ปภ.แนะ 12 พฤติกรรมการขับรถอย่างถูกวิธี ช่วยยืดอายุการใช้งานรถ...ลดเสี่ยงอุบัติเหตุ

ข่าวทั่วไป Thursday September 21, 2017 11:11 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--21 ก.ย.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พฤติกรรมการขับรถ นอกจากเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่ออายุการใช้งานของรถแล้ว ยังทำให้การขับรถมีประสิทธิภาพมากขึ้น จึงช่วยลดควมเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ เพื่อความปลอดภัย กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทา สาธารณภัย (ปภ.) ขอแนะ 12 พฤติกรรมการขับรถที่ช่วยยืดอายุการใช้งานของรถ ดังนี้ 1. อุ่นเครื่องยนต์ก่อนขับขี่ เพื่อเป็นการวอร์มให้เครื่องยนต์และน้ำมันเครื่องอยู่ในอุณหภูมิที่เหมาะสมกับการทำงาน จึงช่วยลดการสึกหรอของเครื่องยนต์ 2. ไม่เร่งเครื่องอย่างรุนแรงเมื่อสตาร์ทรถ เพราะในช่วงสตาร์ทเครื่อง ระบบจะส่งน้ำมันไปหล่อเลี้ยงชิ้นส่วนต่างๆ ของรถ หากเร่งเครื่องอย่างรุนแรง จะทำให้เครื่องยนต์สึกหรอเร็วกว่าปกติ 3. ชะลอความเร็วเมื่อขับผ่านเนินหลังเต่า จะช่วยป้องกันระบบช่วงล่างของรถมิให้กระแทกกับพื้นถนน เพราะอาจส่งผลให้โช๊คอัพ สปริง ลูกหมาก หรือปีกนกได้รับความเสียหาย 4. ไม่คิกดาวน์เพื่อเร่งแซง โดยเพิ่มความเร็วด้วยการกดคันเร่งจนมีการทดอัตราเกียร์ให้ต่ำลง แม้จะช่วยให้รถ มีกำลังเพิ่มขึ้นในช่วงที่ต้องเร่งแซงหรือใช้ความเร็วสูง แต่ทำให้เกียร์เกิดการกระชาก ส่งผลให้ชุดเกียร์มีอายุการใช้งานสั้นลง 5. ใช้เกียร์ต่ำขณะขับรถลงเขาหรือทางลาดชัน จะช่วยรักษาระดับความเร็วรถ ทำให้มีแรงฉุดกำลังรถ หากใช้เบรกในการรักษาความเร็ว จะส่งผลให้เบรกเกิดความร้อนสูง ผ้าเบรกไหม้ และเกิดอุบัติเหตุได้ 6. เปลี่ยนเกียร์เมื่อรถหยุดสนิท เพราะการเปลี่ยนเกียร์ถอยหลังหรือเดินหน้าในขณะที่รถวิ่ง จะส่งผลต่อการทำงานของระบบขับเคลื่อนและระบบส่งกำลังของรถ ทำให้ชุดเกียร์ เครื่องยนต์ และเพลาขับได้รับความเสียหาย จึงส่งผลต่อประสิทธิภาพในการขับรถ 7. ไม่ใช้เกียร์เป็นที่พักมือ แม้การพักมือค้างไว้บนหัวเกียร์จะทำให้สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้อย่างรวดเร็ว แต่ส่งผลให้ระบบเกียร์สึกหรอและเหลือมือเพียงข้างเดียวในการบังคับพวงมาลัย เพื่อความปลอดภัย ควรวางมือทั้งสองข้างบนพวงมาลัย จะช่วยให้สามารถบังคับและควบคุมทิศทางรถได้อย่างมีประสิทธิภาพ 8. ใช้เบรกมือขณะจอดรถบนทางลาดชัน เมื่อจอดรถบนทางลาดชันควรใช้เบรกมือก่อนเข้าเกียร์ P ทุกครั้ง เพื่อป้องกันสลักเกียร์ หรือเฟืองขับหลักต้องรับน้ำหนักของรถมากเกินไป ส่งผลให้ระบบเกียร์ได้รับความเสียหาย 9. ไม่เหยียบคลัตช์ขณะรถจอดติดสัญญาณไฟจราจร แม้การเหยียบคลัตช์จะช่วยให้รถออกตัวได้อย่างรวดเร็ว แต่ทำให้ชุดเกียร์สึกหรอเร็วกว่าปกติ จึงควรปล่อยเท้าออกจากคลัตช์และเข้าเกียร์ว่างเมื่อรถจอดอยู่กับที่ พร้อมเหยียบคลัตช์อีกครั้งเมื่อรถออกตัว 10. ไม่บรรทุกน้ำหนักมากเกินไป เพราะการบรรทุกน้ำหนักมากเกินไป ส่งผลต่อเครื่องยนต์ ระบบส่งกำลัง และระบบกันสะเทือน อีกทั้งทำให้เบรกทำงานหนักและมีอายุการใช้งานสั้นลง จึงส่งผลต่อการทรงตัวและการหยุดรถ 11. ไม่ปล่อยให้น้ำมันอยู่ในระดับต่ำ เพราะการปล่อยให้น้ำมันอยู่ในระดับต่ำหรือเกือบหมดถัง ทำให้ปั๊มน้ำมัน ที่ต้องมีน้ำมันหล่อเลี้ยงตลอดเวลามีอายุการใช้งานสั้นลง 12. ปิดแอร์ทุกครั้งที่ดับเครื่องยนต์ แม้ปัจจุบันรถจะมีระบบตัดไฟฟ้าขณะสตาร์ทเครื่องยนต์ จึงไม่ทำให้กระแสไฟกระชาก แต่การปิดแอร์ก่อนดับเครื่องยนต์จะทำให้โบลว์เออร์เป่าลมหยุดการทำงานชั่วคราว และเมื่อสตาร์ทรถติดแล้ว รีเลย์จะชะลอการทำงานของคอมเพรสเซอร์แอร์ไว้ประมาณ 1 – 2 นาที ส่งผลให้เปลืองไฟจากแบตเตอรี่ ทำให้แบตเตอรี่มีอายุการใช้งานสั้นลง ทั้งนี้ เพื่อให้รถมีอายุการใช้งานยาวนานมากขึ้น นอกจากผู้ขับขี่ต้องหมั่นดูแลรักษารถ เปลี่ยนอุปกรณ์ประจำรถและนำรถไปตรวจสอบสภาพกับศูนย์บริการหรืออู่ซ่อมรถตามวงรอบและระยะเวลาที่กำหนดแล้ว พฤติกรรมการขับขี่อย่างถูกวิธี ถือเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยยืดอายุการใช้งานของรถ และเพิ่มประสิทธิภาพในการขับรถ จึงช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ