บัซซ์ซิตี้ คาดการณ์ดิจิตอลเทรนด์ประจำปีแพะทอง จะเป็นปีรุ่งโรจน์ของโฆษณาบนมือถือและช้อปปิ้งออนไลน์

ข่าวเทคโนโลยี Wednesday February 25, 2015 12:25 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--25 ก.พ.--เกรลิ่ง ตรุษจีนนี้ นับเป็นโอกาสดีที่จะวิเคราะห์ดิจิตอลเทรนด์ เพื่อทำนายและเกาะติดเทรนด์โลกดิจิตอลที่กำลังมาแรง ในปีแพะทองของเรา บัซซ์ซิตี้ ผู้ให้บริการเครือข่ายโฆษณาบนโทรศัพท์มือถือ เชื่อว่าในปีแพะทองนี้ เราจะได้เห็นการเติบโตของการทำธุรกรรม ผ่านเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่และวีดีโอบนโทรศัพท์เคลื่อนที่ การคาดการณ์ครั้งนี้ อ้างอิงมาจากข้อมูล งบประมาณการซื้อโฆษณาบนโทรศัพท์เคลื่อนที่ ที่น่าจะสูงขึ้นอย่างน่าตกใจ ในปี 2015 นอกจากนี้ นิตยสารแอดวีค ยังกล่าวว่า มูลค่าการซื้อโฆษณาบนมือถือจากทั่วโลกกำลังจะสูงถึง 64 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2015 จะมีมูลค่าสูงถึง 158 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2018 (ร้อยละ 22 ของงบประมาณโฆษณา) ส่วนรายงานการคาดการณ์ปี 2015 จากดีลอยท์ ก็เป็นไปในทิศทางเดียวกันว่า ในปี 2015 สมาร์ทโฟนกว่าหนึ่งพันล้านเครื่องจะถูกจำหน่ายออกไป และก่อให้เกิดมูลค่าการซื้อขายมากกว่า 300 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐ ด้าน ดร. เคเอฟ ไล ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บัซซ์ซิตี้ ก็ได้กล่าวว่า “จากการวิจัยและการสำรวจข้อมูลภาคอุตสาหกรรมโฆษณาและโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้งหมด ในภาคอุตสาหกรรมวีดีโอบนมือถือและการทำธุรกรรมบนมือถือใน 12 เดือนนับจากนี้ นั้นสามารถคาดหวังได้ และเราคาดการณ์ว่าปีนี้จะเป็นปีที่ทั้งสองภาคธุรกิจจะเติบโตอย่างไร้ขีดจำกัด” วีดีโอบนโทรศัพท์เคลื่อนที่ BuzzCity Prediction: Mobile 'TV' Ads Go Mainstream การคาดการณ์ของบัซซ์ซิตี้: โฆษณาโทรทัศน์ในโทรศัพท์เคลื่อนที่จะกลายเป็นสื่อโฆษณากระแสหลักจากการสำรวจผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ระดับโลกของบัซซ์ซิตี้ (รวมทั้งประเทศไทย) พบว่า มากกว่า 8 ใน 10 ของผู้ใช้โทรศัพท์มือถือดูวิดีโอคลิปในมือถือของพวกเขา และร้อยละ 27 ดูวิดีโอคลิปในมือถือทุกวัน เนื้อหาบางประเภทถูกทำขึ้นมาเพื่อใช้กับเว็บไซต์โดยเฉพาะ อย่างเช่น คลิปของนักวิจารณ์วิดีโอเกมชาวสวีเดนอย่าง ‘พิวดี้พาย’ ซึ่งมีชื่อจริงว่า เฟลิกซ์ อาร์วิด อัลฟ เคลเบิร์ก (Felix Arvid Ulf Kjelberg) เป็นยูทูปเบอร์ยอดนิยมอันดับ 1 ของโลก ด้วย 33 ล้านผู้ติดตาม และยอดวิว 7 พันล้านครั้ง ปัจจุบันนี้ บริษัทสื่อดั้งเดิม เช่น อีเอสพีเอ็น หรือ เอ็มทีวี ก็เริ่มสร้างเนื้อหาและรายการสำหรับเว็บไซต์โดยเฉพาะแล้วเช่นกัน บางครั้ง คลิปก็ถูกนำมาใช้ใหม่อีกครั้งหลังจากฉายทางโทรทัศน์แล้ว หรือบางครั้ง คลิปก็ถูกทำขึ้นมาเป็นรายการใหม่ๆ สำหรับแบรนด์ต่างๆ ส่วนบริษัทหัวก้าวหน้าอย่างดิอาจีโอ (ที่จ้าง จู๊ด ลอว์ เพื่อโฆษณาจอห์นนี่ วอล์กเกอร์ความยาว 6 นาที) และ โนเกีย นั้น ก็ได้ทำครีเอทีฟคอนเทนท์สำหรับผู้ดูวิดีโอคลิปในมือถือโดยเฉพาะแล้ว ในสหรัฐอเมริกา รายได้จากวิดีโอโฆษณาออนไลน์ถูกคาดการณ์ว่าจะถึง 5 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐภายใน 2 ปี จากยอด 2.8 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐในปี 2013 โดยรายได้จากวิดีโอโฆษณาอออนไลน์นั้นสูงขึ้นมากอย่างก้าวกระโด แซงหน้าทุกสื่อ ยกเว้นเพียงสื่อเดียวคือ ตัวโทรศัพท์เคลื่อนที่เอง เมื่อพฤติกรรมผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ ที่เริ่มเคยชินกับการดูโฆษณาก่อนและระหว่างดูรายการที่ตนเองเลือกเพิ่มมากขึ้น ผนวกกับการที่บริษัทต่างๆ เริ่มหันมาใช้โฆษณาคั่นรายการในโทรศัพท์มือถือเพิ่มมากขึ้น จึงคาดได้ว่าวิดีโอโฆษณาบนมือถือจะกลายเป้นสื่อกระแสหลักในปี 2015 การทำให้คลิปโฆษณาจะประสบความสำเร็จ คลิปโฆษณาจะต้องลิ้งค์ไปที่เว็บไซต์สำหรับมือถือหรือบล็อกต่างๆ ได้ด้วย เครื่อข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ในแอฟริกาใต้ เอ็มทีเอ็น เตอร์กิช แอร์ไลน์ และทูนโฮเต็ล เป็นตัวอย่างที่ดีของการทำคลิปโฆษณาบนมือถือ และปัจจัยสำคัญสู่ความสำเร็จนั้นคือ ต้องใช้กลยุทธ์ที่ให้ความสำคัญกับสื่อโทรศัพท์เคลื่อนที่เป็นอันดับแรก และเช็คให้แน่ใจว่าวิดีโอเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์นั้น การทำธุรการบนโทรศัพท์เคลื่อนที่ การคาดการณ์ของบัซซ์ซิตี้: การช้อปปิ้งออนไลน์ผลักดันให้เกิดการขายปลีก ทั้งผู้ค้ารายใหญ่และรายเล็ก การช้อปปิ้งทางอินเตอร์เน็ตเคยถูกผูกขาดโดยบริษัทอย่าง Amazon eBay และ Alibaba แต่เนื่องด้วยร้อยละ 69 ของผู้ใช้โทรศัพท์มือถือ มีพฤติกรรมช้อปปิ้งออนไลน์ จึงส่งผลให้จำนวนบริษัทอื่นๆ ที่เพิ่มช่องทางการซื้อของผ่านอินเตอร์เน็ต เพื่อเป็นตัวเลือกให้ผู้บริโภค เพิ่มมากขึ้น “เส้นแบ่งระหว่างการซื้อขายในร้านค้าและการซื้อขายผ่านช่องทางออนไลน์นั้นถูทำให้เบลอ เนื่องจากผู้บริโภคหลายคนหาข้อมูลทางออนไลน์ ก่อนจะไปที่ร้านหรืออาจระหว่างที่อยู่ในร้านแล้วก็เป็นไปได้ ก่อนจะทำการซื้อจริง บางคนอาจจะซื้อทางออนไลน์แต่ขอรับของที่ร้าน กระเป่าเงินดิจิตอลและการชำระเงินทางโทรศัพท์มือถือรูปแบบอื่นๆ ก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้เส้นแบ่งระหว่างร้านค้าและร้านค้าเสมือนจริงไม่ชัดเจนอีกต่อไป ” ดร. เคเอฟ ไล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง บัซซ์ซิตี้กล่าว สำหรับปีที่กำลังมาถึงนี้ ตลอดทั้งปี ร้านค้าปลีกจะตระหนักมากขึ้นว่าการซื้อขายในช่องทางออนไลน์จะไม่ทำให้การซื้อขายในร้านสูญหายไป ในทางกลับการจะเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการซื้อขายในร้านเสียด้วยซ้ำ ดร. ไล กล่าวเสริม “ซุปเปอร์มาเก็ตต่างๆ ที่มีบริการ คลิกแอนด์คอลเลค (คลิกสั่งซื้อและไปรับเอง) และ คลิกแอนด์ดิลิเวอร์ (คลิกสั่งซื้อและให้นำมาส่ง) อยู่แล้ว ก็จะใช้ซุปเปอร์มาร์เก็ตออนไลน์ต่อไป เพื่อสร้างประสบการณ์ร่วมในการช้อปปิ้ง พิคแอนด์เปย์ ในแอฟริกาใต้ บิ๊กซีในประเทศไทย และเทสโก้ โลตัส ในสหราชอาณาจักร เป็นตัวอย่างห้างซุปเปอร์มาร์เก็ตที่ประสบความสำเร็จในด้านนี้” “เมื่อบริษัทอินเตอร์เน็ตขนาดใหญ่อย่าง Amazon ขยายสาขาเพื่อ จำหน่ายสิ่งของที่จำเป็นในชีวิตประจำวันให้ผู้บริโภคมากขึ้น และผู้ผลิตเริ่มขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ โดยไม่ผ่านร้านค้าปลีกเพิ่มอีกช่องทางหนึ่ง ร้านค้าปลีกที่ไม่มีช่องทางออนไลน์สำหรับลูกค้าจะเสียส่วนแบ่งการตลาดและเสี่ยงต่อการหลุดออกจากวงจรการซื้อขายไปในที่สุด”
แท็ก ตรุษจีน  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ