โครงการเปิดพื้นที่หัวใจวัยโจ๋ชวนผู้ใหญ่เปิดใจรับฟัง เสียง Voice จากเยาวชน

ข่าวทั่วไป Friday May 7, 2010 16:15 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--7 พ.ค.-- โครงการเปิดพื้นที่หัวใจวัยโจ๋ชวนผู้ใหญ่เปิดใจรับฟัง เสียง Voice จากเยาวชน “ความรู้สึกในใจ...ขอเพียงแค่ผู้ใหญ่ยอมเปิดใจรับฟัง อาจช่วยให้ชีวิตเล็กๆ ไม่ต้องเดินหลงทาง จนถูกตีตราว่าเป็นปัญหาสังคม” โครงการเปิดพื้นที่หัวใจวัยโจ๋ ถือเป็นโครงการที่เข้ามาตอบโจทย์ปัญหาวัยรุ่น โดยเปิดพื้นที่บนโลกดิจิตอลให้เยาวชนได้ใช้เป็นพื้นที่แสดงออกทางด้านความคิด ความรู้สึก และความต้องการอย่างสร้างสรรค์ ผ่านโครงการประกวดวิดีโอคลิป ภายใต้หัวข้อ “เปิดหัวใจวัยโจ๋” ซึ่งมีเยาวชนเปิดใจผ่านวิดีโอคลิปข้าร่วมการประกวดจากทั่วประเทศถึง 595 คลิป ซึ่งในแต่ละคลิปเนื้อหาส่วนใหญ่ล้วนสะท้อนเรื่องราวช่องว่างระหว่างพ่อแม่-ลูก ครู-นักเรียน ซึ่งปัญหาเหล่านี้เป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญของช่องว่างในสังคม ที่ผู้ใหญ่ควรเปิดใจรับฟัง ก่อนเยาวชนจะเดินหลงทางและถูกตีตราว่าเป็นเด็กมีปัญหา เด็กหญิงกรรณิการ์ อำเอี่ยม ชั้น ม.1 โรงเรียนมัธยมวัดสิงห์ หนึ่งในทีมหัวรั้นเด็กดื้อ รางวัลชนะเลิศอันดับหนึ่ง เจ้าของคลิปวิดีโอเปิดใจเรื่องราวอัดอั้นตันใจกรณีพ่อกับแม่แยกทางกันซึ่งมีข้อความน่าสะเทือนใจว่า “ทั้งๆ ที่คิดว่าทำใจได้แล้ว และแม่ก็บอกเสมอว่าให้ทำใจยอมรับความจริงเรื่องพ่อ แต่ทำไมพอนึกขึ้นมาทีไรถึงได้ร้องไห้ทุกครั้ง ทำไมพ่อกับแม่ต้องแยกทางกัน?” ถือเป็นหนึ่งตัวอย่างเสียงสะท้อนปัญหาช่องว่างระหว่างครอบครัว ซึ่งเป็นลูกโซ่ของปัญหาที่ผู้เป็นพ่อและแม่สร้างขึ้นมา และควรหันกลับมาเปิดใจรับฟัง ซึ่งน้องได้เล่าว่า ตนได้มีโอกาสส่งคลิปเข้ามาประกวดเนื่องจากทางโครงการฯ ได้ไปจัดกิจกรรมที่โรงเรียนเห็นว่าน่าสนใจก็เลยเข้าร่วมกิจกรรมด้วย เดิมทีเรื่องที่ตนต้องการจะเปิดใจนั้นไม่ใช่เรื่องที่พ่อกับแม่แยกทางกันเลย แต่พอพี่ทีมงานพาไปที่ตู้เปิดใจ กลับทำให้ตนลืมเรื่องที่จะพูดเสียหมด แล้วพูดระบายถึงความเสียใจในกรณีที่พ่อแม่แยกทางขึ้นมาแทน อาจเพราะเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและอัดอั้นตันใจอยากจะระบายความรู้สึกต่างๆ ออกมาให้พ่อกับแม่ได้รับรู้บ้าง แต่ไม่มีโอกาส จึงพูดผ่านวิดีโอคลิปเสมือนว่าได้พูดให้พ่อกับแม่ฟัง เพราะปกติตนไม่ค่อยพูด ไม่เปิดเผยความรู้สึกหรือพูดถึงความเสียใจในเรื่องนี้กับพ่อแม่เลย พ่อกับแม่ก็ไม่เคยรับรู้ว่าตนรู้สึกอย่างไร ส่วนนางสาวปิยาภรณ์ พุ่มโพธิ์ ชั้น ม.3 โรงเรียนมัธยมด่านสำโรง เจ้าของคลิปแค่ความฝันที่ค้านกับความจริง รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 เปิดเผยว่า สำหรับคลิปที่ส่งเข้าประกวดเป็นคลิปที่ตนพูดระบายความในใจเกี่ยวกับความฝันของตัวเอง และมีความหวังว่าอยากจะทำให้มันเป็นความจริงในสักวัน แต่ความฝันนั้นมันค้านกับความเข้าใจของคนในครอบครัว ซึ่งตนฝันอยากจะสอบเข้าเรียนเป็นนิสิตแพทย์ เพราะอยากจะเป็นหมอ แต่ด้วยความที่ฐานะทางบ้านไม่ค่อยจะสู้ดีนัก ด้วยเงินเดือนพนักงานบริษัทเดือนละ 8 พันกว่าบาทของผู้ที่เป็นแม่ กับอาชีพขับรถรับจ้างรายได้ไม่แน่นอนของพ่อ ทำให้ครอบครัวมองว่าภาระมันหนักเกินไปหากจะต้องส่งเสียให้เธอเดินตามความฝัน อย่างไรก็ตามเธอได้กล่าวอย่างมั่นใจว่า ยังไงเธอก็จะขอเดินตามความฝันนั้น จะทำให้มันเป็นความจริงขึ้นมาให้ได้ เพื่อพิสูจน์ว่า คนเราไม่ว่าจะเกิดมาในฐานะใด รวยหรือจนก็มีสิทธิ์ที่จะเดินตามความฝันของตัวเองได้ทั้งนั้น ด้านนายแพทย์อุดมศิลป์ ศรีแสงนาม ที่ปรึกษาคณะกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ ประธานในพิธีประกาศรางวัลโครงการเปิดพื้นที่หัวใจวัยโจ๋ เปิดเผยว่า จากคลิปวิดีโอทั้ง13 คลิปที่ได้รับการกลั่นกรองจากทางคณะกรรมการ จากทั้งหมด 595 คลิป ที่เยาวชนส่งเข้ามาประกวด ได้แสดงให้เห็นว่าการเปิดพื้นที่สำหรับน้องๆ เยาวชน ภายใต้โครงการเปิดพื้นที่หัวใจวัยโจ๋ นั้น เป็นเครื่องมือที่ทรงพลัง เป็นพื้นที่สำหรับให้เยาวชนไทยได้มีช่องทางที่แสดงออกถึงความรู้สึก ความนึกคิดของตัวเอง โดยไม่ต้องมีกฎเกณฑ์ใดๆ มาปิดกั้นการแสดงทางความคิดของเค้า “ในสังคมปัจจุบันผู้ใหญ่มักจะมองว่าเด็กดื้อ ไม่เชื่อฟัง แต่ในความเป็นจริงแล้ว ทุกวันนี้เปิดทีวีทีไรก็เจอผู้ใหญ่ดื้อเต็มไปหมดใช่ไหมครับ ทั้งที่เด็กดื้อนั้นไม่เห็นมีเลย มีแต่ผู้ใหญ่ดื้อ และผู้ใหญ่ที่มักจะใส่ร้ายป้ายสีเด็ก ให้เห็นกันทุกเทศกาล ไม่ว่าจะเทศกาลปีใหม่,วาเลนไทน์,ลอยกระทง ซึ่งผู้ใหญ่มักจะให้สัมภาษณ์ทำนายทายทักล่วงหน้ากันไว้เลย บ้างก็พูดว่าเทศกาลเสียตัวบ้าง พูดง่ายๆว่าคือใส่ร้ายป้ายสีเด็กแต่ไม่เคยเปิดโอกาสให้เด็ก ซึ่งเป็นฝ่ายถูกกระทำได้มีช่องทางหรือพื้นที่ที่แสดงออกความรู้สึกในใจเลย” นายแพทย์อุดมศิลป์กล่าว ทั้งนี้ โครงการเปิดพื้นที่หัวใจวัยโจ๋ เปิดรับสมัครการประกวดวิดีโอคลิปภายใต้หัวข้อการประกวด “เปิดหัวใจวัยโจ๋” จากเยาวชนอายุระหว่าง 13 — 17 ปี เพื่อชิงทุนการศึกษาเป็นเงินรวม 145,000 บาท มาตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2552 จนถึงวันที่ 31 มกราคม 2553 ที่ผ่านมา ซึ่งมีเยาวชนให้ความสนใจส่งผลงานเข้าร่วมประกวดทั้งหมด 595 คลิป จาก 73 โรงเรียน ครอบคลุมทั่วประเทศ 34 จังหวัด คิดเป็นเยาวชนที่มีส่วนร่วมส่งวิดีโอคลิปเข้าร่วมจำนวน 3,939 คน โดยมีวิดีโอคลิปที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายมาทั้งหมด 13 คลิป รวม 13 ทีม และประกาศผลการตัดสินรางวัลไปเมื่อวันที่ 28 เมษายน ที่ผ่านมา โดยรางวัลชนะรางวัลชนะเลิศ ได้รับทุนการศึกษารางวัลละ 20,000 บาท รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้รับทุนการศึกษารางวัลละ 15,000 บาท รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้รับทุนการศึกษารางวัลละ 10,000 บาท นอกจากนี้ยังมีรางวัลชมเชยอีก 7 รางวัล ทุนการศึกษารางวัลละ 5,000 และรางวัล Popular Vote โดนใจคนดูอีก 4 รางวัล ได้รับทุนการศึกษารางวัลละ 5,000 บาท รวมเงินรางวัล 145,000 บาท นอกเหนือจากทุนการศึกษาที่ได้รับในแต่ละประเภทรางวัลแล้ว ผู้ชนะการประกวดทุกรางวัลยังได้รับประกาศเกียรติคุณจากโครงการฯ อีกด้วย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ