปีก่อนหน้า เนื่องจากปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองที่ยื้ดเยื้อเป็นเวลานานส่งผลกระทบโดยตรงต่อบรรยากาศทางเศรษฐกิจโดยรวมและความเชื่อมั่นผู้บริโภค โดยเฉพาะอย่างยิ่งประชาชนรากหญ้าที่มีรายได้ต่อเดือน 6,000 – 15,000 บาทที่เป็นผู้ซื้อกลุ่มหลักของรถจักรยานยนต์ แต่สถานการณ์ดังกล่าวน่าจะปรับตัวดีขึ้นได้ในปีนี้ เพราะได้แรงหนุนจากการใช้จ่ายภาครัฐและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ รวมถึงการจ่ายเงินช่วยเหลือชาวนาและชาวสวนยาง โดยประเมินว่ายอดขายรถจักรยานยนต์น่าจะสามารถกลับมาแตะเฉียดหลัก 2 ล้านได้ในปีนี้ ทั้งนี้ในปี 2557 ประเทศไทยมีรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ รวมทั้งสิ้น 1,701,529 คัน ลดลง 15% จากที่จดทะเบียนไว้รวม 2,004,498 คัน ในปี 2556 แม้ความไม่แน่นอนทางการเมืองจะส่งผลฉุดรั้งยอดขายรถจักรยานยนต์ให้ลดต่ำลง แต่ซัมมิท แคปปิตอลก็สามารถปิดยอดการปล่อยสินเชื่อตลอดทั้งปี 2557 ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้รวม 3.3 พันล้านบาท โดยมีผลกำไรเพิ่มขึ้นมากกว่าปีที่ผ่านมาถึง 86 % ขณะที่อัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์ทำได้ตามเป้าที่ระดับ 5% โดยได้อานิสงส์จากสถานการณ์เศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัวภายหลังจากที่รัฐบาลออกแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ และการขยายสาขาออกไปยังจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศที่ทางบริษัทได้กระทำมาอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มมากขึ้น นอกจากนั้นยังเป็นผลมาจากความเอาใจใส่ในการเข้าถึงบรรดาตัวแทนผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์มากกว่า 400 รายในทุกพื้นที่บริการเพื่อสร้างความเชื่อมั่นและรักษาสายสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้น ประกอบกับมีการดำเนินแผนยุทธศาสตร์ติดตามหนี้ค้างชำระได้อย่างมีประสิทธิภาพ “แม้ว่าในปีที่ผ่านมาซัมมิท แคปปิตอลจะเติบโตน้อยกว่า 10% จากปี 2556 แต่ก็ยังถือว่าอยู่ในระดับที่ค่อนข้างน่าพอใจ เมื่อเทียบกับอัตราการเติบโตโดยรวมของตลาดรถจักรยานยนต์ ซึ่งลดลงถึง 15% หรือมียอดขายรวม 1.7 ล้านคัน” เขากล่าว สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2558 นายวิชิตเผยว่าจะเน้นไปที่การสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้นและดำเนินการขยายสาขาต่อไปอีก เพื่อรองรับแผนการขยายธุรกิจสินเชื่อรายย่อยอย่างเต็มรูปแบบสำหรับผู้มีรายได้ปานกลางและสูงต่อไปในอนาคต

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ