อย่าชะล่าใจกับคุณภาพอากาศภายในบ้าน

ข่าวทั่วไป Monday May 21, 2018 14:27 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--21 พ.ค.--เฟลชแมน ฮิลลาร์ด อย่าชะล่าใจกับคุณภาพอากาศภายในบ้าน ฝุ่นละอองอนุภาคขนาดเล็ก PM2.5 อันตรายที่ปลายจมูก สถิติพบโรคหอบหืดเป็นโรคเรื้อรังที่พบมากที่สุดในเด็ก เนื่องในโอกาสวันหืดโลก (World Asthma Day) ในช่วงเดือนพฤษภาคม ฟิลิปส์ ตระหนักถึงความสำคัญของการให้ความรู้เกี่ยวกับโรคหอบหืด โดยเฉพาะในเด็ก ซึ่งมีสาเหตุสำคัญมาจากภูมิแพ้ และรณรงค์ให้ผู้คนหันมาให้ความสำคัญการดูแลสภาพอากาศภายในบ้านเพื่อป้องกันให้ห่างไกลจากโรคหอบหืดและภูมิแพ้ ปัจจุบันมีผู้ป่วยที่ต้องทนทุข์ทรมานจากโรคหอบหืดทั่วโลกถึง 334 ล้านคน และคาดการณ์ว่าจำนวนผู้ป่วยจะเพิ่มสูงขึ้นกว่าอีก 100 ล้านคนภายในปี พ.ศ. 2568 ในขณะที่ในประเทศไทยคาดว่ามีผู้ป่วยโรคหอบหืดประมาณ 3 ล้านคน เสียชีวิต 1,000 คนต่อปี และพบว่ามีผู้ป่วยเป็นโรคหอบหืดเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 10 จากประชากรทั้งหมด โรคหอบหืด (Asthma) คือ โรคของระบบทางเดินหายใจ ซึ่งเกิดจากการหดตัวหรือตีบตันของช่องทางเดินหายใจ ทำให้อากาศเข้าสู่ปอดน้อยลง แท้จริงแล้วเป็นผลจากการอักเสบของเยื่อบุหลอดลม ทำให้ผู้ป่วยมีอาการหายใจลำบาก ไอ มีเสมหะที่เหนียวออกมามาก โดยเฉพาะเมื่อหายใจออกเกิดอาการเหนื่อยเวลาหายใจ เมื่ออาการหอบเพิ่มขึ้นเวลาหายใจจะมีเสียงดังวี้ดๆ เมื่อเป็นมากขึ้นจะเหนื่อยจนไม่สามารถหายใจเข้าออกได้ อาจทำให้ถึงขั้นเสียชีวิตอย่างเฉียบพลันได้ โรคหอบหืดส่วนมากนั้นจะเริ่มเป็นตั้งแต่เด็กๆ โดยนับเป็นโรคเรื้อรังที่พบมากที่สุดในเด็ก ตรวจวินิจฉัยได้ยาก และมักพบเมื่อเด็กมีอายุเกิน 5 ปีไปแล้ว เด็กกว่าร้อยละ 80 มีอาการหอบหืดจากภูมิแพ้ ซึ่งถูกกระตุ้นโดยสารก่อภูมิแพ้ เช่น สปอร์ เชื้อรา ขนสัตว์ ไรฝุ่น และละอองเกสรดอกไม้ต่างๆ รวมถึงอนุภาคฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 แบคทีเรีย ไวรัส การเปลี่ยนแปลงของความชื้นในอากาศและอุณหภูมิที่มาจากการทำกิจกรรมต่างๆ ภายในบ้าน เช่น การทำอาหาร การเลี้ยงสัตว์เลี้ยง การตกแต่งบ้านด้วยพรมและดอกไม้ เป็นต้น นายแพทย์ Chiang Wen Chin ประธาน สมาคมโรคหืดและโรคภูมิแพ้ ประเทศสิงคโปร์ กล่าวว่า "การรักษาคุณภาพอากาศภายในบ้านมีส่วนสำคัญอย่างมากในการช่วยลดสารกระตุ้น เช่น สารก่อภูมิแพ้ มลพิษ และความชื้นในอากาศ ที่ทำให้อาการหอบหืดในเด็กกำเริบได้ ถึงแม้เราจะไม่สามารถควบคุมมลพิษในอากาศภายนอกบ้านได้ แต่พ่อแม่สามารถเริ่มจัดการกับสภาพแวดล้อมภายในบ้านให้ดีขึ้นได้" ด้าน นางสาวสิริวรรณ นิจกิจจาทร ผู้จัดการทั่วไปกลุ่มธุรกิจ Personal Health บริษัท ฟิลิปส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "หลายๆ คนให้ความสำคัญกับเรื่องมลพิษทางอากาศภายนอกบ้าน โดยลืมคิดไปว่าจริงๆ แล้วเราใช้ชีวิตอาศัยอยู่ในบ้านมากกว่า และจากข้อมูลขององค์การอนามัยโลก (WHO) ชี้ว่าอากาศในบ้านของเราอาจมีมลพิษมากกว่าอากาศภายนอกถึง 2-5 เท่า* โดยกิจกรรมต่างๆ ภายในบ้าน ล้วนเป็นปัจจัยที่สามารถกระตุ้นให้เกิดอาการภูมิแพ้ และอาการของโรคหืดหอบให้กำเริบได้ หรือแม้กระทั่งเมื่อใดคุณเปิดหน้าต่างเพื่อระบายอากาศ ก็อาจนำสารก่อภูมิแพ้ต่างๆ และอนุภาคที่เล็กกว่า 2.5 ไมครอน (PM2.5) เข้ามาในบ้านของคุณได้ หรือสิ่งของตกแต่งภายในบ้านและเฟอร์นิเจอร์ใหม่ๆ อาจปล่อยก๊าซและสารระเหยTVOC ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ และส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจได้เช่นกัน สำหรับผู้ปกครองที่ลูกได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคหอบหืดต้องประสบกับภาวะความเครียดและความกังวลเป็นอย่างมาก อีกทั้งอาการหอบหืดเรื้อรังจะทำให้เด็กเกิดอาการนอนไม่หลับ รู้สึกเหนื่อยล้าระหว่างวัน และขาดเรียนบ่อย ส่งผลต่อการดำเนินชีวิตประจำของเด็กๆ ด้วย" เครื่องฟอกอากาศ Philips Air Purifier Series 3000i โดดเด่นด้วยเทคโนโลยี AeraSense ซึ่งทำหน้าที่เป็นเซ็นเซอร์ตรวจจับอนุภาคในอากาศ พร้อมแสดงผลระดับคุณภาพอากาศแบบเรียลไทม์ และมาพร้อมโหมดการปรับตั้งค่าอัตโนมัติ Allergen Mode ที่จะตรวจจับและเมื่อพบการเพิ่มขึ้นของสารก่อภูมิแพ้ จะทำการเร่งความเร็วลมของเครื่องฟอกอากาศแบบอัตโนมัติ ทำให้สามารถลดปริมาณสารก่อภูมิแพ้ในอากาศได้ทันที สามารถใช้งานได้กับห้องที่มีขนาดสูงสุด 95 ตร.ม.2 เครื่องฟอกอากาศ Philips Air Purifier Series 3000i ไม่เพียงแต่สามารถลดสารก่อภูมิแพ้เท่านั้น แต่ยังสามารถช่วยลดกลิ่น สารอินทรีย์ระเหยต่างๆ หรือ แม้กระทั่งแบคทีเรียบางชนิด ผ่านระบบฟอกอากาศ VitaShield IPS เครื่องฟอกอากาศฟิลิปส์ ราคา 26,900 บาท วางจำหน่ายแล้วที่ตัวแทนจำหน่ายและห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ได้ที่ ศูนย์ข้อมูลผู้บริโภคฟิลิปส์ โทร. 02-614-3340 หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ฟิลิปส์ได้ที่ www.philips.co.th หรือเฟซบุ๊ก www.facebook.com/philipsthailand

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ