ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันวงเงินไม่เกิน 6,100 ล้านบาท “บ. น้ำตาลมิตรผล” ที่ระดับ “A+/Stable”

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday September 17, 2014 13:52 —ทริส เรตติ้ง

ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตให้แก่หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันในวงเงินไม่เกิน 6,100 ล้านบาทของ บริษัท น้ำตาลมิตรผล จำกัด ที่ระดับ “A+” พร้อมทั้งคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดปัจจุบันของบริษัทที่ระดับ “A+” เช่นกัน โดยแนวโน้มยังคง “Stable” หรือ “คงที่” ทั้งนี้ บริษัทจะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ชุดใหม่ไปใช้ในการลงทุนตามแผน อันดับเครดิต “A+” สะท้อนถึงสถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งของบริษัทในอุตสาหกรรมน้ำตาลในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ตลอดจนแบรนด์สินค้าที่มีชื่อเสียง กระบวนการผลิตน้ำตาลที่มีประสิทธิภาพ และการขยายกิจการสู่ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำตาล นอกจากนี้ การพิจารณาอันดับเครดิตยังคำนึงถึงสถานการณ์ราคาน้ำตาลที่อยู่ในระดับต่ำในปัจจุบัน รวมถึงความเสี่ยงด้านกฎระเบียบและการดำเนินธุรกิจในต่างประเทศ และความเสี่ยงจากความผันผวนของปริมาณผลผลิตอ้อย ในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงการคาดการณ์ของทริสเรทติ้งว่ากลุ่มมิตรผลจะยังคงดำรงสถานะผู้นำในอุตสาหกรรมน้ำตาลทั้งในประเทศไทยและจีนได้ต่อไป ระบบการแบ่งปันรายได้ของอุตสาหกรรมน้ำตาลในประเทศ ตลอดจนกระแสเงินสดที่แน่นอนจากธุรกิจไฟฟ้า และความต้องการเอทานอลที่แข็งแกร่งจะช่วยให้บริษัทสามารถประคองตัวอยู่ได้ในช่วงที่ราคาน้ำตาลในตลาดโลกอยู่ในระดับต่ำ

บริษัทน้ำตาลมิตรผลก่อตั้งในปี 2489 โดยตระกูลว่องกุศลกิจ ปัจจุบันบริษัทเป็นผู้นำในธุรกิจอ้อยและน้ำตาลของไทยซึ่งมีตระกูลว่องกุศลกิจถือหุ้นเต็ม 100% โดยถือหุ้นผ่าน บริษัท น้ำตาลมิตรสยาม จำกัด บริษัทน้ำตาลมิตรผลมีโรงงานน้ำตาลในประเทศไทย จีน ลาว และออสเตรเลีย ในฤดูการผลิต 2556/2557 บริษัทมีผลผลิตน้ำตาลจาก 4 ประเทศรวมทั้งสิ้น 4.04 ล้านตัน

บริษัทเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลในประเทศไทยมาอย่างยาวนานโดยเป็นผู้ผลิตน้ำตาลรายใหญ่ที่สุดในประเทศ ทั้งนี้ ในฤดูการผลิต 2556/2557 บริษัทผลิตน้ำตาลได้ 2.3 ล้านตัน หรือคิดเป็นสัดส่วน 20.3% ของปริมาณน้ำตาลทั้งประเทศ ผู้ผลิตน้ำตาลรายใหญ่รองลงมาคือกลุ่มไทยรุ่งเรือง (15.5%) กลุ่มไทยเอกลักษณ์ (9.3%) กลุ่มน้ำตาลขอนแก่น (8.0%) และกลุ่มวังขนาย (6.2%) ประสิทธิภาพในการผลิตน้ำตาลของบริษัทอยู่ในระดับ 114.4 กิโลกรัม (กก.) ต่อตันอ้อยซึ่งนับว่าสูงกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมที่ 109.3 กก. ต่อตันอ้อยสำหรับปีการผลิต 2556/2557

บริษัทยังเป็นเจ้าของและบริหารโรงงานน้ำตาล 7 แห่งในประเทศจีนโดยมีผลผลิตน้ำตาล 1.17 ล้านตันในปีการผลิต 2556/2557 ปัจจุบันบริษัทมีส่วนแบ่งทางการตลาด 8.7% ซึ่งถือเป็นผู้ผลิตน้ำตาลรายใหญ่อันดับ 2 ในประเทศจีน โดยมีประสิทธิภาพในการผลิตน้ำตาลอยู่ที่ระดับ 126.8 กก. ต่อตันอ้อยในฤดูการผลิต 2556/2557 ส่วนโรงงานน้ำตาลของบริษัทในประเทศลาวผลิตน้ำตาลได้ 0.04 ล้านตัน และในประเทศออสเตรเลีย (MSF) ผลิตได้ 0.56 ล้านตันในฤดูการผลิต 2556/2557

ธุรกิจน้ำตาลเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้และกำไรจากการดำเนินงานในสัดส่วนที่สูงที่สุดของบริษัท ในปี 2556 บริษัทมีรายได้รวม 84,331 ล้านบาท รายได้จากธุรกิจน้ำตาลมีสัดส่วน 81% ของรายได้รวม รายได้ของธุรกิจน้ำตาลในจีนมีสัดส่วน 33% ของรายได้รวม ในขณะที่รายได้ของธุรกิจน้ำตาลในประเทศไทยคิดเป็นสัดส่วน 41% รายได้ธุรกิจน้ำตาลในประเทศลาวและออสเตรเลียยังมีจำนวนไม่มาก โดยรายได้จากประเทศลาวมีสัดส่วนเพียง 1% ของรายได้รวม และรายได้จาก MSF มีสัดส่วน 6%

นอกเหนือจากธุรกิจน้ำตาลแล้ว บริษัทยังขยายการลงทุนไปยังธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับอ้อยและน้ำตาลเพื่อใช้ประโยชน์สูงสุดจากอ้อยด้วย อาทิ ธุรกิจผลิตไฟฟ้า ธุรกิจผลิตเอทานอล ธุรกิจวัสดุทดแทนไม้ และธุรกิจผลิตกระดาษ ณ เดือนมิถุนายน 2557 โรงงานผลิตเอทานอลของบริษัทในประเทศไทยมีกำลังการผลิตที่ 960,000 ลิตรต่อวัน นอกจากนี้ บริษัทยังเป็นเจ้าของโรงไฟฟ้าซึ่งมีกำลังการผลิตรวม 375.8 เมกะวัตต์ด้วย

แม้ว่าราคาน้ำตาลจะลดลงทั่วโลก รายได้ของบริษัทในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2557 ยังอยู่ในระดับที่น่าพอใจ โดยรายได้ลดลง 5.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนเป็น 44,788 ล้านบาทในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2557 ปริมาณขายน้ำตาลของการดำเนินงานในประเทศไทยเพิ่มขึ้น 12.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่รายได้จากธุรกิจเอทานอลและไฟฟ้ารวมกันเพิ่มขึ้นถึง 33% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนเป็น 6,598 ล้านบาท ปัจจัยเหล่านี้ช่วยบรรเทาผลกระทบจากรายได้จากธุรกิจน้ำตาลในประเทศจีนที่ลดลง อย่างไรก็ตาม กำไรจากธุรกิจน้ำตาลลดลงตามราคาน้ำตาลที่อยู่ระดับต่ำ นอกจากนี้ ธุรกิจน้ำตาลในประเทศจีนยังเผชิญกับปัญหาต้นทุนอ้อยสูงจากนโยบายการกำหนดราคาอ้อยของรัฐบาลจีนเพื่อช่วยเหลือชาวไร่ อัตรากำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายของบริษัทลดลงเป็น 19.2% ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2557 จาก 22.5% ในช่วงเดียวกันของปีก่อน กำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) เท่ากับ 9,544 ล้านบาทลดลง 15.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ระดับ 11,333 ล้านบาท ทั้งนี้ กำไรจากการดำเนินงานของธุรกิจเอทานอลและไฟฟ้าที่รวมกันเติบโต 33% ช่วยบรรเทาการลดลงของกำไรจากการดำเนินงานของธุรกิจน้ำตาลที่ปรับตัวลง 67% ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2557 อัตราส่วน EBITDA ต่อดอกเบี้ยจ่ายในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2557 ยังคงอยู่ในระดับดีที่ 7.8 เท่าแม้ว่าราคาน้ำตาลจะอ่อนแอ อัตราส่วนการก่อหนี้ของบริษัทอยู่ในระดับปานกลาง โดยอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนเพิ่มขึ้นเป็น 53.9% ณ เดือนมิถุนายน 2557 จากระดับ 49.0% ณ เดือนธันวาคม 2556 เนื่องจากความต้องการใช้เงินทุนหมุนเวียนที่เพิ่มขึ้นในช่วงการผลิต การขยายกำลังการผลิตขนาดใหญ่ของบริษัทได้แล้วเสร็จทั้งหมดแล้ว ในปี 2557-2558 บริษัทจึงมีงบลงทุนปีละประมาณ 5,000-6,000 ล้านบาทซึ่งลดลงมากเมื่อเทียบกับปี 2554-2556 ที่ผ่านมาที่บริษัทมีการซื้อสินทรัพย์และการลงทุนรวมจำนวน 10,000-20,000 ล้านบาทต่อปี คาดว่าผลการดำเนินงานของบริษัทจะยังคงชะลอตัวในช่วงอุตสาหกรรมน้ำตาลประสบภาวะตกต่ำตามวัฏจักร แต่ภาระการลงทุนที่ลดลงน่าจะช่วยให้บริษัทรักษาระดับหนี้และความสามารถในการชำระหนี้ในระดับที่ยอมรับได้

คาดว่าราคาน้ำตาลจะยังคงอ่อนแอในช่วง 12 เดือนข้างหน้าเนื่องจากยังมีปริมาณน้ำตาลคงเหลือจำนวนมากทั่วโลก The United States Department of Agriculture หรือ USDA ได้คาดการณ์ว่าในฤดูการผลิตปี 2556/2557 จะยังคงมีอุปทานน้ำตาลส่วนเกินทั่วโลก ซึ่งเป็นปีที่ 4 ที่ติดต่อกันที่เกิดภาวะน้ำตาลเกินดุล โดย USDA คาดว่าจะเกินดุลจำนวน 1.5 ล้านตัน สำหรับในฤดูการผลิต 2557/2558 USDA คาดการณ์ว่าทั่วโลกจะผลิตน้ำตาลใกล้เคียงกับปีก่อนหน้าที่ 175.6 ล้านตัน โดยคาดว่าผลผลิตน้ำตาลที่ลดลงในประเทศบราซิล จีน ปากีสถาน และไทย จะสุทธิกับปริมาณน้ำตาลที่เพิ่มขึ้นในประเทศอินเดีย กลุ่มประเทศในสหราชอาณาจักรโซเวียตเดิม และกลุ่มประเทศประชาคมยุโรป ขณะที่ความต้องการบริโภคน้ำตาลคาดว่าจะเติบโตจากประเทศจีนและอินดีย หากเป็นไปตามนี้จะทำให้ปี 2557/2558 เป็นปีแรกในรอบ 5 ปีที่เกิดภาวะน้ำตาลขาดดุล โดย USDA คาดว่าน้ำตาลจะขาดดุลจำนวน 1.1 ล้านตันในปี 2557/2558 อย่างไรก็ตาม ปริมาณน้ำตาลคงเหลือที่มีอยู่จำนวน 45.5 ล้านตันตามประมาณการของ USDA จะยังคงเป็นปัจจัยกดดันราคาน้ำตาลในอนาคตอันใกล้นี้

บริษัท น้ำตาลมิตรผล จำกัด (MPSC)
อันดับเครดิตองค์กร: A+
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
MPSC14OA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2557 A+
MPSC155B: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2558 A+
MPSC156A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 600 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2558 A+
MPSC15OA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2558 A+
MPSC165A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 600 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559 A+
MPSC16OA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559 A+
MPSC16OB: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 3,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559 A+
MPSC175A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 600 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2560 A+
MPSC185A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 700 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2561 A+
MPSC18OA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,150 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2561 A+
MPSC20OA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2563 A+
MPSC20OB: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,850 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2563 A+
MPSC21OA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2564 A+
MPSC22OA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2565 A+
MPSC233A: หุ้นกู้ ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2566 A+
MPSC256A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,400 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2568 A+
หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันในวงเงินไม่เกิน 6,100 ล้านบาท ไถ่ถอนภายในปี 2567 A+
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ santaya@trisrating.com  โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2557  ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/ratinginformation/rating_criteria.html

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ