บมจ.ยูนิเวอร์แซล ยูทีลิตี้ส์ โชว์ไตรมาส 1/59 กำไรสุทธิพุ่ง 41% หลังรายได้จากธุรกิจจำหน่ายน้ำประปาเติบโตแรง

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday June 1, 2016 11:47 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--1 มิ.ย.--เอ็ม ที มัลติมีเดีย ยูนิเวอร์แซล ยูทีลิตี้ส์ หรือ UU ผู้นำธุรกิจบริหารกิจการประปาอย่างครบวงจร โชว์ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/59 ทำกำไรสุทธิพุ่ง 41% หลังรับรู้รายได้จากบริษัทเอ็กคอมธาราที่เข้าซื้อหุ้นเมื่อเดือนสิงหาคมปีก่อน ช่วยหนุนรายได้จากการขายน้ำประปาพุ่งขึ้นมากกว่า 50% ด้านผู้บริหารคาดแนวโน้มยอดจำหน่ายน้ำประปาซึ่งเป็นสัดส่วนรายได้หลักยังเติบโตต่อเนื่อง หลังปริมาณความต้องการใช้น้ำประปาเพิ่มสูงขึ้น นายเชิดชาย ปิติวัชรากุล รักษาการกรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูนิเวอร์แซล ยูทีลิตี้ส์ จำกัด หรือ UU ผู้นำธุรกิจบริหารกิจการประปาอย่างครบวงจร เปิดเผยถึงภาพรวมผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/59 บริษัทฯ สามารถผลักดันการเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง โดยทำกำไรสุทธิเติบโตถึง 41% หรือมีกำไรสุทธิ 67.84 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ที่มีกำไรสุทธิ 48 ล้านบาท ขณะที่รายได้รวมทำได้ 348.16 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.77% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 288.27 ล้านบาท สำหรับผลการดำเนินงานที่เติบโตได้อย่างโดดเด่นนั้น มาจากปัจจัยการรับรู้รายได้จาก บริษัท เอ็กคอมธารา จำกัด ที่ UU เข้าซื้อหุ้นและเป็นผู้ถือใหญ่ในช่วงเดือนสิงหาคมปีที่ผ่านมา ที่เข้ามาช่วยเสริมความแข็งแกร่งด้านผลการดำเนินงาน ประกอบกับยอดการจำหน่ายน้ำประปาในช่วงฤดูร้อนเพิ่มสูงขึ้นจากความต้องการใช้น้ำของผู้บริโภค ส่งผลให้รายได้จากการจำหน่ายน้ำประปาซึ่งเป็นสัดส่วนรายได้หลักเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยไตรมาสแรกปีนี้มีรายได้จากยอดจำหน่ายน้ำประปาอยู่ที่ 253.71 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 52.16% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำรายได้ 166.74 ล้านบาท ขณะเดียวกัน บริษัทฯ สามารถบริหารจัดการด้านต้นทุนดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพส่งผลให้กำไรสุทธิเติบโตได้โดดเด่นเช่นกัน "เราพอใจกับผลการดำเนินงานไตรมาส 1/59 ที่เติบโตได้ดี เนื่องจากรายได้จากการจำหน่ายน้ำประปายังเติบโตได้ดีมาก ประกอบกับการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพเพื่อรองรับความต้องการใช้น้ำประปาที่เพิ่มขึ้นจึงเชื่อว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานโดยรวมในปีนี้จะขยายตัวได้ดีได้เช่นกัน" นายเชิดชาย กล่าว รักษาการกรรมการผู้จัดการ บมจ.ยูนิเวอร์แซล ยูทีลิตี้ส์ กล่าวว่า บริษัทฯ ได้ประเมินความต้องการใช้น้ำประปาของไทยทั้งในภาคอุตสาหกรรมและภาคครัวเรือนยังมีทิศทางที่เพิ่มขึ้น โดยภาคอุตสาหกรรมจะมีความต้องการใช้น้ำประปาในภาคการผลิตสูงขึ้นตามการขยายตัวของภาพรวมเศรษฐกิจ ขณะที่การใช้น้ำประปาในภาคครัวเรือนนั้นพบว่าอัตราการใช้น้ำในเขตเมืองสูงกว่าในเขตชนบท ซึ่งเกิดจากการขยายตัวของชุมชนเมือง ส่งผลต่อปริมาณความต้องการใช้น้ำประปาที่เพิ่มขึ้นตามไปด้วย ดังนั้น บริษัทฯ จึงมีแผนลงทุนเพื่อรองรับความต้องการใช้น้ำประปา เช่น ในพื้นที่จังหวัดชลบุรีที่มีการขยายตัวของโรงงานอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนประชากรและความต้องการใช้น้ำในพื้นที่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในพื้นที่ตำบลบ่อวิน อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ดังนั้น บริษัทฯ จึงได้ใช้งบลงทุน 92.70 ล้านบาท เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตน้ำประปาในพื้นที่ดังกล่าวขึ้นอีก 12,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน หรือเพิ่มขึ้นอีก 70-80% จากเดิมที่มีกำลังการผลิต 16,800 ลูกบาศก์เมตร ขยายเพิ่มเป็น 28,800 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน นอกจากนี้ยังมีการลงทุนระบบสูบน้ำประปาเพื่อจ่ายน้ำประปาไปยังโซนสูงและพื้นที่ใกล้เคียง รวมถึงวางท่อขยายเขตพื้นที่ให้บริการน้ำประปาเพื่อรองรับจำนวนผู้ใช้น้ำในเขตพื้นที่ดังกล่าวเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ แผนลงทุนดังกล่าวเชื่อว่าจะสามารถรองรับปริมาณความต้องการใช้น้ำประปาในพื้นที่ได้อย่างเพียงพอและยังส่งผลดีต่อภาพรวมผลการดำเนินงานของบริษัทฯ เติบโตได้ตามเป้าหมายด้วย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ