ปภ.รายงานสถานการณ์น้ำไหลหลากคลี่คลายแล้วทุกจังหวัด พร้อมเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย – ฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว เตือนทั่วทุกภาคของประเทศรับมือฝนตกหนักถึงหนักมาก ช่วงวันที่ 16 - 19 กรกฎาคม 2560

ข่าวทั่วไป Monday July 17, 2017 11:24 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--17 ก.ค.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานสถานการณ์น้ำไหลหลากในพื้นที่ 6 จังหวัด ได้แก่ นครสวรรค์ ลพบุรี ชัยนาท จันทบุรี พิจิตร และเพชรบูรณ์ สถานการณ์คลี่คลายแล้วทุกจังหวัด ปภ.ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย และฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว พร้อมเตือนทั่วทุกภาคของประเทศรับมือฝนตกหนักถึงหนักมากในช่วงวันที่ 16 - 19 กรกฎาคม 2560 อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่เสี่ยงภัย ทั้งนี้ ปภ.ได้ประสานหน่วยปฏิบัติในระดับพื้นที่ติดตามสภาพอากาศและเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงจัดเตรียมชุดเคลื่อนที่เร็ว เครื่องมืออุปกรณ์ประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันทีที่เกิดภัย นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า ฝนที่ตกหนักต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 5 - 13 กรกฎาคม 2560 ส่งผลให้เกิดน้ำไหลหลากในพื้นที่ 6 จังหวัด 9 อำเภอ 25 ตำบล 73 หมู่บ้าน ได้แก่ นครสวรรค์ ลพบุรี ชัยนาท จันทบุรี พิจิตร และเพชรบูรณ์ ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้วทุกจังหวัด ซึ่งกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย และฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว อย่างไรก็ตาม จากการติดตามสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทยมีกำลังแรง ส่งผลให้ทั่วทุกภาคของประเทศไทยจะมีฝนตกชุกหนาแน่น และฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ ในช่วงวันที่ 16 – 19 กรกฎาคม 2560 ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากในพื้นที่เสี่ยงภัย อีกทั้งคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง คลื่นสูง 2 – 3 เมตร กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จึงได้ประสานจังหวัด ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเตรียมพร้อมรับมือภาวะฝนตกหนัก โดยจัดเจ้าหน้าที่มิสเตอร์เตือนภัยติดตามสภาพอากาศและเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงตรวจสอบปริมาณน้ำฝนในพื้นที่เสี่ยงภัย โดยเฉพาะกรณีฝนตกหนักต่อเนื่อง มีปริมาณน้ำฝนสะสม 90 มิลลิเมตรต่อชั่วโมง กรณีที่มีการระบายน้ำออกจากแหล่งกักเก็บน้ำ และช่วงเวลาที่มีน้ำทะเลหนุนสูง ให้จัดเตรียมชุดเคลื่อนที่เร็ว เครื่องมืออุปกรณ์ประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันทีที่เกิดภัย ตลอดจนแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยให้ระมัดระวังอันตรายจากภาวะฝนตกหนัก โดยติดตามพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด พร้อมปฏิบัติตามคำเตือนและคำแนะนำอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากภาวะฝนตกหนัก สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ