พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรระหว่าง 07 ตุลาคม 2558 - 13 ตุลาคม 2558

ข่าวทั่วไป Wednesday October 7, 2015 13:36 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 07 ตุลาคม 2558 - 13 ตุลาคม 2558

ภาคเหนือ

ในช่วงวันที่ 7-8 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ในช่วงวันที่ 9-13 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-33 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

  • ในช่วงวันที่ 9-11 ต.ค. จะมีฝนตกหนัก เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว
  • ระยะนี้เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอน ในพืชไร่ ไม้ผล และพืชผัก ซึ่งจะกัดกินส่วนที่อ่อนของพืช ทำให้ต้นชะงักการเจริญเติบโต ผลผลิตลดลงและด้อยคุณภาพ
  • เนื่องจากระยะต่อไปจะเป็นฤดูหนาว เกษตรกรควรจัดเตรียมวัสดุสำหรับเพิ่มความอบอุ่นให้แก่สัตว์เลี้ยง และอุปกรณ์สำหรับกันหนาวสำหรับตนเองเอาไว้ให้พร้อม รวมทั้งดูแลสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย โดยเฉพาะโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในช่วงวันที่ 7-8 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ในช่วงวันที่ 9-13 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-33 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

  • ในช่วงวันที่ 9-11 ต.ค. จะมีฝนตกหนัก เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว
  • สำหรับข้าวนาปีที่อยู่ในระยะเจริญเติบโต เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอน เช่น หนอนกอ และหนอนห่อใบ เป็นต้น ซึ่งจะกัดกินส่วนที่อ่อน ทำให้ต้นข้าวเสียหาย ผลผลิตลดลง และด้อยคุณภาพ หากพบควรรีบกำจัดก่อนระบาดเป็นบริเวณกว้าง ซึ่งจะยากต่อการควบคุม
  • เนื่องจากระยะต่อไปจะเป็นฤดูหนาว เกษตรกรควรจัดเตรียมวัสดุและอุปกรณ์สำหรับเพิ่มความอบอุ่นภายในโรงเรือนเลี้ยงสัตว์ และอุปกรณ์สำหรับกันหนาวแก่ตนเองเอาไว้ให้พร้อม

ภาคกลาง

ในช่วงวันที่ 7-9 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ในช่วงวันที่ 10-13 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

  • สำหรับพื้นที่การเกษตรที่อยู่ในที่ลุ่ม เกษตรกรไม่ควรปล่อยให้น้ำขังบริเวณโคนต้นพืชเป็นเวลานาน เพราะอาจทำให้รากพืชเน่า ต้นพืชตายได้
  • ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรดูแลโรงเรือนให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก ไม่อับชื้น รวมทั้งไม่ควรปล่อยให้สัตว์เลี้ยงอยู่ในที่ชื้นแฉะเป็นเวลานาน เพราะจะทำให้สัตว์เลี้ยงอ่อนแอ เป็นเป็นโรคได้ง่าย
  • ในช่วงวันที่ 9-11 ต.ค. จะมีฝนตกหนัก เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว

ภาคตะวันออก

ในช่วงวันที่ 7-9 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ในช่วงวันที่ 10-13 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

  • ในช่วงวันที่ 9-11 ต.ค. จะมีฝนตกหนัก เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว
  • สำหรับแปลงปลูกพืชที่อยู่ในที่ลุ่ม เกษตรกรไม่ควรปล่อยให้น้ำท่วมขังบริเวณโคนต้นพืชนาน เพราะจะทำให้รากพืชขาดอากาศต้นพืชตายได้
  • เกษตรกรที่ปลูกไม้ผลควรดูแลบริเวณโคนต้นพืชให้โล่งเตียนไม่ควรปล่อยให้มีวัชพืช หรือวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เช่น ใบไม้ กิ่งไม้ และหญ้าแห้งปกคลุม เพราะจะเป็น ที่อาศัยหลบซ่อนของโรค และศัตรูพืช

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

ในช่วงวันที่ 7-10 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ในช่วงวันที่ 11-13 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส

  • ระยะนี้บริเวณภาคใต้ตอนบนจะมีปริมาณและการกระจายของฝนมากกว่าบริเวณอื่น เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว
  • พื้นที่การเกษตรที่อยู่ในที่ลุ่ม เกษตรกรไม่ควร ปล่อยให้น้ำท่วมขังบริเวณโคนต้นพืชนาน เกิน 7 วัน เพราะจะทำให้รากพืชขาดอากาศ ต้นพืชตายได้
  • สำหรับไม้ผลที่เก็บเกี่ยวผลผลิตไปแล้ว เกษตรกรควรตัดแต่งกิ่ง และทาแผลรอยตัดด้วยสารป้องกันเชื้อรา เพื่อให้ต้นฟื้นตัวได้เร็วมีเวลาพักตัวได้นาน
  • ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำในบ่อเลี้ยง ไม่ควรปล่อยให้น้ำฝนที่ตกบนดินไหลลงบ่อ เพราะจะทำให้สภาพน้ำเปลี่ยนสัตว์น้ำปรับตัวไม่ทันจนอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

ในช่วงวันที่ 7-10 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ในช่วงวันที่ 11-13 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส

  • ระยะนี้บริเวณภาคใต้ตอนบนจะมีปริมาณและการกระจายของฝนมากกว่าบริเวณอื่น เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว
  • พื้นที่การเกษตรที่อยู่ในที่ลุ่ม เกษตรกรไม่ควร ปล่อยให้น้ำท่วมขังบริเวณโคนต้นพืชนาน เกิน 7 วัน เพราะจะทำให้รากพืชขาดอากาศ ต้นพืชตายได้
  • ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำในบ่อเลี้ยง ไม่ควรปล่อยให้น้ำฝนที่ตกบนดินไหลลงบ่อ เพราะจะทำให้สภาพน้ำเปลี่ยนสัตว์น้ำปรับตัวไม่ทันจนอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ