ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ที่คนไทยทั้งประเทศจะได้มีส่วนร่วม บันทึกล้านเรื่องราวอันดีงามและล้ำค่าบนผืนแผ่นดินไทย กับโครงการ “ภาคภูมิแผ่นดินไทย” เติมความภูมิใจให้เต็มชาติ

ข่าวทั่วไป Tuesday June 28, 2016 09:33 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--28 มิ.ย.--บางกอก พับบลิค รีเลชั่นส์ · ประกาศเปิดตัวโครงการความร่วมมือระดับชาติ ที่ทุกภาคส่วนจะผนึกกำลัง ร่วมกัน "สืบค้น-เก็บรวบรวม-จารึก-ส่งต่อ" เรื่องราวความภาคภูมิใจของไทย สู่คนรุ่นหลัง · ครั้งแรกและครั้งที่ใหญ่ที่สุดของการจารึกเรื่องราวอันดีงามและล้ำค่า บนแผ่นดินไทย เพื่อจัดทำคลังสมบัติดิจิตอล โดยคนไทยทุกคน · เชิญชวนชาวไทยทั้งประเทศ ส่งรูปภาพหรือวิดีโอพร้อมคำบรรยายเข้ามาที่โครงการผ่านหลายช่องทาง ดังนี้ www.theprideofthailand.com, ตู้ ปณ.๑ ปณส. คลองจั่น บางกะปิ กรุงเทพฯ ๑๐๒๔๐, "ภาคภูมิแผ่นดินไทย" LINE Official Account ของโครงการ, ส่งกับทีมงานหรือเครือข่ายในการลงพื้นที่ในจังหวัดต่างๆ หรือส่งเรื่องราวเข้ามาที่จุดรับเรื่องที่กำหนด ตั้งแต่วันที่ ๒๗ มิถุนายน ถึง ๓๐ กันยายน ๒๕๕๙ สำหรับการรวบรวมข้อมูลในระยะแรก โครงการ "ภาคภูมิแผ่นดินไทย" เติมความภูมิใจให้เต็มชาติ ประกาศเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันนี้ เป็นโครงการที่ผนึกความร่วมมือสานพลังประชารัฐ จากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ในการเชิญชวนคนไทยทั้งประเทศ ช่วยกันเก็บรวบรวมและบันทึกเรื่องราวอันล้ำค่าและดีงามที่น่าภาคภูมิใจของคนไทยไว้ในคลังสมบัติดิจิตอล ซึ่งจะเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของการจารึก เพื่อส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นให้คงอยู่คู่คนไทย และประกาศเรื่องราวดีงามบนผืนแผ่นดินไทยให้เป็นที่จดจำไปทั่วโลก โครงการ "ภาคภูมิแผ่นดินไทย" เกิดจากความคิดริเริ่มของ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด เจ้าของและผู้บริหาร สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ และ บริษัท ไอคอนสยาม จำกัด ร่วมกับ มูลนิธิเสริมสร้างเอกลักษณ์ของชาติ โดยการผนึกกำลังความร่วมมือกับ สานพลังประชารัฐ ซึ่งมีองค์กรภาครัฐที่ให้การสนับสนุน อาทิ สำนักนายกรัฐมนตรี, กระทรวงกลาโหม, กองบัญชาการกองทัพไทย, กองทัพบก, กองทัพเรือ, กองทัพอากาศ,กระทรวงมหาดไทย, กระทรวงเกษตรและสหกรณ์, กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา, กระทรวงวัฒนธรรม, หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย, บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด, บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน), กรุงเทพมหานคร, และกรมประชาสัมพันธ์ ภาคประชาสังคม ได้แก่ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน, ศูนย์คุณธรรม (องค์กรมหาชน), ลูกเสือชาวบ้าน, สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์, สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน), สมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านแห่งประเทศไทย, เครือข่ายแอมบาสเดอร์ของโครงการ One Young World ในประเทศไทย, สมาคมศิลปินตลก ประเทศไทย, สมาคมสื่อสารมวลชนมุสลิมแห่งประเทศไทย และภาคีพันธมิตรหลักจากภาคเอกชน ได้แก่ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน), บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน), บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน), บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน), บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพลกซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน), สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3, บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน), LINE ประเทศไทย, บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน), บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน), บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน), บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน), บริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน), บริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน), บริษัท ไทยซัมซุงอิเล็คโทรนิคส์ จำกัด, บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน), บริษัท ไมดาส โกลบอล มีเดีย, บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน), กระปุกดอทคอม และเว็บไซต์พันทิป ตลอดจนมหาวิทยาลัยต่างๆ หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ ประธานโครงการภาคภูมิแผ่นดินไทย กล่าวว่า "โครงการภาคภูมิแผ่นดินไทย มีวัตถุประสงค์ที่จะเชิญชวนให้คนไทยทุกคนช่วยกันสืบค้นเรื่องราวที่ดีงาม สิ่งที่เป็นสุดยอด ตลอดจนสิ่งที่เป็นความภาคภูมิใจของคนไทยจากทุกชุมชนทั่วประเทศและคนไทยที่อยู่ในต่างประเทศ เก็บรวบรวมให้ได้จำนวนมากที่สุดในประวัติศาสตร์ เพื่อจารึกไว้เป็นสมบัติอันล้ำค่าของชาติ ส่งต่อเรื่องราวอันเป็นความภาคภูมิใจของแผ่นดินไทยสู่ลูกหลาน และให้คงอยู่ตลอดไป จะเป็นเสมือนคลังข้อมูลที่เก็บรวบรวมเรื่องราวที่ดีงามของประเทศไทย ทั้งข้อมูลที่มีอยู่แล้วจากหน่วยงานต่างๆ และจากประชาชนคนไทยทั้งประเทศ ผมขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่มีส่วนร่วมในการดำเนินโครงการภาคภูมิแผ่นดินไทย และทำให้เห็นถึงความเข้มแข็งของภาคเอกชนที่เป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศ ช่วยส่งเสริมค่านิยมร่วมในความภูมิใจของความเป็นไทยให้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งปลูกฝังความรัก หวงแหนในสิ่งล้ำค่าที่มีอยู่ทั่วผืนแผ่นดินไทย ทั้งนี้เพื่อสอดรับกับ มหามงคลวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จขึ้นครองสิริราชสมบัติครบ ๗๐ ปี และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงเจริญพระชนมพรรษา ๘๔ พรรษา และเพื่อเผยแพร่ภาพลักษณ์ที่ดีงามของประเทศไทยให้เป็นที่รับรู้ทั่วโลก" ร้อยโท ดร.สุวิทย์ ยอดมณี รองประธานกรรมการและเลขาธิการ มูลนิธิเสริมสร้างเอกลักษณ์ของชาติ กล่าวว่า "มูลนิธิเสริมสร้างเอกลักษณ์ของชาติ มีเป้าหมายที่จะสนับสนุนโครงการภาคภูมิแผ่นดินไทยอย่างเต็มกำลัง เพื่อเป็นสิ่งที่แสดงถึงศักดิ์ศรี เกียรติยศและความภาคภูมิใจร่วมกันของคนไทยพร้อมกับส่งเสริมและสนับสนุนให้เยาวชนได้เรียนรู้แบบอย่างที่ดี อันเป็นเอกลักษณ์ของชาติที่จะพัฒนาตนเองและมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศ ด้วยการนำเสนอเอกลักษณ์ของไทย ความเจริญรุ่งเรืองทางอารยธรรม ภูมิปัญญา วิถีแบบไทยที่ทรงคุณค่าในแขนงต่างๆ สร้างเสริมคุณธรรมจริยธรรม ที่จะช่วยส่งพลังบวกต่อการพัฒนาและรักษาไว้ซึ่งสิ่งดีงามของประเทศไทย และเป็นประโยชน์ต่อชุมชน ท้องถิ่น และประเทศสืบไป" นายกลินท์ สารสิน ผู้แทนคณะทำงานสานพลังประชารัฐด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยวและไมซ์ กล่าวว่า "โครงการภาคภูมิแผ่นดินไทย นับเป็นหนึ่งการประสานพลังในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่เกิดจากความร่วมมือของทุกภาคส่วนครั้งยิ่งใหญ่ ด้วยการบอกเล่าเรื่องราวที่มีคุณค่า (Storytelling) เกี่ยวกับสิ่งดีงามของประเทศโดยประชาชนคนไทย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยว ผลิตผลทางการเกษตร อาหารไทย คนไทย หรือวัฒนธรรมประเพณี หรือความเป็นไทยที่งดงามที่ชาวต่างชาติรักและชื่นชมจัดทำในรูปแบบคลังข้อมูลขนาดใหญ่ โดยเรื่องราวเหล่านี้ จะเป็นแหล่งข้อมูลสำคัญ ที่จะช่วยส่งเสริมภารกิจของการท่องเที่ยวในประเทศไทยได้โดยตรง การสร้างมูลค่าจากองค์ความรู้ในชุมชนให้เป็นที่รู้จัก เพิ่มประสิทธิภาพและยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับสินค้าในชุมชนและบริการ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยี่ยมชมและจับจ่าย และนำมาสู่การเพิ่มและกระจายรายให้กับชุมชนท้องถิ่นที่มากขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นการยกระดับการท่องเที่ยวไทยให้เกิดรายได้อย่างมีคุณภาพและยั่งยืน" นางชฎาทิพ จูตระกูล รองประธานโครงการ "ภาคภูมิแผ่นดินไทย" และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด ผู้ริเริ่มโครงการฯ กล่าวว่า "โครงการภาคภูมิแผ่นดินไทย เกิดขึ้นด้วยสำนึกในบุญคุณของแผ่นดินไทย แผ่นดินที่ให้ที่อยู่อาศัยและทำกิน เราช่างโชคดีที่ได้เกิดมาเป็นคนไทย ประเทศของที่มีเรื่องดีงามสิ่งล้ำค่าอยู่มากมาย ภาคเอกชนนำโดยบริษัท สยามพิวรรธน์ และบริษัท ไอคอนสยาม จึงได้ริเริ่มที่จะระดมความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ซึ่งถือเป็นครั้งประวัติศาสตร์ที่เราจะได้มาช่วยกันรณรงค์ให้คนไทยได้ภาคภูมิใจในความเป็นไทย และเพื่อประกาศให้โลกรู้ว่าประเทศไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก" "โครงการนี้จะสำเร็จอย่างแท้จริงได้ต้องสร้างการมีส่วนร่วมโดยประชาชนคนไทยทั้งประเทศ เราตั้งเป้าที่จะรวบรวมเรื่องราวที่ให้ได้จำนวนมากที่สุดในประวัติศาสตร์ ต้องเข้าถึงประชาชนทุกกลุ่มทั้งคนรุ่นใหม่โดยใช้ช่องทางออนไลน์ เซเลป ดาราที่มีชื่อเสียงตลอดจนผู้นำความคิดช่วยจุดกระแสประชาสัมพันธ์ รวมทั้งทำงานร่วมกับภาคีที่เข้มแข็งในภูมิภาคเพื่อให้เข้าถึงประชาชนที่อยู่ในชุมชนท้องถิ่นให้ทุกคนได้มีส่วนร่วม และสร้างคลังสมบัติดิจิตอล ที่เก็บรูปภาพ วิดีโอ และเรื่องราว ที่ส่งมาจาก คนไทยทั่วทั้งประเทศ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนบนผืนแผ่นดินไทยก็ตามให้คงอยู่สืบไป โดย ๑๐๐,๐๐๐ คนแรกที่ส่งรูปภาพและวิดีโอเข้าร่วมโครงการจะได้รับ เข็มกลัดสัญลักษณ์ของโครงการไปเป็นที่ระลึก" นางชฎาทิพ กล่าว คนไทยทุกคนสามารถมีส่วนร่วมในโครงการแห่งความภาคภูมิใจครั้งประวัติศาสตร์นี้ได้ โดยการส่งรูปภาพหรือวิดีโอพร้อมคำบรรยาย บอกเล่าเรื่องราวอันดีงามและล้ำค่าบนแผ่นดินไทยที่เป็นความภาคภูมิใจของชาติซึ่งมีอยู่ทั่วแผ่นดินไทย อาทิ เรื่องราวเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ที่คนไทยรักและเทิดทูน คนดีที่น่าชื่นชม วัฒนธรรมประเพณีไทยอันเป็นเอกลักษณ์ อารยธรรมไทยอันเก่าแก่และรุ่งเรือง ความศิวิไลซ์ที่แฝงในวิถีชีวิตไทย ความคิดสร้างสรรค์ ความละเอียดอ่อนของงานฝีมือของคนไทยศิลปะและงานฝีมือพื้นบ้าน อาหารไทยที่เป็นที่สุดของโลก ผลผลิตในประเทศไทยที่ไม่มีที่ไหนเทียบเทียม สิ่งประดิษฐ์ ภูมิปัญญาที่สืบทอดกันมาหลายยุคหลายรุ่น และความเป็นชาติที่พิเศษไม่เหมือนที่ใดในโลก โดยส่งรูปภาพหรือวิดีโอพร้อมคำบรรยาย มาได้ตามช่องทางดังนี้ ๑. ส่งจดหมาย หรือไปรษณียบัตร คำบรรยายความยาวไม่เกิน ๒๐๐ คำ พร้อมภาพถ่ายขนาด ไม่ต่ำกว่า ๕ x ๗ นิ้ว จ่าหน้าซองถึง "โครงการภาคภูมิแผ่นดินไทย" ตู้ ปณ.๑ ปณส.คลองจั่น บางกะปิ กรุงเทพฯ ๑๐๒๔๐ ๒. ทางเว็บไซต์โครงการที่ www.theprideofthailand.com โดยพิมพ์เรื่องราวความภาคภูมิใจลงในแบบฟอร์มออนไลน์ ความยาวไม่เกิน ๒๐๐ คำ พร้อมอัพโหลดรูปภาพขนาดไม่เกิน ๕ เมกาไบต์ หรือวิดีโอขนาดไม่เกิน ๑๕ เมกาไบต์ ๓. ส่งเรื่องราวผ่าน "ภาคภูมิแผ่นดินไทย" LINE Official Account ของโครงการ ๔. ส่งเรื่องราวผ่านทีมงานที่ลงพื้นที่ในจังหวัดต่างๆ ได้แก่ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน และลูกเสือชาวบ้าน ๕. ส่งเรื่องราวเข้ามาที่จุดรับเรื่องที่ให้การสนับสนุนโครงการฯ ตามที่ระบุบนเว็บไซต์ อาทิ ธนาคารไทยพาณิชย์ทุกสาขาทั่วประเทศ และโรงภาพยนตร์เมเจอร์ ซีนีเพลกซ์ ทุกสาขาทั่วประเทศ โครงการนี้ได้รับความร่วมมือจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิและผู้เชี่ยวชาญจากสาขาต่างๆ ที่จะช่วยดูแลภาพรวมของข้อมูลเพื่อนำเสนอเอกลักษณ์ของไทย ความเจริญรุ่งเรืองทางอารยธรรม เศรษฐกิจ สังคม ภูมิปัญญา วิถีแบบไทยที่ทรงคุณค่าให้เป็นสัญลักษณ์แห่งความรักความภาคภูมิใจในความเป็นชาติไทย รูปภาพหรือวิดีโอพร้อม เรื่องราวที่ส่งเข้ามาจะเป็นการถ่ายทอดแง่มุม "ความเป็นไทยที่ประชาชนภูมิใจ" ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีงาม มีคุณค่า เป็นเรื่องจริงที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของคุณธรรม ความมีจริยธรรมและศีลธรรมอันดีงาม สร้างค่านิยมร่วมในความรัก ความสามัคคีของคนในชาติ โดยจะปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์ของโครงการ ซึ่งจัดแสดงในรูปแผนที่ประเทศไทยเพื่อสื่อให้เห็นถึงที่มาของเรื่องราวที่ส่งมาจากคนไทยทั่วทั้งประเทศ โดยการจัดรวบรวมสิ่งล้ำค่าของเมืองไทยจะแบ่งออกเป็น ๙ หมวด ได้แก่ หมวดสถาบันพระมหากษัตริย์ พระราชกรณียกิจและศูนย์การเรียนรู้ตามแนวทางพระราชดำริทั้งในประวัติศาสตร์และในปัจจุบัน, หมวดบุคคลสำคัญที่สร้างชื่อเสียง สร้างคุณประโยชน์ เพื่อประเทศชาติ และเพื่อส่วนรวมอย่างยั่งยืน, หมวดอาหารไทย ซึ่งรวมถึงคนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องอาหาร วัตถุดิบ และพืชพันธุ์, หมวดสถานที่และสถาปัตยกรรม สถานที่ที่มีความสำคัญด้านต่างๆ, หมวดศิลปะ ที่เป็นภูมิปัญญาของไทย ภูมิปัญญาพื้นบ้าน หรือได้รับอิทธิพลมาจากวัฒนธรรมอื่นแต่ผสมกลมกลืนอยู่ในวิถีชีวิตของไทยอย่างแนบแน่น รวมถึงศิลปะร่วมสมัย, หมวดงานฝีมือและหัตถกรรม, หมวดประเพณี วัฒนธรรม และวิถีชีวิต, หมวดภูมิปัญญา การศึกษา นวัตกรรม ซึ่งหมายถึงความรู้และภูมิปัญญาไทยที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศในทุกสาขา, และ หมวดกีฬาและเบ็ดเตล็ด งานประกาศเปิดตัวโครงการภาคภูมิแผ่นดินไทย เติมความภูมิใจให้เต็มชาติ ได้รับเกียรติจากบุคคลสำคัญของประเทศไทยจากสาขาอาชีพต่างๆ จำนวนมากกว่า ๑๐๐ ท่าน เข้าร่วมเป็นสักขีพยาน และร่วมส่งเรื่องราวอันล้ำค่าเข้าร่วมโครงการ โดยมี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้เกียรติเป็นท่านแรกที่ส่งเรื่องราวความภาคภูมิใจเข้ามาร่วมในโครงการ ร่วมตอกย้ำการเป็นโครงการความร่วมมือระดับชาติ ครั้งแรกประวัติศาสตร์ที่คนไทยทุกคนจะมีส่วนร่วมบันทึกเรื่องราวอันดีงามของชาติเก็บไว้เป็นคลังสมบัติล้ำค่าของชาติสืบไป ติดต่อขอรายละเอียดข้อมูลการส่งเรื่องราวหรือรายละเอียดโครงการเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ ๐๒-๖๕๘-๐๐๖๓

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ