บ๊อชพลิกโฉมโลกแห่งการขับขี่ด้วยเทคโนโลยีแห่งการเชื่อมต่อ บ๊อชจัดแสดงบริการแห่งการขับเคลื่อนในงาน Bosch ConnectedWorld 2018

ข่าวเทคโนโลยี Thursday February 15, 2018 17:43 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--15 ก.พ.--เอบีเอ็ม - จากบริการใช้รถร่วมกัน ไปจนถึงการคมนาคมหลากรูปแบบ (multimodal): บริการเพื่อการขับเคลื่อนในเมืองที่สะดวกสบายไร้กังวล - จากระบบจอดรถอัจฉริยะ สู่ระบบคลาวด์ช่วยชีวิต: บริการสำหรับยานยนต์ที่เชื่อมต่อด้วยอินเทอร์เน็ต และการขับขี่ที่แสนสบาย สะดวก และปลอดภัย - เทคโนโลยีแห่งการเชื่อมต่อ เป็นปัจจัยในการนำไปสู่การขับเคลื่อนที่ปลอดภัยไร้กังวล ปลอดอุบัติเหตุ และไร้มลภาวะ ในปัจจุบัน แอปพลิเคชั่นสมาร์ทโฟนได้เข้ามาแทนที่กุญแจรถยนต์ แผนที่จอดรถระบบดิจิทัลเข้ามาแทนความยุ่งยากในการหาที่จอด รวมทั้งบริการใช้รถร่วมกันที่สามารถทำให้ผู้คนเดินทางได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้รถส่วนตัว กล่าวได้ว่าเทคโนโลยีแห่งการเชื่อมต่อได้เข้ามาช่วยให้การใช้ชีวิตบนท้องถนนง่ายขึ้น ปลอดภัยขึ้น และสะดวกสบายยิ่งขึ้น ในขณะเดียวกันก็ลดความกังวลในการใช้ถนนหนทางทั่วโลกด้วย จากการวิจัยตลาดโดยการ์ตเนอร์ พบว่า 1 ใน 4 ของยานยนต์นับพันล้านคันทั่วโลก จะเชื่อมต่อถึงกันได้ผ่านอินเทอร์เน็ตในปี ค.ศ. 2020 หรือปี พ.ศ. 2563 บ๊อชจึงเดินหน้าการเปลี่ยนผ่านไปสู่การให้บริการเทคโนโลยีแห่งการขับเคลื่อน ในงาน Bosch ConnectedWorld 2018 บ๊อชซึ่งเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายเทคโนโลยีและการบริการชั้นนำ จึงเตรียมจัดแสดงศักยภาพด้านการบริการเพื่อการขับเคลื่อน และบริการอีกหลากหลายเกี่ยวกับการเชื่อมต่อเพื่อตอบโจทย์ผู้ขับขี่ บริการใช้รถร่วมกัน (Sharing services) และเทคโนโลยีแห่งการขับเคลื่อนหลากรูปแบบ (multimodal mobility) เพื่อการคมนาคมในเมืองอันแสนสบายไร้กังวล COUP: จอง จ่าย ไป – บริการ COUP เพื่อใช้รถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าร่วมกันเป็นทางเลือกใหม่ของระบบขนส่งสาธารณะ รถส่วนตัว หรือแท็กซี่ โดยให้บริการแล้วที่กรุงเบอร์ลินและปารีส และกำลังจะมีให้บริการตามท้องถนนในกรุงมาดริดในช่วงฤดูร้อนปี 2561 นี้ moveBW: ในเดือนกรกฎาคม 2560 บ๊อชได้เริ่มทดสอบบริการ moveBW ผู้ช่วยในการขับเคลื่อนแบบต่อเนื่องหลากรูปแบบ (multimodal mobility assistant) ด้วยการใช้ข้อมูลเรียลไทม์ค้นหาเส้นทางในเมืองที่จะนำไปยังจุดหมายได้เร็วที่สุด myScotty: แอปพลิเคชั่นจากกิจการสตาร์ตอัพ myScotty ที่ช่วยให้ผู้ใช้พร้อมเดินทางเสมอ ด้วยทางเลือกที่หลากหลายในการขับเคลื่อน ไม่ว่าจะเป็นบริการใช้รถยนต์ร่วมกัน รถสกู๊ตเตอร์ จักรยาน ไปจนถึงบริการแท็กซี่และรถเช่าต่าง ๆ บริการด้วยเทคโนโลยีแห่งการเชื่อมต่อเพื่อการขับเคลื่อนที่แสนสบายไร้กังวล ระบบจอดรถในชุมชน (Community-based parking): ด้วยระบบค้นหาที่จอดรถในชุมชน ทำให้บ๊อชสามารถหาที่ว่างที่เหมาะสมในการจอดรถ ทำให้ผู้ขับขี่ไม่ต้องหาเอง ระบบจะใช้เซ็นเซอร์คลื่นอัลตร้า-โซนิก ช่วยให้รถยนต์สามารถระบุและวัดระยะช่องว่างของรถที่จอดอยู่ขณะขับเคลื่อนผ่าน บริการรับจอดรถอัตโนมัติ (Automated valet parking): โซลูชั่นส์สำหรับจอดรถอัตโนมัติของบ๊อช จะช่วยให้รถยนต์สามารถจอดเองได้ในอนาคต เพียงผู้ขับขี่ฝากรถยนต์ไว้ตรงทางเข้าที่จอด และใช้แอปพลิเคชั่นในสมาร์ทโฟนสั่งการ รถยนต์ก็จะค้นหาที่ว่างเอง และไปจอดได้โดยไม่ต้องมีคนช่วย การอัปเดตซอฟต์แวร์ผ่านอินเทอร์เน็ต (Over-the-air software updates): ด้วยบริการอัปเดตซอฟต์แวร์ผ่านระบบ OTA หรือผ่านอินเทอร์เน็ตทางสมาร์ทโฟน ช่วยให้การเข้าอู่ซ่อมทำได้ด้วยระบบดิจิทัล โดยจะมีการอัปเดตข้อมูลยานพาหนะผ่านระบบที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้ ในแบบเดียวกับการอัปเดตข้อมูลสมาร์ทโฟน ซึ่งจะช่วยให้การดาวน์โหลดฟังก์ชั่นเสริมต่างๆ อาทิ แผนที่จอดรถระบบดิจิทัล เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ ระบบไร้กุญแจ (Perfectly Keyless): บ๊อชจะทำให้ความวุ่นวายในการหากุญแจรถหมดไปด้วยระบบ ไร้กุญแจโดยสิ้นเชิง ซึ่งจะช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถใช้สมาร์ทโฟนปลดล็อก หรือล็อกยานพาหนะ เพื่อสตาร์ทเครื่องยนต์ได้ การวินิจฉัยการขับขี่ล่วงหน้า (Predictive diagnostics): ในระหว่างการขับขี่ปกติ บริการวินิจฉัยล่วงหน้าจะใช้ตัวเลขและข้อมูลจากระบบคลาวด์ในการวิเคราะห์สภาพส่วนประกอบสำคัญๆ อาทิ แบตเตอรี่ หม้อกรองน้ำมันเชื้อเพลิง และระบบเบรกได้ บริการผู้ช่วยส่วนตัว (Concierge service): ด้วยบริการผู้ช่วยส่วนตัว ทำให้ผู้ขับขี่เสมือนมีผู้ช่วยส่วนตัวในรถ สามารถช่วยหาที่ทำการไปรษณีย์ที่ใกล้ที่สุด ช่วยจองโต๊ะร้านอาหารหรือจองที่นั่งในคอนเสิร์ต รวมทั้งแนะนำกิจกรรมน่าสนใจในเมืองที่ไม่คุ้นเคย บริการจองที่จอด ณ จุดพักรถบรรทุก (Secure truck parking): ระบบจองที่จอดรถ ณ จุดพักรถบรรทุกของบ๊อช มีให้บริการแล้วทั่วยุโรป เพื่อช่วยคนขับรถบรรทุกหาจุดจอดที่เหมาะสมและปลอดภัย โดยบ๊อชจะมีระบบติดตามแบบเรียลไทม์ดูว่าที่จุดใดมีรถบรรทุกจอดอยู่แล้ว บริการด้วยเทคโนโลยีแห่งการเชื่อมต่อ เพื่อการขับเคลื่อนที่ปลอดอุบัติเหตุ ผู้พิทักษ์ด้วยระบบคลาวด์ดาต้า: เฉพาะในประเทศเยอรมนี พบว่ามีการเตือนผู้ขับขี่ที่เดินรถผิดช่องทางถึงกว่า 2,000 ครั้งในแต่ละปี ยิ่งไปกว่านั้นคือ การเตือนส่วนใหญ่จะไม่ทันการณ์ เพราะผู้ขับขี่ได้ขับรถผิดช่องทางไปแล้ว 500 เมตรโดยเฉลี่ย เหตุร้ายแรงที่สุดคือเกิดอุบัติภัยจนถึงแก่ชีวิต ระบบเตือนการขับขี่ผิดช่องทางด้วยระบบคลาวด์ของบ๊อช จึงออกแบบมาเพื่อให้มีการแจ้งเตือนภายในเวลาไม่เกิน 10 วินาทีเมื่อขับขี่ผิดช่องทาง สายด่วนช่วยชีวิต (eCall – saving lives): ตั้งแต่เดือนเมษายน 2561 เป็นต้นไป พาหนะที่จดทะเบียนในสหภาพยุโรปทุกคัน จะต้องติดตั้งบริการช่วยชีวิตที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ติดตั้งเป็นระบบมาตรฐาน สายด่วนอัตโนมัติ หรือ eCall นี้ จะโทรออกอัตโนมัติเพื่อขอความช่วยเหลือเมื่อเกิดอุบัติเหตุ และคาดว่าระบบนี้จะช่วยชีวิตผู้คนได้กว่า 2,500 รายในแต่ละปี การใช้ระบบ mySPIN จากสมาร์ทโฟน (mySPIN smartphone integration): ระบบนำทางด้วยสมาร์ทโฟน บริการสตรีมมิ่ง หรือการดูปฏิทินโดยไม่ต้องสัมผัสในขณะขับรถหรือขี่จักรยานยนต์ ล้วนเป็นไปได้ด้วยโซลูชั่น mySPIN จากบ๊อช ที่ประสานการทำงานของแอปฯ บนสมาร์ทโฟน เข้ากับระบบอินโฟเทน-เม้นต์ของรถ ซึ่งในอนาคต จะผนวกและนำข้อมูลบนระบบคลาวด์มาแสดงได้ในแบบเรียลไทม์ด้วย ซึ่งข้อมูลนี้จะช่วยเตือนให้ผู้ขับขี่ได้ระแวดระวังสิ่งอันตรายต่างๆ เช่น การปิดการจราจรข้างหน้า แอปฯ ช่วยขับขี่ (Driving app): แอปฯ นี้จะช่วยให้ผู้ขับขี่ออกคำสั่งด้วยเสียงและใช้ท่าทาง ในการควบคุมการทำงานของโทรศัพท์ ระบบนำทาง การส่งข้อความ และใช้แอปฯ ฟังเพลงในขณะขับได้อย่างปลอดภัย ข้อมูลเส้นทางที่เชื่อมต่อกัน (Connected horizon): ช่วยให้การขับขี่ปลอดภัยและสะดวกสบายยิ่งขึ้น เพราะสามารถให้ข้อมูลการจราจร เช่น การจราจรที่คับคั่ง และอุบัติเหตุ ข้อมูลเส้นทางทางภูมิประเทศ ทั้งทางยกสูง โค้งต่างๆ และข้อมูลเกี่ยวกับโครงสร้างขั้นพื้นฐาน เช่น ป้ายจราจร และเขตจำกัดความเร็วต่างๆ ข้อมูลเหล่านี้ต่างแสดงผลแบบเรียลไทม์ ระบบระบุตำแหน่งด้วยเรดาร์ (Radar road signature): แผนที่ความละเอียดสูงนั้นมีความจำเป็นต่อระบบขับขี่อัตโนมัติ บ๊อชจึงพัฒนาระบบระบุตำแหน่งด้วยเรดาร์ด้วยข้อมูลที่ได้จากตัวเซ็นเซอร์ ซึ่งสามารถนำไปประสานกับแผนที่ความละเอียดสูง ที่จะช่วยให้ยานยนต์ขับขี่อัตโนมัติสามารถระบุตำแหน่งในช่องทางได้อย่างแม่นยำ บริการทำนายสภาพถนนล่วงหน้า (Predictive road condition services): บริการนี้ของบ๊อชช่วยเสริมความปลอดภัยบนท้องถนน เนื่องจากการยึดเกาะของยานยนต์บนพื้นถนนนั้นแตกต่างกันไปตามฤดูกาลและสภาพอากาศ ทำให้ผู้ขับขี่หรือยานยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ ต้องพร้อมปรับรูปแบบการขับขี่เพื่อเลี่ยงมิให้เกิดอันตราย บ๊อชได้พัฒนาบริการนี้ด้วยระบบคลาวด์ที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับพื้นผิวถนนแบบต่างๆ บริการด้วยเทคโนโลยีแห่งการเชื่อมต่อ สำหรับการขับเคลื่อนระบบไฟฟ้า แอปพลิเคชั่นสำหรับสถานีชาร์จไฟฟ้าและชำระเงิน (Charge and pay app): สมาร์ทโฟนจะเป็นกุญแจสำคัญในการค้นหาสถานีชาร์จไฟสำหรับยานยนต์ขับเคลื่อนระบบไฟฟ้า รวมทั้งจ่ายเงินด้วย ซึ่งทำได้ง่ายดายในคลิกเดียว บ๊อชได้พัฒนาแอปพลิเคชัน ชาร์จไฟร่วมกับผู้ผลิตยานยนต์ชั้นนำ อาทิ เมอร์เซเดส-เบนซ์ สมาร์ท และเรโนลต์ ทำให้ลูกค้าใช้งานแอปฯ กับสถานีชาร์จไฟได้ 17,400 แห่ง ใน 5 ประเทศทั่วยุโรป และคาดว่าจะเพิ่มจำนวนสถานีมากขึ้นในอนาคต กลุ่มธุรกิจโซลูชั่นส์แห่งการขับเคลื่อน เป็นกลุ่มธุรกิจที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของบ๊อช จากข้อมูลตัวเลขเบื้องต้นของบริษัท พบว่า กลุ่มธุรกิจนี้สามารถสร้างยอดขายได้มากถึง 47.4 พันล้านยูโร หรือคิดเป็นร้อยละ 61 จากยอดขายทั้งหมดของบริษัท จึงทำให้บ๊อชเป็นหนึ่งในผู้นำด้านการผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ เทคโนโลยี และบริการเกี่ยวกับยานยนต์ชั้นนำของโลก กลุ่มธุรกิจโซลูชั่นส์แห่งการขับเคลื่อนมุ่งมั่นที่จะสร้างการขับเคลื่อนที่ปลอดอุบัติเหตุ ปลอดมลภาวะ และปลอดภัยไร้กังวล โดยผสานความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีระบบอัตโนมัติ เทคโนโลยีพลังงานไฟฟ้า และเทคโนโลยีแห่งการเชื่อมต่อเข้าด้วยกัน สิ่งที่ลูกค้าจะได้รับจากกลุ่มธุรกิจโซลูชั่นส์แห่งการขับเคลื่อน คือ โซลูชั่นส์แห่งการขับเคลื่อนแบบเบ็ดเสร็จ โดยการให้บริการหลักๆ ของกลุ่มธุรกิจนี้ประกอบด้วย ระบบหัวฉีดและอุปกรณ์ที่ช่วยระบบขับเคลื่อนพลังงานสำหรับเครื่องยนต์ที่สันดาปภายใน โซลูชั่นส์ที่หลากหลายสำหรับระบบขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้า ระบบความปลอดภัยของยานยนต์ ระบบช่วยเหลือการขับขี่และฟังก์ชั่นอัตโนมัติต่างๆ เทคโนโลยีสาระบันเทิงที่เป็นมิตรกับผู้ใช้งาน นอกจากนี้ยังประกอบด้วยระบบการสื่อสารระหว่างยานยนต์ด้วยกันเอง หรือระหว่างยานยนต์กับโครงสร้างพื้นฐานบนท้องถนน การบริหารด้านคอนเซ็ปต์ของศูนย์ซ่อมบำรุงยานยนต์ รวมถึงเทคโนโลยีและการให้บริการอะไหล่ยานยนต์อีกด้วย บ๊อชสื่อความหมายถึงนวัตกรรมด้านยานยนต์ที่สำคัญ อาทิ ระบบการจัดการเครื่องยนต์ไฟฟ้า ระบบเบรก ESP เพื่อป้องกันการลื่นไถล และเทคโนโลยีเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล เป็นต้น กลุ่มบริษัทบ๊อช ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเทคโนโลยีและบริการชั้นนำของโลก มีพนักงานทั่วโลกกว่า 400,500 คน (ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2560) ในปี 2560 บริษัทมียอดขายรวมทั้งสิ้นกว่า 7.8 หมื่นล้านยูโร โดยแบ่งการดำเนินงานออกเป็น 4 กลุ่มธุรกิจสำคัญได้แก่ กลุ่มโซลูชั่นส์แห่งการขับเคลื่อน กลุ่มเทคโนโลยีอุตสาหกรรม กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค และกลุ่มเทคโนโลยีพลังงานและอาคาร ในฐานะผู้นำทางด้าน IoT (Internet of Things) บ๊อชนำเสนอนวัตกรรมแห่งโซลูชั่นส์เพื่อบ้านอัจฉริยะ เมืองอัจฉริยะ ยานยนต์ และ อุตสาหกรรมที่สามารถเชื่อมต่อถึงกัน ด้วยความเชี่ยวชาญในเทคโนโลยีเซนเซอร์ ซอฟต์แวร์ และการให้บริการ รวมถึงไอโอทีคลาวด์ของบ๊อชเอง เราจึงสามารถให้บริการโซลูชั่นส์ที่เชื่อมต่อแบบข้ามโดเมนได้เบ็ดเสร็จจากแหล่งเดียว เป้าหมายกลยุทธ์ของเรา คือการส่งมอบนวัตกรรมและสร้างแรงบันดาลใจเพื่อชีวิตที่เชื่อมต่อถึงกัน ผลิตภัณฑ์และบริการทั้งหมดได้รับการออกแบบมาเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต โดยการเสนอคำตอบที่ล้ำสมัยและเป็นประโยชน์ที่นับได้ว่าเป็น "เทคโนโลยีเพื่อชีวิต" กลุ่มบ๊อช ประกอบด้วยบริษัท โรเบิร์ต บ๊อช จีเอ็มบีเอช และบริษัทในเครืออีกกว่า 440 บริษัท รวมถึงสำนักงานระดับภูมิภาคในประเทศต่างๆ อีกกว่า 60 ประเทศ หากรวมบริษัทคู่ค้าผู้จัดจำหน่ายและให้บริการต่างๆ ทั้งส่วนการผลิตงานวิศวกรรม และเครือข่ายด้านการขาย บ๊อชครอบคลุมอยู่เกือบทุกประเทศทั่วโลก เพราะพื้นฐานสำคัญสำหรับการขยายตัวในอนาคตของบริษัทขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งด้านนวัตกรรม บริษัทจึงมีพนักงานในส่วนการวิจัยและพัฒนากว่า 62,500 คน ในศูนย์วิจัยกว่า 125 แห่งทั่วโลกในปัจจุบัน ข้อมูลเพิ่มเติม: www.bosch.com, www.iot.bosch.com, www.bosch-press.com, www.twitter.com/BoschPresse

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ