ธุรกิจความงามปีจอโตไม่ยั้ง “เอวีคลินิก”ลุยมาร์เก็ตออนไลน์เจาะนศ.-คนวัยทำงานดันโต 40%

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday March 14, 2018 17:36 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--14 มี.ค.--เอวีคลินิก นายหาญณรงค์ วงษา กรรมการผู้จัดการ (AV Clinic) เปิดเผยว่า เอวีคลินิกได้เปิดมาแล้วประมาณ 1 ปีกว่า กระแสตอบรับค่อนข้างดี ลูกค้ามีทุกระดับตั้งแต่นักศึกษา คนวัยทำงาน ที่มีกำลังซื้อสูง ระดับB+ ไป จนถึงA รายได้ตั้งแต่ 15,000 ขึ้นไป จุดแข็งของแบรนด์เอวี คือการศัลยกรรมเสริมจมูก ที่ลูกค้าชื่นชอบเพราะทำจมูกสวย ได้รูป ที่สำคัญคือราคาไม่สูงมากจนเกินไป โดยทางคลินิกจะเน้นความปลอดภัยเป็นหลัก ในกระบวนการทุกขั้นตอนจะคำนึงถึงความปลอดภัยของลูกค้าเป็นหลัก ส่วนการศัลยกรรมอื่นๆ ก็มีมากมาย เช่น การเสริมจมูก เสริมค้าง ทำตา เกี่ยวกับผิวพรรณ จะมีการทำโบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ ร้อยไหม เลเซอร์ผิว วิตามินผิว รักษาสิว ทำธุรกิจเกี่ยวกับความงามแบบครบวงจร สามารถรองรับลูกค้าได้ประมาณ 10 รายต่อวัน ปัจจุบันทำการตลาดจะเน้นหนักผ่านช่องโซเชียลมีเดีย เพราะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ได้อย่างรวดเร็ว เห็นได้จากการทำตลาดช่วงแรกจนถึงขณะนี้ มีฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว มีการจัดโปรโมชั่น เป็นบางช่วง โดยให้น้ำหนักในการทำการตลาดออนไลน์สัดส่วน 80 % ออฟไลน์ 20 % "กล้าพูดได้เลยว่าคุณภาพของเอวีคลินิกเทียบชั้นได้กับบิ๊กแบรนด์ขนาดใหญ่ในธุรกิจเสริมความงาม แม้ว่าทำเลจะไม่ได้อยู่ในห้างสรรพสินค้า คุณภาพตัวบุคลากรถือว่าดีมาก การต้อนรับที่ดี ยา และอุปกรณ์เครื่องมือทางการแพทย์ใช้ของที่ผ่านมาตรฐานทุกตัว ถึงแม้จะมีการแข่งขันสูง แต่เราต้องหาจุดแข็งให้เจอ"นายหาญณรงค์ กล่าว สำหรับสถานการณ์ทางการแข่งขัน ปัจจุบันมีสูงขึ้นมา โดยเฉพาะทำเลถนนลาดพร้าว มีคลิกนิกความงามประมาณ 10-20 ราย โดยคาดหวังชิงส่วนแบ่งทางการตลาดในโซนลาดพร้าวได้ประมาณ 10-15% โดยวางแผนการขยายสาขาในปลายปี 2561 นี้ เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ เล็งทำเลไว้ที่คอมมูนิตี้มอลล์ ที่มีคนจำนวนมาก ในกรุงเทพฯ เพราะจะได้บริหารจัดการได้ง่าย ในอนาคตเล็งออกไปลงทุนยังหัวเมืองใหญ่ที่มีคน และนักท่องเที่ยวจำนวนมาก อย่างไรก็ตามมองว่าธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับความงามยังเติบโตไปได้ต่อเนื่องในปีนี้ แต่ก็ต้องดูทำเลด้วยหากจะให้ธุรกิจขยายตัวไปอย่างรวดเร็วทำเลจะต้องดีพอ อุปสรรคสำหรับแบรนด์น้องใหม่ ก็จะลูกค้ามองว่าจะมีคุณภาพหรือไม่ แต่เอวีคลินิก ก็ได้พิสูจน์ให้ลูกค้ารับรู้ถึงคุณภาพแล้ว ถือว่าเป็นที่รู้จักในระดับหนึ่ง สำหรับปัจจัยลบที่น่าห่วงคือภาวะเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศ ปีนี้คาดว่าT6ธุรกิจจะเติบโต 40 % จากการทำกิจกรรมบนโลกโซเชียลมีเดียมากขึ้น กระตุ้นยอดขาย
แท็ก ลุย  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ