พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรระหว่าง 29 พฤษภาคม 2558 - 04 มิถุนายน 2558

ข่าวทั่วไป Friday May 29, 2015 15:14 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 29 พฤษภาคม 2558 - 04 มิถุนายน 2558

ภาคเหนือ

ในช่วงวันที่ 29-30 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ ส่วนมากทางด้านตะวันออกของภาค ส่วนในช่วงวันที่ 31 พ.ค. - 4 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

  • ในช่วงวันที่ 31 พ.ค. - 4 มิ.ย.ปริมาณฝนจะเพิ่มขึ้น สภาพอากาศ มีความชื้นสูง เกษตรกรที่ต้องการปลูกพืชไร่และผักสวนครัว ควรคลุกเมล็ดพันธุ์ด้วยสารป้องกันเชื้อราก่อนปลูก
  • ส่วนพืชผักที่ปลูกไปแล้ว และอยู่ในระยะเจริญเติบโตเกษตรกรควรระวังและป้องกันศัตรูพืชจำพวกหนอนซึ่งจะกัดกินส่วนที่อ่อนทำให้ผลผลิตเสียหายได้
  • สำหรับไม้ผลที่อยู่ในระยะเก็บเกี่ยว เช่น ลิ้นจี่ เกษตรกรไม่ควรปล่อยให้ผลที่เน่าเสีย และร่วงหล่น กองอยู่ในบริเวณสวน เพราะจะเป็นแหล่งสะสมของโรคและศัตรูพืช โดยเฉพาะโรคที่เกิดจากเชื้อรา ซึ่งมักระบาดในช่วงที่มีความชื้นสูง

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในช่วงวันที่ 29-30 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนบนและด้านตะวันออกของภาค ส่วนในช่วงวันที่ 31 พ.ค. - 4 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

  • พื้นที่ซึ่งมีฝนตกในระยะที่ผ่านมา เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอนในพืชไร่ ไม้ผล และพืชผัก ที่จะกัดกินส่วนที่อ่อนของพืช ทำให้ใบและยอดอ่อนเสียหาย
  • สำหรับผู้ที่ปลูกพืชไร่ในระยะนี้ควรชุบท่อนพันธุ์หรือคลุกเมล็ดพันธุ์ด้วยสารป้องกันเชื้อรา รวมทั้งเตรียมดินให้มีการระบายน้ำที่ดี
  • สำหรับผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรดูแลโรงเรือนเลี้ยงสัตว์ให้โปร่ง อย่าให้อับชื้น รวมทั้งซ่อมแซมหลังคาอย่าให้รั่วซึม และไม่ควรปล่อยให้สัตว์เลี้ยงอยู่ในที่ชื้นแฉะเป็นเวลานาน เพื่อป้องกันสัตว์เลี้ยงอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย

ภาคกลาง

ในช่วงวันที่ 29-30 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนอง เป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ส่วนมากทางด้านตะวันตก และตอนล่างของภาค ส่วนในช่วงวันที่ 31 พ.ค. - 4 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาคอุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

  • ในช่วงวันที่ 31 พ.ค. - 4 มิ.ย. ปริมาณฝนจะเพิ่มขึ้น สภาพอากาศ มีความชื้นสูง ชาวสวนกล้วยไม้ควรดูแลโรงเรือนให้โปร่ง อากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อป้องกันโรคที่เกิดจากเชื้อรา
  • พื้นที่การเกษตรที่เป็นที่ลุ่ม เกษตรกรควรจัดระบบระบายน้ำในแปลงปลูกให้มีประสิทธิภาพ และเตรียมอุปกรณ์สำหรับสูบน้ำเอาไว้ให้พร้อมใช้งาน
  • ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรเตรียมวัสดุอุปกรณ์สำหรับกั้นขอบบ่อเลี้ยงเอาไว้ให้พร้อมใช้งาน เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นเมื่อมีฝนตกหนักในระยะต่อไป

ภาคตะวันออก

ในช่วงวันที่ 29-30 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 31 พ.ค. - 4 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

  • สำหรับไม้ผลที่เก็บเกี่ยวผลผลิตไปแล้ว เกษตรกรควรตัดแต่งกิ่งและขั้วผล แล้วทาแผลรอยตัดด้วยสารป้องกันเชื้อรา รวมทั้งไม่ควรปล่อยผลที่เน่าเสียและร่วงหล่นไว้ในสวน เพราะจะเป็นแหล่งสะสมของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา
  • สำหรับชาวสวนยางพาราควรดูแลสวนให้โล่งเตียนเพื่อลดความชื้นภายในสวน ป้องกันการระบาดของโรคที่เกิดจากเชื้อรา เช่น โรคใบยางร่วง ลูกยางเน่า โรคหน้ากรีดยาง และโรคเส้นดำ

-พื้นที่การเกษตรที่เป็นที่ลุ่ม เกษตรกรควรเตรียมทำทางระบายน้ำออกจากพื้นที่เพาะปลูก ขุดลอกทางระบายน้ำ อย่าให้ตื้นเขินเพื่อให้ระบายน้ำออกได้สะดวก

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ตลอดช่วง ส่วนมากทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-37 องศาเซลเซียสลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

  • สำหรับฝนที่ตกในภาคใต้ฝั่งตะวันออกจะเป็นผลดีสำหรับพืชที่อยู่ในระยะเจริญเติบโตและเจริญเติบโตทางผล แต่ควรระวัง และป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอน ซึ่งจะกัดกินใบ และยอดอ่อนของพืชทำให้ต้นชะงักการเจริญเติบโตผลผลิตเสียหาย
  • ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำในบ่อเลี้ยงไม่ควรปล่อยให้น้ำฝนที่ตกบนดินไหลลงบ่อ เพราะจะทำให้สภาพน้ำเปลี่ยนสัตว์น้ำปรับตัวไม่ทันอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ตลอดช่วง ส่วนมากทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

  • ระยะนี้ภาคใต้ฝั่งตะวันตกจะมีฝนเพิ่มขึ้น สภาพอากาศที่มีความชื้นสูง จะทำให้เกิดการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา ชาวสวนยางพาราควรดูแลสวนให้โล่งเตียนเพื่อลดความชื้นภายในสวน ป้องกันการระบาดของโรคที่เกิดจากเชื้อรา เช่น โรคใบยางร่วง ลูกยางเน่า โรคหน้ากรีดยาง และโรคเส้นดำ
  • ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำในบ่อเลี้ยงไม่ควรปล่อยให้น้ำฝนที่ตกบนดินไหลลงบ่อ เพราะจะทำให้สภาพน้ำเปลี่ยนสัตว์น้ำปรับตัวไม่ทันอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ