ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันวงเงินไม่เกิน 2,200 ล้านบาท “บ. ศุภาลัย” ที่ระดับ “A/Stable”

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday August 27, 2014 17:14 —ทริส เรตติ้ง

ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตให้แก่หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันในวงเงินไม่เกิน 2,200 ล้านบาทของ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “A” ในขณะเดียวกันทริสเรทติ้งยังคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดปัจจุบันของบริษัทที่ระดับ “A” ด้วย โดยแนวโน้มยังคง “Stable” หรือ “คงที่” ทั้งนี้ บริษัทจะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ชุดใหม่ไปใช้ชำระหนี้และขยายกิจการ อันดับเครดิตสะท้อนถึงผลการดำเนินงานของบริษัทที่ปรับตัวดีขึ้นตามคาดและฐานรายได้ที่คาดว่าจะขยายตัว ทั้งนี้ การพิจารณาอันดับเครดิตยังคำนึงถึงผลงานของบริษัทที่ได้รับการยอมรับในตลาดพัฒนาที่อยู่อาศัยในประเทศไทย แบรนด์สินค้าที่ได้รับการยอมรับในตลาดที่อยู่อาศัยระดับราคาปานกลาง และฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งของบริษัทด้วย อย่างไรก็ตาม จุดแข็งดังกล่าวลดทอนลงไปบางส่วนจากลักษณะของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นวงจรขึ้นลงและมีการแข่งขันสูง รวมถึงความกังวลในด้านต้นทุนการดำเนินงานที่ปรับตัวสูงขึ้นและภาวะการขาดแคลนแรงงานในธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงการคาดการณ์ว่าบริษัทจะสามารถรักษาผลการดำเนินงานและฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งเอาไว้ได้ โดยคาดว่าบริษัทจะมีรายได้อยู่ในช่วง 16,000 ถึง 20,000 ล้านบาทในระยะ 2-3 ปีข้างหน้า ทั้งนี้ อัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนทุนควรอยู่ในระดับต่ำกว่า 1 เท่า หรือ อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนต่ำกว่า 50% อย่างไรก็ตาม ความล่าช้าอย่างมีนัยสำคัญจากการรับรู้รายได้หรือสถานะทางการเงินที่อ่อนแอลงก็อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ต้องมีการปรับลดอันดับเครดิตหรือแนวโน้มอันดับเครดิตของบริษัทลงได้ในอนาคต

บริษัทศุภาลัยเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้ประกอบการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของไทยซึ่งก่อตั้งในปี 2532 โดยตระกูลตั้งมติธรรม ณ เดือนมิถุนายน 2557 ตระกูลตั้งมติธรรมซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทถือครองหุ้นในสัดส่วนทั้งสิ้น 28% และบริษัทมีโครงการที่อยู่อาศัยจำนวน 86 โครงการ ด้วยมูลค่ายอดขายคงเหลือประมาณ 27,000 ล้านบาท บริษัทมียอดขายที่รอรับรู้รายได้เป็นจำนวนมากประมาณ 40,000 ล้านบาท หรือประมาณ 3 เท่าของฐานรายได้ในปัจจุบัน โครงการที่อยู่อาศัยของบริษัทประกอบด้วยโครงการคอนโดมิเนียมคิดเป็น 57% และโครงการบ้านจัดสรรอีก 43% ความได้เปรียบในการแข่งขันของบริษัทมาจากความสามารถในการควบคุมต้นทุนการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพซึ่งทำให้บริษัทสามารถเสนอขายที่อยู่อาศัยในราคาที่แข่งขันได้

ยอดขายของบริษัทอยู่ที่ 18,900 ล้านบาทในปี 2556 ลดลง 16% จาก 22,442 ล้านบาทในปี 2555 โดยยอดขายที่ลดลงเป็นยอดขายจากโครงการคอนโดมิเนียมซึ่งลดลง 30% เป็น 11,947 ล้านบาทในปี 2556 ในขณะที่ยอดขายจากโครงการบ้านจัดสรรอยู่ที่ 6,953 ล้านบาทในปี 2556 เพิ่มขึ้น 30% จาก 5,320 ล้านบาทในปี 2555 ทั้งนี้ ยอดขายในครึ่งแรกของปี 2557 เพิ่มขึ้นเล็กน้อยในสัดส่วน 4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็น 8,085 ล้านบาท ยอดขายที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่มาจากโครงการที่อยู่อาศัยในแนวราบ

บริษัทมีรายได้จำนวน 12,615 ล้านบาทในปี 2556 เพิ่มขึ้น 10% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน รายได้จากคอนโดมิเนียมลดลงเล็กน้อย 2% เป็น 5,590 ล้านบาทในปี 2556 รายได้จากโครงการบ้านจัดสรรเท่ากับ 6,732 ล้านบาทในปี 2556 เติบโต 21% จาก 5,564 ล้านบาทในปี 2555 รายได้ในช่วงครึ่งแรกของปี 2557 เพิ่มขึ้น 47% เป็น 5,842 ล้านบาท โดยรายได้จากทั้งคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรรเติบโต 170% และ 16% ตามลำดับ รายได้ของบริษัทตั้งแต่ครึ่งหลังของปี 2557 จนถึงปี 2560 ส่วนหนึ่งรองรับด้วยยอดรอรับรู้รายได้อยู่แล้ว โดยในครึ่งหลังของปี 2557 บริษัทมียอดรอรับรู้รายได้จำนวน 12,248 ล้านบาท ในปี 2558 มีจำนวน 15,458 ล้านบาท และระหว่างปี 2559 ถึงปี 2560 มีอีกกว่า 10,000 ล้านบาท ดังนั้น จึงคาดว่ารายได้ของบริษัทจะเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ประมาณ 16,000-20,000 ล้านบาทในระยะเวลา 3 ปีข้างหน้า

สถานะทางการเงินของบริษัทยังคงแข็งแกร่ง โดยบริษัทมีอัตรากำไรที่สูงกว่าผู้ประกอบการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ส่วนใหญ่ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ทั้งนี้ อัตรากำไรจากการดำเนินงานของบริษัทอยู่ที่ 30%-33% ในช่วงปี 2554 จนถึงครึ่งแรกของปี 2557 ในช่วงครึ่งแรกของปี 2557 อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัทเพิ่มขึ้นเป็น 45.82% จาก 36.24% ณ สิ้นปี 2556 อย่างไรก็ตาม คาดว่าอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนจะลดลง จากการโอนรับรู้รายได้ของโครงการคอนโดมิเนียมในครึ่งหลังของปี 2557 อัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนทุนอยู่ที่ประมาณ 0.5 เท่า ตั้งแต่ปี 2552 จนถึง ปี 2556 แต่ครึ่งแรกของปี 2557 อัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนทุน เพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 0.9 เท่า อัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อเงินกู้รวมขึ้นและลงอยู่ในช่วงระหว่าง 50%-54% ในช่วงปี 2553-2555 ทั้งนี้ ระดับดังกล่าวถือว่าสูงสำหรับอุตสาหกรรมพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ในขณะที่อัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อเงินกู้รวมของบริษัทลดลงมาอยู่ที่ประมาณ 28% (ปรับอัตราส่วนให้เป็นตัวเลขเต็มปีแล้ว) ในครึ่งแรกของปี 2557 จากการมีภาระหนี้สินที่สูงขึ้น

บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) (SPALI)
อันดับเครดิตองค์กร: A
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
SPALI14OA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 700 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2557 A
SPALI14NA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2557 A
SPALI15OA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 745 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2558 A
SPALI165A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559 A
SPALI172A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,300 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2560 A
SPALI185A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2561 A
หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน ในวงเงินไม่เกิน 2,200 ล้านบาท ไถ่ถอนภายในปี 2561 A
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ santaya@trisrating.com  โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2557  ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/ratinginformation/rating_criteria.html

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ