กรุงศรีรายงานผลกำไรสุทธิครึ่งปีแรก 2560 จำนวน 11.5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.5%

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday July 21, 2017 11:48 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--21 ก.ค.--ธนาคารกรุงศรีอยุธยา กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ) รายงานผลกำไรสุทธิสำหรับครึ่งปีแรกของปี 2560 จำนวน 11.5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยปัจจัยขับเคลื่อนผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิและรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย รวมทั้งการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพ สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ของปี 2560 กรุงศรีมีกำไรสุทธิ 5.87 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.4% จากไตรมาส 2/2559 และเพิ่มขึ้น 4% จากไตรมาส 1/2560 สรุปผลประกอบการตามงบการเงินรวมและฐานะการเงินที่สำคัญสำหรับครึ่งปีแรกของปี 2560 · กำไรสุทธิ: จำนวน 11.5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.5% เมื่อเทียบกับครึ่งปีแรกของปี 2559 · การเติบโตของเงินให้สินเชื่อ: เพิ่มขึ้น 1.8% คิดเป็นจำนวน 26.62 พันล้านบาท เมื่อเทียบกับ ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2559 · การเติบโตของเงินรับฝาก: เพิ่มขึ้น 5.0% หรือจำนวน 55.02 พันล้านบาท เมื่อเทียบกับ ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2559 · ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM): อยู่ที่ 3.82% ปรับตัวดีขึ้นจาก 3.78% ในครึ่งปีแรกของปี 2559 · รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย: เพิ่มขึ้น 6.5% จากครึ่งปีแรกของปี 2559 ปัจจัยหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม และรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิ ซึ่งเติบโต 8.9% และ 5.2% ตามลำดับ · อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้: อยู่ที่ 47.2% ในไตรมาส 2/2560 ปรับตัวดีขึ้นจาก 48.8% ในไตรมาส 1/2560 · สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs): ปรับตัวดีขึ้นอยู่ที่ระดับ 2.24% ในเดือนมิถุนายน 2560 · อัตราส่วนเงินสำรองต่อสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้: อยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ 143.6% · อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง: อยู่ที่ 15.96% ปรับตัวดีขึ้นจาก 14.16% ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2559 ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2560 กรุงศรีมีกำไรสุทธิจำนวน 11.5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2559 ปัจจัยหลักมาจากการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิและรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย เงินให้สินเชื่อ จำนวน 1.48 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 26.62 พันล้านบาท หรือ 1.8% เมื่อเทียบกับ ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2559 ในไตรมาส 2/2560 เงินให้สินเชื่อเติบโตในทุกกลุ่มธุรกิจ โดยสินเชื่อลูกค้ารายย่อยเพิ่มขึ้น 2.8% ขณะที่สินเชื่อลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่และสินเชื่อลูกค้าธุรกิจ SME เติบโตที่ 3.3% และ 2.9% ตามลำดับ เงินรับฝาก มีจำนวนทั้งสิ้น 1.16 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 55.02 พันล้านบาท หรือ 5.0% จากสิ้นเดือนธันวาคม 2559 การเพิ่มขึ้นส่วนใหญ่มาจากการเพิ่มขึ้นของเงินรับฝากประจำ ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ ปรับตัวดีขึ้นมาที่ 3.89% ในไตรมาส 2/2560 เทียบกับ 3.82% ในไตรมาส 1/2560 สะท้อนถึงอัตราผลตอบแทนของสินทรัพย์ดีขึ้น สำหรับส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิของครึ่งปีแรกของปี 2560 อยู่ที่ 3.82% อัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ อยู่ที่ 2.24% ปรับตัวดีขึ้นจาก 2.33% ในไตรมาส 1/2560 ขณะที่อัตราส่วนเงินสำรองต่อสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้อยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ 143.6% นายโนริอากิ โกโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "ผลการดำเนินงานของกรุงศรีในช่วงครึ่งแรกของปี 2560 เป็นที่น่าพอใจมาก จากพัฒนาการด้านการเติบโตของเงินให้สินเชื่อ รายได้ดอกเบี้ยสุทธิ และรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย ในช่วงไตรมาส 2/2560 เงินให้สินเชื่อของธนาคารเติบโตเพิ่มขึ้น 3% สะท้อนถึงภาวะเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้น ขณะที่คุณภาพสินทรัพย์ยังคงแข็งแกร่งและอัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้มีแนวโน้มปรับลดลง ผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งมีปัจจัยหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการดำเนินงานและการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ สะท้อนถึงศักยภาพและความสามารถในการแข่งขันของกรุงศรีและพอร์ตสินเชื่อที่สมดุล" นายโกโตะ ให้ความเห็นเกี่ยวกับแนวโน้มธุรกิจโดยรวม ว่า "ในครึ่งปีหลังคาดว่า เศรษฐกิจยังคงขยายตัวต่อเนื่องโดยเติบโตในอัตรา 3.4% ในปี 2560 โดยมีปัจจัยหลักมาจากการขยายตัวของภาคการส่งออก การท่องเที่ยว และการใช้จ่ายของภาครัฐ ขณะที่การลงทุนและการบริโภคภาคเอกชนจะขยายตัวเพิ่มขึ้น จากสภาพแวดล้อมในการดำเนินธุรกิจที่เกื้อหนุน ธนาคารจึงยังคงเป้าหมายการเติบโตของสินเชื่อทั้งปีที่ 6-8%" ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2560 กรุงศรีซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจการเงินที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับห้าของไทย มีสินเชื่อรวม 1.48 ล้านล้านบาท เงินรับฝาก 1.16 ล้านล้านบาท และสินทรัพย์รวม 1.89 ล้านล้านบาท ขณะที่เงินกองทุนของธนาคารอยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ 212.3 พันล้านบาทหรือเทียบเท่า 15.96% ของสินทรัพย์เสี่ยง โดยเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นของเจ้าของคิดเป็น 12.25%

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ