บทความ จาก 'เจนเนอราลี่' เรื่อง 'Aqua Fitness' ยืดอายุด้วยการออกกำลังกายในน้ำ

ข่าวทั่วไป Tuesday July 25, 2017 17:08 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--25 ก.ค.--ChomPR เมื่ออายุมากขึ้น การออกกำลังกายอาจจะกลายเป็นเรื่องยาก ด้วยสรีระและความแข็งแรงที่เปลี่ยนไปทำให้ต้องคำนึงถึงปัจจัยอันจะส่งผลต่อการเคลื่อนไหวหลายประการ เช่น น้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น และข้อต่าง ๆ ที่ค่อย ๆ เสื่อมลง ซึ่งเมื่อออกแรงมาก ๆ รังแต่จะก่อให้เกิดปัญหามากกว่าเสริมสร้างสุขภาพที่ดี แต่มีวิธีออกกำลังกายรูปแบบหนึ่งที่เหมาะกับผู้สูงวัย นั่นคือ การออกกำลังกายในน้ำ หรือ Aqua Fitness เดิมการออกกำลังกายในน้ำรู้จักกันเฉพาะในวงการแพทย์ ซึ่งใช้สำหรับฟื้นฟูสมรรถภาพนักกีฬาหลังอาการบาดเจ็บ แต่ช่วงหลังมานี้ด้วยความนิยมในการออกกำลังกายที่สูงขึ้น จึงมีการค้นพบว่า Aqua Fitness เป็นการออกกำลังกายเพื่อส่งเสริมสุขภาพอย่างแท้จริง จนกลายเป็นกระแสและถูกนำมาประยุกต์เข้ากับการออกกำลังกายรูปแบบต่าง ๆ เช่น จ๊อกกิ้งในน้ำ แอโรบิกในน้ำ การเต้นในน้ำ ฯลฯ ด้วยความที่น้ำมีคุณสมบัติในการลอยตัว ฉะนั้นเมื่อออกกำลังกายในน้ำจึงช่วยรองรับน้ำหนักตัว และลดแรงกดที่ข้อต่าง ๆ ให้น้อยลงได้ ทั้งยังพยุงไม่ให้ล้มง่าย และช่วยให้การเคลื่อนไหวร่างกายทำได้ง่ายดายกว่าการออกกำลังกายบนบก จึงแทบจะไม่ก่อให้เกิดอาการบาดเจ็บเลย โดยคุณสมบัติของการออกกำลังกายในน้ำมี 4 ประการ ดังนี้ แรงดันใต้น้ำ ทำให้เลือดดำไหลกลับสู่หัวใจได้ง่าย และส่งผลต่อระบบหายใจ ทำให้ปริมาณอากาศหลังหายใจออกค้างอยู่ในปอดน้อยลง ดังนั้นการออกกำลังกายในน้ำจึงช่วยลดความดันโลหิต ทำให้ชีพจรเต้นช้าลง ช่วยให้การสูบฉีดและการไหลเวียนโลหิตในร่างกายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น แรงลอยตัว ช่วยพยุงให้น้ำหนักตัวลดลงเหลือเพียง 15 – 10 เปอร์เซ็นต์ เมื่ออยู่ในน้ำลึกระดับคอ ดังนั้นในขณะที่อยู่ใต้น้ำร่างกายจึงเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ ข้อต่อต่าง ๆ สามารถทำงานได้ดี ร่างกายมีความยืดหยุ่นสูงจึงลดแรงกระทบกระเทือนที่จะก่อให้เกิดอาการบาดเจ็บต่อกระดูกและข้อต่อต่าง ๆ ในระหว่างการออกกำลังกายได้ ความต้านทานในน้ำ น้ำจะต้านการเคลื่อนไหวของร่างกายทุกทิศทาง ทำให้ควบคุมได้ยากกว่าอยู่บนบก แต่กลับช่วยบริหารกล้ามเนื้อทุกส่วนในร่างกายได้อย่างทั่วถึง ทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรง และส่งผลให้รูปร่างเพรียวสมส่วนได้ด้วย อุณหภูมิของน้ำ เมื่ออยู่ในน้ำร่างกายสามารถระบายความร้อนได้ดีกว่าบนบกถึง 25 เท่า ทำให้รู้สึกสดชื่น ไม่อ่อนเพลีย จึงช่วยป้องกันอันตรายจากความร้อนอย่างอาการลมแดด หรือ Heat Stroke ได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้สำหรับผู้ที่ว่ายน้ำไม่เป็น ไม่เคยว่ายน้ำมาก่อน หรือกลัวการลงน้ำ ก็สามารถออกกำลังกายในน้ำได้ เพราะทั่วไปแล้วจะเริ่มต้นที่ความลึกเพียง 1 เมตรหรือระดับเอว ก่อนจะเพิ่มความลึกขึ้นไปจนถึงระดับอกหรือไหล่ ซึ่งความลึกในแต่ละระดับจะช่วยพยุงและทอนน้ำหนักลงไปได้ 50 – 80 เปอร์เซ็นต์ จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้สูงวัยที่ไม่มีปัญหาสุขภาพ นอกจากนี้การออกกำลังกายในน้ำยังส่งผลดีต่อการคลอดลูก ผู้มีภาวะความเครียด และผู้ที่มีปัญหาหมอนรองกระดูก เพราะช่วยในการบำบัดรักษาหรือฟื้นฟูสมรรถภาพได้ดี แม้แต่ผู้อ่อนแรงหรืออ่อนแอมาก ๆ อย่างคนที่เป็นอัมพฤกษ์ก็สามารถออกกำลังกายในน้ำเบา ๆ ได้เช่นกัน จึงนับได้ว่าการออกกำลังกายในน้ำเป็นทางเลือกใหม่ของผู้รักสุขภาพ ที่จะช่วยนำไปสู่การมีสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีได้อย่างแท้จริง ที่มา: บริษัท เจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ บริษัทอะควาฟิตเนส จำกัด aquafitness.co.th สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส) thaihealth.or.th ศูนย์บริการเทคนิคการแพทย์คลินิกคณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ams.cmu.ac.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ