สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 03 กุมภาพันธ์ 2559 โดย YLG

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday February 3, 2016 17:06 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--3 ก.พ.--พีอาร์ดีดี สภาวะตลาดวันที่ 03 กุมภาพันธ์ 2559 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,124.80 -1,129.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 19,100 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 50 บาทจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,050 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFG16 อยู่ที่ 19,160 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 30 บาทจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,130 บาท (หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.05 น.ของวันที่ 03/02/16) แนวโน้มวันที่ 04 กุมภาพันธ์ 2559 ความวิตกเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด จนราคาน้ำมันดิบดิ่งลงอีกครั้ง เมื่อยังไม่แผนการที่ชัดเจนในการปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันหลังจากความพยายามของรัฐมนตรีพลังงานของรัสเซียกับรัฐมนตรีน้ำมันของเวเนซุเอลาได้หารือกัน และความกังวลว่าต่อราคาน้ำมันเพิ่มมากขึ้นจากพยากรณ์ว่าอากาศจะอบอุ่นขึ้นของสหรัฐในช่วง 8 สัปดาห์สุดท้ายของฤดูหนาวระหว่างเดือนพฤศจิกายน-มีนาคมได้ส่งผลลบต่อความต้องการใช้น้ำมัน ขณะที่การปิโตรเลียมสหรัฐ (API) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐพุ่งขึ้น 3.8 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 500.4 ล้านบาร์เรลในช่วงสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 29 มกราคม ทิศทางราคาน้ำมันดิบร่วงลงต่อเนื่องและทำให้มีแรงเทขายสินทรัพย์เสี่ยงออกมา โดยตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลดลงจากผลกระทบอย่างหนักต่อหุ้นกลุ่มพลังงานที่ดิ่งลง และเพิ่มความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโลกที่กำลังชะลอตัวลงตามทิศทางราคาน้ำมัน หลังจากราคาน้ำมันดิบเบรนท์ดิ่งลงแตะจุดต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2003 ที่ 27.10 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อ วันที่ 20 มกราคมที่ผ่านมา ส่งผลให้ทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ทั้งนี้ แรงเทขายสินทรัพย์เสี่ยงได้ส่งผลลบอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐดิ่งลงแตะจุดต่ำสุดรอบ 9 เดือน โดยปัจจัยนี้ส่งผลลบต่อดอลลาร์สหรัฐซึ่งยิ่งกระตุ้นแรงซื้อทองคำให้เพิ่มขึ้นประกอบกับมุมมองต่อราคาทองคำเป็นบวกมากขึ้น เมื่อสมาคมทองคำจีนเปิดเผยปริมาณการใช้ทองคำของจีนทั้งหมดเพิ่มขึ้น 3.66% ในปีที่ 2015 สู่ระดับ 985.9 ตัน แต่จีนเองผลิตทองได้เพียง 450.05 ตันในปี 2015 ลดลง 0.39 % จากปี 2014 แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวลงไม่ได้ส่งผลลบต่อปริมาณการใช้ทองคำเลย เบื้องต้นวายแอลจีประเมินว่าหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือบริเวณ 1,120 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้นแสดงให้เห็นกำลังซื้อที่ค่อนข้างมาก ซึ่งหากราคาทองคำไม่หลุดโซนนี้ ราคาทองคำจะมีการเคลื่อนไหวในทิศทางที่ค่อยๆขยับขึ้น กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจี แนะนำให้เก็งกำไรระยะสั้น เนื่องจากราคาทองคำยังมีแนวโน้มการเคลื่อนไหวในลักษณะ Sideway Up ซึ่งราคาทองคำยังมีการแกว่งตัวและยังมีความผันผวน ซึ่งหากราคาทองคำลงมาทดสอบบริเวณแนวรับ 1,120 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง และยังยืนเหนือได้จะ ดีดตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้าน โดยประเมินแนวต้านไว้ที่ 1,138-1,140 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากขึ้นไปทดสอบแนวต้านแล้วไม่สามารถผ่านไปได้ก็จะเห็นการย่อตัวของราคาลง โดยประเมินแนวรับที่ 1,120 แต่หากยืนไม่ได้จะมีแนวรับถัดไปที่ 1,110 ดอลลาร์ต่อออนซ์ การตั้งจุดตัดขาดทุนหรือจุดทำกำไรต้องชัดเจน นักลงทุนระยะยาวหากไม่อยากรับความเสี่ยงมากนักให้ชะลอการลงทุนเพื่อรอดูการตั้งฐานก่อนเข้าลงทุนอีกครั้ง ทองคำแท่ง (96.50%) แนวรับ 1,120 (18,950บาท) 1,110 (18,780บาท) 1,100 (18,610บาท) แนวต้าน 1,140 (19,290บาท) 1,152 (19,500บาท) 1,160 (19,630บาท) GOLD FUTURES (GFG16) แนวรับ 1,120 (19,050บาท) 1,110 (18,880บาท) 1,100 (18,710บาท) แนวต้าน 1,140 (19,400บาท) 1,152 (19,600บาท) 1,160 (19,700บาท) หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999 และการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร.02-687-9888 สนใจลงทุนทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส สามารถติดตามสัมมนาทุกสัปดาห์ได้ที่ www.ylgbullion.co.th หรือ www.ylgfutures.co.th สอบถามเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9999 ต่อ 4148

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ