“ต๊ะ บอยสเก๊าท์” ติดตราบาปทำ “แม่เสียชีวิต” ย้ำรู้สึกผิดไม่มีวัน

ข่าวบันเทิง Thursday November 26, 2015 16:40 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--26 พ.ย.--อาร์เอส นานๆ จะได้เจอตัวและอัพเดตเรื่องราวชีวิตกันซะที สำหรับ "ต๊ะ บอยสเก๊าท์" หรือ "วินรวีร์ ใหญ่เสมอ" ได้เปิดใจในรายการ "จุดเดือด" ทาง "ช่อง 2" บันเทิงมาเต็ม (หมายเลข 38) โดยพีธีกรคู่เดือด "อุ๊บ-วิริยะ พงษ์อาจหาญ" และ "โก้-ธีรศักดิ์ พันธุจริยา" ร่วมด้วย "ฝัน-ครุสุดา วันมา" ว่ายังรู้สึกผิดเหมือนเป็น "ตราบาป" ในชีวิตจนถึงทุกวันนี้ ด้วยเหตุที่เจ้าตัวเป็นต้นเหตุที่ทำให้ "แม่เสียชีวิต" แม้เวลาจะผ่านมานานแต่ความรู้สึกผิดไม่เคยจางหาย รวมทั้งอัพเดตความรักกับแฟนสาว "น้องบุ๋ม" ที่คบหากันมาร่วม 10 ปี กลับมาดูใจแม่ไม่ทัน ทำให้เสียใจและโทษจนถึงทุกวันนี้ ? "ช่วงนั้นผมติดเพื่อน ติดเที่ยววันที่เกิดเรื่องเป็นวันที่ 31 ธันวา เค้าท์ดาวน์ยังไงก็ต้องออกวันนั้นนัดเพื่อนไว้แล้ว แต่คุณแม่ไม่ให้ออก ให้อยู่บ้าน ก็คงจะเรียกร้องให้เรามีเวลาให้ครอบครัวแหละ ผมดื้อ ผมไม่เชื่อแม่ ทะเลาะกับแม่แล้วก็ขับรถออกจากบ้าน คำสุดท้ายที่แม่ตะโกนไล่หลังมาก็คือจะจับบวช ผมกำลังสนุกอยู่กับเพื่อนเวลาประมาณตี 1 ครึ่ง เกือบตี 2 ก็มีข้อความส่งมาให้รีบมาที่โรงพยาบาลด่วนคุณแม่ไม่สบาย ตอนนั้นในใจมันรู้สึกวูบเลย เพราะแม่ผมไม่ค่อยจะไม่สบายนะ แกเข้าโรงพยาบาลเช็คตลอดตรวจสุขภาพตลอด ภาพที่เห็นภาพแรกพอลงจากรถที่โรงพยาบาลคือพี่สาววิ่งมาร้องไห้แบบที่เราไม่เคยเห็น แล้วก็เดินไปอีกห้องหนึ่งไปเจอภาพคุณแม่คลุมผ้าแล้ว บ้าเลย บ้าแบบตบตัวเอง ทำอะไรกับตัวเองได้ทำหมด วิ่งเอาหัวชนข้างฝา พ่อ พี่ต้องล็อคตัวเอาไว้แล้วก็เป็นอยู่อย่างนั้นจนเช้า" ตอนนั้นอายุเท่าไหร่ ? "25 ครับ เบญเพศ สิ่งแรกในเบญจเพศของผมคือแม่เสีย ตอนนั้นทำอะไรไม่ถูกหัวใจแหลกสลายครับ เพราะว่าสนิทกับแม่ ผมจะสนิทกับแม่เป็นอริกับพ่อ(ยิ้ม) ตอนนั้นแย่เลยทำอะไรไม่ถูก ตอนแรกไม่คิดอะไร เสียสติไป จนพ่อมาปลอบว่าให้ตั้งสตินะ เราก็ค่อยๆ ดีขึ้น ตอนแรกก็ยังไม่คิดว่าเป็นเพราะเราอะไรหรอก จนเหตุกาณณ์มันผ่านไป ถึงมาย้อนคิดว่าถ้าวันนั้นเราไม่ออกจากบ้านคุณแม่อาจจะไม่เป็นอย่างนี้ก็ได้ เพราะว่าที่คุณแม่เสียหมอบอกว่าหัวใจล้มเหลว แต่อาการที่แม่ผมเป็นก็คือแกนอนอยู่แล้วลุกจากเตียงมาปลุกพ่อแสดงอาการว่าหายใจไม่ได้ จนพ่อผมเข้ามาอุ้มจะเอาไปโรงพยาบาล ก็คืออาจจะเกิดจาการเครียดมาก หรืออะไรก็แล้วแต่ แต่ถ้าผมอยู่บ้านวันนั้นเหตุการณ์อย่างนี้อาจจะไม่เกิดขึ้น" ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ อยากทำอะไรให้คุณแม่ ? "สิ่งที่เราหลงไป สิ่งหนึ่งคือผมได้สร้างให้แกไง คนรอบครัวเราเคยล้มจากการทำธุรกิจโรงงานกระเป๋าหนังแล้วพอผมเข้าวงการผมก็เป็นคนดูแลครอบครัว เป็นคนหาทุกอย่างมาให้ครอบครัว พอจุดหนึ่งที่เราทำได้มันทำให้เราหลงลืมไป ทำให้เราติดเพื่อน เที่ยว" หลงลืม ระเริงชื่อเสียง ? "งานมันเยอะมาก เสร็จจากงานเราก็อยากเที่ยวแล้วจะมีเวลาที่เป็นความสนุก ก็เลยติดเพื่อนแล้วก็ให้เวลากับเพื่อนมาก ผมซื้อรถคันแรกผมซื้อรถกระบะทั้งๆ ที่ผมซื้อรถเก๋งได้เพราะอะไรรู้ไหมครับ เพราะว่าขนเพื่อนไปไม่หมด เพื่อนนอกวงการครับ เพื่อนเรียนมาด้วยกัน ไอ้ความที่เราให้เพื่อนมากก็เพราะว่าเพื่อนขอตังค์แม่มา แต่เราทำงานได้เงินแล้วทุกวันศุกร์ผมจะขับรถไปรับเพื่อนที่โรงเรียน ไปเที่ยวต่างจังหวัด โดยที่เราเป็นคนจ่ายเงิน เป็นอยู่อย่างนั้นมาพักใหญ่ จนพ่อกับแม่นี่เบื่อเลย" วันที่เรามีเรื่องเพื่อนช่วยเราไหม ? "(ส่ายหน้า)นี่คือสัจธรรมครับ" มาที่เรื่องปัจจุบัน คบกับแฟนมา 10 ปีแล้ว ? "10 ปี 5 เดือน แรกๆ เขาอาจจะยังไม่ค่อยรู้เรื่องข่าวเท่าไหร่ รู้แค่ว่าเป็นดารา คบแรกๆ เขาก็ถามเรื่องเกี่ยวกับคดี(ยาเสพติด) เราก็อธิบายให้เขาฟัง ก็ใช้ความจริงใจ แล้วก็มีน้ำตานิดๆ (ยิ้ม) เราก็ระบายจากใจ เขาเห็นน้ำตาก็เชื่อใจเรา แล้วก็พิสูจน์เรา" มีข่าวทำร้ายผู้หญิงด้วย เขากลัวไหมเรื่องนี้ ? "เขาก็ถามครับ ผมต้องกราบเขามากๆ เลยเพราะว่าวันที่ผมไปหาเขาเนี่ยภาพพจน์ก็เป็นศูนย์ ฐานะก็เป็นศูนย์ ผมยังตะเกียดตะกายอยู่เลย แต่เขาก็ให้โอกาสเปิดรับที่จะพิจารณาผมก็ขอบคุณมากๆ เลย ที่ให้เวลากับผมได้พิสูจน์ตัวเอง รวมถึงพ่อแม่เขาด้วย" ครอบครัวเขาโอเค ? "โชคดีครับที่คุณแม่เขาทันตอนที่ผมดังๆ คุณแม่เคยดู บ้านเขาทำร้านอาหารแล้วลูกน้องกรี๊ดยกชุด ดังๆ ครับผม แล้วก่อนที่จะเข้าบ้านเขา แม่เขาก็เป็นแฟนละครผมเรื่องเกิดแต่ตม เรื่องนั้นเป็นคนดีมากๆ ครับ คุณแม่ก็อิน แต่แกก็ดูแหละว่าพัฒนาการจะเป็นไปทางไหน พอเราอยู่ในร่องในรอยเขาก็ให้การสนับสนุน" คบกันมา 10 ปี จนตอนนี้อายุ 42 แล้ว ทำไมไม่แต่ง ? "ไม่ใช่ว่าจะไม่แต่งนะครับ เพียงแต่เรามองเหมือนกันว่าพิธีวิวาห์เนี่ยมันไม่ใช่ทั้งหมด มันไม่ได้อยู่เหนือความเข้าใจของเรา วันหนึ่งต้องแต่งแน่ๆ เพราะว่าผู้หญิงกับพิธีวิวาห์เนี่ยมันต้องมี(ยิ้ม) ครั้งหนึ่งในชีวิตของเขาต้องจัด แต่จะเป็นเมื่อไหร่เรายังไม่ได้วางแพลนกัน" ตอนนี้อยู่ด้วยกันแล้ว ? "คำถามอย่างนี้ผมว่าตอบยังไงก็ไม่แฟร์สำหรับตัวผู้หญิง เรามีความคิดที่มองไปข้างหน้าเหมือนกัน วางแผนอนาคตไว้เหมือนกันแล้ววันหนึ่งเราก็จะพิสูจน์ให้ดู ดูอย่างอั๋นสิกับเจนนี่ตั้ง 20 กว่าปี กว่าจะแต่ง ผมมองว่าพิธีวิวาห์นี้ไม่ได้เป็นการบอกว่าเราจะไม่แยกกัน งานวิวาห์ไม่ใช่ทั้งหมด ความเข้าใจซึ่งกันและกันความรู้สึกว่าเขามีความสำคัญยังไงกับชีวิตเราอันนี้สำคัญมากกว่า" ติดตามรายการ "จุดเดือด" ได้ทาง "ช่อง 2" ข่าวลึก บันเทิงร้อน ทุกวัน จันทร์-ศกร์ เวลา 11.00/15.30/20.00 น. และ ติดตามความเคลื่อนไหวทั้งหมดได้ที่ www.facebook.com/thaich2

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ