ปภ. รายงานสถานการณ์น้ำไหลหลากและน้ำล้นตลิ่ง รวม 4 จังหวัด พร้อมเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย

ข่าวทั่วไป Thursday July 14, 2016 23:35 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--14 ก.ค.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานสถานการณ์น้ำไหลหลากใน 2 จังหวัด ได้แก่ชลบุรี และฉะเชิงเทรา รวม 4 อำเภอ 4 ตำบล ประชาชนได้รับผลกระทบ 156 ครัวเรือน ปัจจุบันสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว และน้ำล้นตลิ่งใน 2 จังหวัด ได้แก่ พิษณุโลก และสุราษฎร์ธานี รวม 3 อำเภอ 16 ตำบล ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,004 ครัวเรือน ปัจจุบันระดับน้ำเริ่มลดลง ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำทางการเกษตรในบางพื้นที่ ทั้งนี้ ปภ.ได้ร่วมกับหน่วยทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสำรวจความเสียหาย ปฏิบัติการแก้ไขปัญหา และให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเร่งด่วน นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ระยะนี้หลายพื้นที่มีฝนตกหนักต่อเนื่อง ทำให้เกิดสถานการณ์น้ำไหลหลากในพื้นที่ 2 จังหวัด ได้แก่ ชลบุรี และฉะเชิงเทรา โดยจังหวัดชลบุรี ในพื้นที่บ้านอ่างกระพงษ์ ตำบลเกษตรสุวรรณ อำเภอบ่อทอง ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 26 หลังคาเรือน และถนนบายพาสสาย 7 ตอน 3 กม.103 ตำบลบางพระ อำเภอศรีราชา และมีน้ำท่วมขัง ถนนสุขุมวิท ทางเข้าศูนย์พระเทพ และอำเภอเมืองชลบุรี บริเวณแยกชลชาย แยกคีรี แยกบางแสน และแยกอ่างศิลา ปัจจุบันสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว จังหวัดฉะเชิงเทรา ในพื้นที่ตำบลคลองตะเกรา อำเภอท่าตะเกียบ บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 130 ครัวเรือน ถนน 7 สาย สะพาน 2 แห่ง ปัจจุบันสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว นอกจากนี้ จากภาวะฝนตกหนักต่อเนื่องทำให้น้ำล้นตลิ่งในพื้นที่ 2 จังหวัด ได้แก่ พิษณุโลก และสุราษฎร์ธานี โดยจังหวัดพิษณุโลก น้ำจากลำน้ำแควน้อยและลำน้ำสาขาเข้าท่วมพื้นที่การเกษตร 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอนครไทย และอำเภอเมืองพิษณุโลก รวม 10 ตำบล 77 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 525 ครัวเรือน ปัจจุบันระดับน้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำทางการเกษตรบางพื้นที่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ในพื้นที่อำเภอพระแสง รวม 6 ตำบล 18 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 479 ครัวเรือน ถนน 9 สาย ปัจจุบันระดับน้ำลดลง แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ 2 ตำบล 4 หมู่บ้าน ทั้งนี้ ปภ.ได้ร่วมกับหน่วยทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าสำรวจความเสียหายในพื้นที่ พร้อมระดมสรรพกำลังเจ้าหน้าที่ วัสดุอุปกรณ์ และเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยออกปฏิบัติการแก้ไขปัญหาและให้การช่วยเหลือประชาชนในเบื้องต้น อย่างไรก็ตาม จากการติดตามสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า บริเวณประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตก ส่วนภาคตะวันออกและภาคใต้มีฝนตกต่อเนื่องและฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี จันทบุรี ตราด ระนอง พังงา และภูเก็ต ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานจังหวัดในพื้นที่เสี่ยงภัยจัดเจ้าหน้าที่และมิสเตอร์เตือนภัยติดตามสภาพอากาศ เฝ้าระวังสถานการณ์ภัย และแจ้งเตือนภัยแก่ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณที่ลาดเชิงเขา ที่ราบต่ำ ริมน้ำไหลผ่าน และพื้นที่เสี่ยงภัยให้ระมัดระวังอันตรายจากน้ำป่าไหลหลาก และดินถล่มจากปริมาณฝนที่ตกสะสม รวมถึงจัดชุดเคลื่อนที่เร็ว และวัสดุอุปกรณ์ให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุ เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างทันท่วงที นอกจากนี้ ขอให้ประชาชนติดตามพยากรณ์อากาศและประกาศเตือนภัยจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด พร้อมปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ท้ายนี้ ผู้ประสบภัยสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป 0-2243-0674 0-2243-2200 www.disaster.go.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ