พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรระหว่าง 20 กุมภาพันธ์ 2558 - 26 กุมภาพันธ์ 2558

ข่าวทั่วไป Friday February 20, 2015 15:16 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 20 กุมภาพันธ์ 2558 - 26 กุมภาพันธ์ 2558

ภาคเหนือ

ตอนบนของภาค อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 11-16 องศาเซลเซียส ตลอดช่วง และในช่วงวันที่ 24-26 ก.พ. อุณหภูมิลดลง 1-2 องศาเซลเซียส ในช่วงวันที่ 20-23 ก.พ. ทางตอนล่างอากาศเย็นโดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง ส่วนในช่วงวันที่ 24-26 ก.พ. ทางตอนล่างอากาศเย็น กับมีฝนบางแห่งร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 17-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-35 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5-10 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

  • ระยะนี้อากาศเปลี่ยนแปลง โดยมีอากาศหนาวเย็นในตอนเช้าโดยเฉพาะทางตอนบนและด้านตะวันตกของภาคจะมีอุณหภูมิต่ำกว่าบริเวณอื่นๆ และเริ่มจะมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน สำหรับบางช่วงอาจมีฝนบางพื้นที่ส่วนมากทางตอนล่างของภาค เกษตรกรควรรักษาสุขภาพให้แข็งแรงเพื่อป้องกันการเจ็บป่วย หากร่างกายปรับตัวไม่ทัน
  • สำหรับไม้ผลที่อยู่ในระยะติดผลอ่อน เช่น ลิ้นจี่และลำไย เป็นต้น เกษตรกรควรดูแลให้น้ำอย่างเพียงพอ เพราะหากขาดน้ำในช่วงนี้จะทำให้การติดผลลลดลง หรือผลผลิตด้อยคุณภาพ
  • สำหรับผลผลิตทางการเกษตรที่เก็บเกี่ยวมาแล้ว เกษตรกรไม่ควรตากทิ้งไว้กลางแจ้งข้ามคืน เพราะอาจเปียกชื้นเสียหาย เนื่องจากหมอกและน้ำค้างได้
  • ระยะนี้บางช่วงอาจมีหมอกและน้ำค้าง เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคราแป้งและราน้ำค้างในพืชไร่ ไม้ผลและพืชผัก ซึ่งจะทำให้ต้นพืช เสียหายผลผลิตลดลงได้

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในช่วงวันที่ 20-23 ก.พ. อากาศเย็นกับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง ส่วนในช่วงวันที่ 24-26 ก.พ. อากาศเย็น กับมีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 20-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-31 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูจะมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-15 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

  • ระยะนี้อุณหภูมิแตกต่างกันมากระหว่างกลางวันและกลางคืน เกษตรกรควรรักษาสุขภาพให้แข็งแรงเพื่อป้องกันการเจ็บป่วยในช่วงเปลี่ยนจากฤดูหนาวเข้าสู่ฤดูร้อนนี้
  • สำหรับผลผลิตทางการเกษตรที่เก็บเกี่ยวมาแล้วหากเปียกฝน ในระยะที่ผ่านมา เกษตรกรควรลดความชื้น ก่อนนำเข้าโรงเก็บเพื่อป้องกันผลผลิตเน่าเสียหายในโรงเก็บพืชผลทางการเกษตร
  • แม้บางพื้นที่จะมีฝนตก แต่เกษตรกรที่ต้องการปลูกพืชควรรอไปก่อนให้มีฝนตกสม่ำเสมอแล้วค่อยลงมือปลูกเพื่อป้องกันพืชขาดน้ำในช่วงการเจริญเติบโต

ภาคกลาง

ในช่วงวันที่ 20-23 ก.พ. มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง ส่วนในช่วงวันที่ 24-26 ก.พ. มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาคอุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

  • ระยะนี้เป็นช่วงเปลี่ยนแปลงฤดูจากฤดูหนาวเข้าสู่ฤดูร้อน อากาศจะเปลี่ยนแปลง เกษตรกรควรรักษาสุขภาพของตนเองให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย
  • สำหรับผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรดูแลโรงเรือนให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก ไม่ร้อนหรือเย็นจนเกินไป และควบคุมอุณหภูมิภายในโรงเรือนอย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็วป้องกันสัตว์เลี้ยงปรับตัวไม่ทันจนอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย
  • ส่วนเกษตรกรที่ต้องการปลูกพืชในระยะนี้ควรมีน้ำสำรองให้แก่พืชในระยะเจริญเติบโต เนื่องจากระยะต่อไปปริมาณและการกระจายของฝนจะมีน้อย หากพืชได้รับน้ำไม่เพียงพอจะทำให้ผลผลิตด้อยคุณภาพ ถ้าขาดน้ำจะทำให้สูญเสียผลผลิตโดยสิ้นเชิง

ภาคตะวันออก ในช่วงวันที่ 20-23 ก.พ. มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 24-26 ก.พ. มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

  • สำหรับไม้ผลที่อยู่ในระยะเจริญเติบโตทางผล เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอน ซึ่งจะกัดกินส่วนที่อ่อนของพืช ทำให้ผลอ่อนเสียหาย ผลผลิตด้อยคุณภาพ
  • ในช่วงที่มีฝนตก เกษตรกรควรกักเก็บน้ำเอาไว้ใช้ทางด้านการเกษตร และควรวางแผนการใช้น้ำที่เก็บกักไว้ให้มีประสิทธิภาพ เพื่อจะได้มีน้ำใช้ทางด้านการเกษตรในช่วงแล้ง

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

ในช่วงวันที่ 20-23 ก.พ. มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 24-26 ก.พ. มีเมฆบางส่วน กับมีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. อ่าวไทยตอนบนตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร อ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

  • ทางตอนบนของภาคสภาพอากาศแห้ง เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูด เช่น เพลี้ยและไรต่างๆในพืชไร่ ไม้ผล และพืชผัก ทำให้ผลผลิตเสียหาย และด้อยคุณภาพ
  • สำหรับไม้ผลที่อยู่ในระยะออกดอก เกษตรกรควรงดให้น้ำรอจนกว่าจะเห็นดอกชัดเจนแล้วจึงค่อยให้น้ำโดยให้น้ำพืชในปริมาณที่น้อยก่อนแล้วค่อยเพิ่มปริมาณขึ้น
  • ส่วนทางตอนล่างของภาคซึ่งมีฝนตก เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอน ในพืชผัก และไม้ผล ซึ่งจะกัดกินส่วนที่อ่อนของพืช ทำให้พืชชะงักการเจริญเติบโตผลผลิตเสียหาย
  • เนื่องจากระยะต่อไปปริมาณและการกระจายของฝนจะมีน้อย เกษตรกรควรวางแผนการใช้น้ำที่เก็บกักไว้ให้มีประสิทธิภาพ เพื่อจะได้มีน้ำใช้ในช่วงแล้ง

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

ในช่วงวันที่ 20-23 ก.พ. มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 24-26 ก.พ. มีเมฆบางส่วน อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร

  • สำหรับไม้ผลที่อยู่ในระยะออกดอก เกษตรกรควรงดให้น้ำรอจนกว่าจะเห็นดอกชัดเจนแล้วจึงค่อยให้น้ำโดยให้น้ำพืชในปริมาณที่น้อยก่อนแล้วค่อยเพิ่มปริมาณขึ้น
  • ส่วนทางตอนล่างของภาคซึ่งมีฝนตก เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอน ในพืชผัก และไม้ผล ซึ่งจะกัดกินส่วนที่อ่อนของพืช ทำให้พืชชะงักการเจริญเติบโตผลผลิตเสียหาย
  • เนื่องจากระยะต่อไปปริมาณและการกระจายของฝนจะมีน้อย เกษตรกรควรวางแผนการใช้น้ำที่เก็บกักไว้ให้มีประสิทธิภาพ เพื่อจะได้มีน้ำใช้ในช่วงแล้ง

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ