ฟอร์ดรู้ล่วงหน้าได้อย่างไรว่ารถสีไหนจะเป็นที่นิยมในอนาคต

ข่าวยานยนต์ Thursday August 24, 2017 11:24 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--24 ส.ค.--ฮิลล์ แอนด์ นอลตัน สแตรทีจีส์ เมื่อถึงเวลาของการสร้างสรรค์สีใหม่ให้กับรถยนต์ นักออกแบบของฟอร์ดจำเป็นที่จะต้องคำนึงถึงความหลากหลายทางสังคมและคาดการณ์ว่าการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ต่างๆ จะส่งผลต่อความชื่นชอบในสีรถยนต์อย่างไร จากนั้น ผู้ออกแบบจะนำเอาความรู้ที่ได้เหล่านี้มาผนวกเข้ากับเทรนด์การออกแบบว่ามีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร เพื่อสร้างสีสันที่ดูทันสมัย ซึ่งต้องใช้เวลาเกือบครึ่งทศวรรษหลังจากที่ได้เริ่มพัฒนา การออกแบบสีของรถนั้นเริ่มต้นขึ้น 4 ปีก่อนหน้าที่จะมีการนำรถยนต์รุ่นนั้นๆ ออกจำหน่ายโดยนักออกแบบของฟอร์ดจะศึกษาเทรนด์หลักต่างๆ ที่สำคัญ "นักออกแบบของเรา มักจะไปไหนมาได้ด้วยกัน เพื่อศึกษาความเป็นไปต่างๆ ทั้งในด้านสถาปัตยกรรม ผลิตภัณฑ์และการออกแบบภายใน" เอมีลี่ ไล ผู้จัดการฝ่ายออกแบบ ด้านสีและวัสดุผลิตภัณฑ์ ฟอร์ด เอเชียแปซิฟิค กล่าว เมื่อทีมออกแบบรู้ว่าเทรนด์การออกแบบจะเป็นไปในทิศทางใด พวกเขาจำเป็นที่จะต้องสวมบทเป็นนักสังคมศาสตร์ด้วย "การเลือกสีสันต่างๆ ไม่เพียงสะท้อนความเป็นตัวตนของคนเราเท่านั้น แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงสถาพแวดล้อมรอบๆ ของเราด้วย" ไล อธิบายเพิ่มเติม "ตัวอย่างเช่น หากคุณอยู่ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยแรงกดดันและความเครียด สิ่งเหล่านี้จะส่งผลถึงการเลือกใช้สีและอารมณ์ของคุณตามไปด้วย" ตัวอย่างที่ว่านี้ เห็นได้ชัดเจนหลังเหตุการณ์วิกฤตการเงินเมื่อปี 2551 ซึ่งผลกระทบด้านเศรษฐกิจทำให้ผู้คนเป็นกังวลกับราคาขายต่อของรถยนต์ในตลาด ส่งผลให้รถยนต์แบบโทนสีเรียบๆ ครองยอดการจำหน่าย เพราะผู้ซื้อต่างให้ความสำคัญกับการดึงดูดผู้ซื้อต่อในอนาคตมากกว่าการเลือกสีเพราะความชอบส่วนตัว การบริโภคสินค้าและบริการโดยปราศจากความรู้สึกผิดเพราะมีสำนึกต่อส่วนรวมมากขึ้น (Guilt Free Consumption – GFC) ก็มีส่วนช่วยสนับสนุนการเลือกสีที่ 'ปลอดภัย' เพื่อสะท้อนอารมณ์ความรู้สึกในเวลาต่างๆ ด้วยเช่นกัน การเลือกสีสันฉูดฉาดอาจทำให้ดูไม่เป็นมิตร หรืออาจแสดงถึงความไม่เคารพต่อเพื่อนร่วมสังคมก็เป็นได้ ในขณะที่วิกฤตการเงินส่งผลกระทบต่อคนทั้งโลก ในทุกๆ ปี จะเกิดการปรับเปลี่ยนทางวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ในเอเชีย แปซิฟิค ที่ซึ่ง ไล ทำงานอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศจีน ประเทศที่คุณค่าและทัศนคติต่างๆ ของผู้คนมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วพร้อมๆ ไปกับความเจริญก้าวหน้าของประเทศ ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานี้ รถยนต์สีขาวเป็นที่นิยมน้อยลงมากเพราะผู้คนต่างมีความมั่นใจ และต้องการแสดงตัวตนผ่านสีต่างๆ ส่วนในประเทศอินเดีย สภาพอากาศที่ร้อนระอุทำให้สีอ่อนๆ เป็นที่นิยมมากกว่า นอกจากนี้ ศาสนา การเมือง และคุณค่าของผู้คนในแต่ละประเทศ ก็แตกต่างกันไป ซึ่งทำให้การทำงานของนักออกแบบเทรนด์สีรถยนต์ยากลำบากมากขึ้นไปด้วย สำหรับประเทศไทย เราเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงด้านยอดขายโดยรถยนต์สีขาวกำลังได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นมากที่สุด ในขณะที่สีดำซึ่งเป็นสียอดนิยมตลอดกาลก็ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา เทรนด์ของสีรถไม่ได้มาจากสภาวะทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างเดียว แต่ยังขึ้นอยู่กับประเภทของรถด้วยเช่นกัน รถซีดานคันใหญ่ที่บ่งบอกถึงความหรูหราและความเป็นนักธุรกิจ ทำให้การออกแบบรถซีดานสีชมพูสดใสกลายเป็นเรื่องเปล่าประโยชน์ ในขณะที่รถซีดานคันเล็กอย่าง ฟอร์ด เอสคอร์ต รถสำหรับครอบครัวเฉพาะในประเทศจีน เหมาะกับสีขาวสดใส ส่วนรถเอสยูวีสำหรับคนรับไลฟ์สไตล์เอาท์ดอร์ สีบรอนซ์ธรรมชาติ หรือสีทองแดงจึงเป็นที่นิยมมากกว่า สำหรับรถกระบะซึ่งคนทั่วไปมักนึกถึงความสมบุกสมบัน สีสว่างๆ ก็จะไม่เป็นที่นิยมเท่าไหร่ อย่างไรก็ตาม เทรนด์การเลือกสีรถกระบะได้ปรับเปลี่ยนให้เข้ากับไลฟ์สไตล์มากขึ้น ตัวอย่างเช่น รถกระบะ ฟอร์ด เรนเจอร์ รุ่นไวล์ดแทรค สีพิเศษ สีส้ม ไพรด์ ออเร้นจ์ ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก "รถยนต์ฟอร์ดรุ่นต่างๆ ในเอเชีย แฟซิฟิคนั้นมีความหลากหลายและแตกต่าง และสีของรถที่เหมาะกับรถรุ่นหนึ่งกับในประเทศหนึ่งก็อาจจะไม่เหมาะสมในอีกประเทศ" ไล กล่าว "และนี่คือความท้าทายที่ทำให้พวกเราไม่เคยหยุดอยู่กับที่" รถยนต์รุ่นต่างๆ ส่วนใหญ่ จะมีสีหลักๆ ที่ไม่ค่อยมีการเปลี่ยนแปลง อาทิ สีขาว สีดำ และสีสดๆ อย่างสีแดง สีเหล่านี้เป็นที่ยอมรับและไม่ต้องมีการปรับเปลี่ยนมากเท่าไหร่ แต่เมื่อเวลาผ่านไประยะหนึ่ง นวัตกรรมของเทคโนโลยีการพ่นสีรถที่เกิดขึ้น จะทำให้การเปลี่ยนสีรถมีความคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น การปรับเปลี่ยนดีไซน์ของรถยนต์ก็มีผลต่อสีของรถด้วยเช่นกัน "เมื่อรูปทรงรถหรือการเลือกใช้วัสดุเปลี่ยนไป การพ่นสีรถก็เปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน" ไล กล่าว นั่นหมายถึง หากรูปทรงของรถได้รับการออกแบบให้ดูโฉบเฉี่ยว หรือเป็นแนวสปอร์ตมากขึ้น สีสันโดดเด่นสดใส ก็จะได้รับความนิยมเพราะสื่อให้เห็นถึงความปราดเปรียวของรถได้เป็นอย่างดี การทำงานอยู่กับเทรนด์การออกแบบท่ามกลางวัฒนธรรมที่หลากหลายเปรียบเสมือนนักเล่นกลที่เต็มไปด้วยความท้าทาย แต่สิ่งนี้ก็ทำให้ความสำเร็จที่ได้รับยิ่งหอมหวานกว่าเดิม เรื่องราวความสำเร็จที่น่าประหลาดใจเรื่องหนึ่งของ ไล ก็คือ สี "Archon Bronze" ซึ่งเป็นสีที่เธอได้ช่วยสร้างสรรค์ขึ้นสำหรับรถฟอร์ด เอสคอร์ต ที่จำหน่ายเฉพาะในประเทศจีน ได้กลายเป็นสีรถยอดนิยมที่ขายดีเป็นอันดับสองของฟอร์ด เอสคอร์ต ไล กล่าวว่า "ฉันคิดว่าสิ่งที่ทำให้สีนี้เป็นที่นิยมสำหรับรถยนต์ครอบครัว ก็เพราะว่าสี Archon Bronzeนี้ไม่มืดทึมเหมือนสีดำหรือเทา แต่หากเป็นสีบรอนซ์ที่มีประกายทอง" ไล ยังมีส่วนร่วมในการคิดค้นสีใหม่ "Shadow Gold" ให้กับฟอร์ด เอสคอร์ต ซึ่งได้กลายมาสียอดนิยมที่ขายดีเป็นอันดับ 3 สำหรับรถรุ่นนี้ นับเป็นสองโทนสีใหม่ที่ได้รับการตอบรับที่ดีเกินคาด ไล และเพื่อนร่วมงานของเธอยังคงทำงานกันอย่างต่อเนื่องสำหรับสีใหม่ๆ ในอนาคต และดูเหมือนว่าความหม่นหมองจากวิกฤตการเงินได้กลายเป็นเรื่องในอดีต "เราสังเกตเห็นว่า คนรุ่นใหม่ๆ เป็นกลุ่มที่มีความคิดเชิงบวกที่มาควบคู่กับความเชื่อมั่นในเทคโนโลยี ซึ่งส่งผลให้มีการใช้โทนสีที่สดใสมากยิ่งขึ้น " ไล กล่าว "ในอนาคต รถแนวสปอร์ตจะมีสีสว่างสดใสมากขึ้น และมีแนวโน้มใช้สีที่เด่นชัดมากยิ่งขึ้นเพื่อเน้นอุปกรณ์บางชิ้นส่วนหรือหลายชิ้นส่วนให้โดดเด่น"
แท็ก ฟอร์ด  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ