พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรระหว่าง 29 กันยายน 2557 - 05 ตุลาคม 2557

ข่าวทั่วไป Tuesday September 30, 2014 09:19 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 29 กันยายน 2557 - 05 ตุลาคม 2557

ภาคเหนือ

ในช่วงวันที่ 29 ก.ย. - 3 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 4-5 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักกับลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-34 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

  • สัปดาห์นี้เป็นช่วงปลายฤดูฝนที่จะเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาวสภาพอากาศจะเปลี่ยนแปลงโดยเริ่มจากทางตอนบนของภาคก่อน เกษตรกรควรรักษาสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย หากร่างกายปรับตัวไม่ทัน
  • ในช่วงวันที่ 4-5 ต.ค. จะมีฝนตกหนักและลมกระโชกแรง เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับพืชผลทางการเกษตร
  • นอกจากนี้ เกษตรกรที่มีแหล่งกักเก็บน้ำเป็นของตัวเองควรกักเก็บน้ำเอาไว้ใช้ทางด้านการเกษตร เนื่อจากในระยะต่อไปปริมาณ และการกระจายของฝนจะเริ่มลดลงโดยเริ่มจากทางตอนบนของภาคก่อน

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในช่วงวันที่ 29 ก.ย.- 2 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค ส่วนในช่วงวันที่ 3-5 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักกับลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-34 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

  • สัปดาห์นี้เป็นช่วงปลายฤดูฝนที่จะเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาวสภาพอากาศจะเปลี่ยนแปลงโดยเริ่มจากทางตอนบนของภาคก่อน เกษตรกรควรรักษาสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย หากร่างกายปรับตัวไม่ทัน รวมทั้งจัดเตรียมวัสดุ อุปกรณ์สำหรับกันหนาว และให้ความอบอุ่นแก่ตนเอง และสัตว์เลี้ยงไว้ให้พร้อมใช้งาน
  • ในช่วงวันที่ 3-5 ต.ค. จะมีฝนตกหนักและลมกระโชกแรง เกษตรกรควรระวังและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับพืชผลทางการเกษตร
  • ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์ไม่ควรปล่อยให้สัตว์เลี้ยงอยู่ในที่ชื้นแฉะเป็นเวลานาน เพราะจะทำให้สัตว์เลี้ยงอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย

ภาคกลาง

ในช่วงวันที่ 29-30 ก.ย.และ 4-5 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 1-3 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

  • สัปดาห์นี้มีฝนตกชุก กับมีฝนตกหนัก เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว
  • สำหรับพื้นที่การเกษตรที่อยู่ในที่ลุ่ม เกษตรกรควรจัดระบบระบายน้ำให้มีประสิทธิภาพ อย่าให้น้ำท่วมขังในพื้นที่เพาะปลูกนาน เพราะจะทำให้รากพืชขาดอากาศและต้นตายได้
  • ส่วนฝนที่ตกจะทำให้ดินและอากาศมีความชื้นสูง เกษตรกรควรระวังและป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราในไม้ดอกและพืชสวน เช่น โรคใบจุดในไม้ดอก โรครากเน่าโคนเน่าในไม้ผล เป็นต้น

ภาคตะวันออก

ในช่วงวันที่ 29-30 ก.ย.และ 4-5 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 1-3 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส

  • สัปดาห์นี้มีฝนตกต่อเนื่องกับมีฝนตกหนักบางแห่ง พื้นที่การเกษตรที่อยู่ในที่ลุ่ม เกษตรกรไม่ควรปล่อยให้น้ำขังบริเวณโคนต้นพืชนาน เพราะจะทำให้รากพืชขาดอากาศต้นพืชตายได้
  • สำหรับสภาพอากาศที่มีความชื้นสูงอาจทำให้เกิดโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา ชาวนาควรระวังการระบาดของโรคไหม้ ในข้าวนาปีที่อยู่ในระยะเจริญเติบโต โดยหมั่นสำรวจแปลงนาหากพบควรรีบกำจัดก่อนที่ระบาดเป็นบริเวณกว้าง
  • ส่วนชาวสวนผลไม้ และสวนยางพารา ควรดูแลสวนให้โปร่ง อากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อป้องกันโรคที่เกิดจากเชื้อรา

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

ในช่วงวันที่ 29 ก.ย.-2 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 3-5 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส

  • สัปดาห์นี้มีฝนตกเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนัก ซึ่งเป็นผลดีกับพืชผลการเกษตรที่ขาดน้ำในช่วงที่ผ่นมา
  • เนื่องจากระยะต่อไปจะเป็นฤดูฝนภาคใต้ฝั่งตะวันออก ปริมาณและการกระจายของฝนจะเริ่มเพิ่มขึ้น เกษตรกรควรขุดลอกคูคลองและทางระบายน้ำอย่าให้ตื้นเขิน เพื่อให้น้ำไหลได้สะดวก ป้องกันน้ำท่วมขังในพื้นที่การเกษตรเมื่อมีฝนตกหนัก
  • ส่วนชาวสวนผลไม้ เช่น ทุเรียน มังคุด และเงาะ เป็นต้น ควรดูแลสวนให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อลดความชื้นในสวน ป้องกันโรคพืชที่เกิดจากชื้อรา รวมทั้งดูแลบริเวณโคนต้นพืชให้โล่งเตียน ไม่ควรกองสุมวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรไว้ในสวน เพราะจะเป็นแหล่งสะสมของโรคและศัตรูพืช
  • ในช่วงที่มีฝนตกติดต่อกันทำให้อากาศและดินมีความชื้นสูง เกษตรกรที่ปลูกยางพารา ควรระวังและป้องกันโรคเส้นดำและโรคราสีชมพู หากพบการระบาดของโรคดังกล่าวควรรีบป้องกันกำจัด เพื่อไม่ให้เชื้อโรคลุกลามไปยังต้นอื่นๆ

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

ในช่วงวันที่ 29 ก.ย.-2 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 3-5 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส

  • สัปดาห์นี้มีฝนตกเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนัก ซึ่งเป็นผลดีกับพืชผลการเกษตรที่ขาดน้ำในช่วงที่ผ่นมา
  • ส่วนชาวสวนผลไม้ เช่น ทุเรียน มังคุด และเงาะ เป็นต้น ควรดูแลสวนให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อลดความชื้นในสวน ป้องกันโรคพืชที่เกิดจากชื้อรา รวมทั้งดูแลบริเวณโคนต้นพืชให้โล่งเตียน ไม่ควรกองสุมวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรไว้ในสวน เพราะจะเป็นแหล่งสะสมของโรคและศัตรูพืช
  • ในช่วงที่มีฝนตกติดต่อกันทำให้อากาศและดินมีความชื้นสูง เกษตรกรที่ปลูกยางพารา ควรระวังและป้องกันโรคเส้นดำและโรคราสีชมพู หากพบการระบาดของโรคดังกล่าวควรรีบป้องกันกำจัด เพื่อไม่ให้เชื้อโรคลุกลามไปยังต้นอื่นๆ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ