กสอ. ผนึกโตโยต้าเปิดตัวโครงการพี่ช่วยน้อง “ธุรกิจชุมชนพัฒน์” นำระบบคาราคุริ และไคเซ็น เสริมศักยภาพโอทอปและเอสเอ็มอีไทย

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday January 16, 2019 14:21 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--16 ม.ค.--เจซีแอนด์โค พับลิครีเลชั่นส์ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) ผนึกความร่วมมือกับบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดศูนย์เรียนรู้โตโยต้า ธุรกิจชุมชนพัฒน์" ในศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรม 4.0 (กล้วยน้ำไท) ภายใต้โครงการ Big Brother หรือ พี่ช่วยน้อง ที่จะร่วมมือกันเป็นพี่เลี้ยงในการพัฒนา ศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรม 4.0 (ITC) ให้เป็นศูนย์ฯขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรมเป้าหมายครบวงจร ได้แก่ กลุ่มเครื่องมืออุปกรณ์อัจฉริยะ กลุ่มดิจิทัลเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ และกลุ่มอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ วัฒนธรรม และบริการที่มีมูลค่าสูง โดยการนำระบบ "คาราคุริ" กลไกอัจฉริยะจากญี่ปุ่นที่โตโยต้าใช้เพิ่มผลิตภาพ ในกระบวนการผลิตมาถ่ายทอดสู่ผู้ประกอบการ พร้อมทั้งยกระดับหมู่บ้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ใน 4 ภูมิภาค ให้เป็นวิสาหกิจและหมู่บ้านต้นแบบของประเทศไทย ด้วยหลักการ "ไคเซ็น" นายเดชา จาตุธนานันท์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า ล่าสุด กสอ. ได้ผนึกกำลังร่วมกับบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ในการร่วมมือเป็นพี่เลี้ยงพัฒนาศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรม 4.0 (ITC) และโครงการหมู่บ้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ (CIV) ซึ่งมุ่งสนับสนุนกลไกที่จำเป็นต่าง ๆ ให้แก่เอสเอ็มอีและโอทอป เพื่อการยกระดับศักยภาพในหลากหลายด้าน พร้อมทั้งการให้คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง มาถ่ายทอดประสบการณ์จริง เพื่อเป็นแนวทางไปสู่การเตรียมความพร้อมการขับเคลื่อนธุรกิจให้สามารถเติบโตและดำเนินธุรกิจได้อย่างมีศักยภาพในหลากหลายมิติ ทั้งนี้ ยังได้ร่วมกันเปิด "ศูนย์การเรียนรู้โตโยต้า ธุรกิจชุมชนพัฒน์" ภายในศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรม 4.0 (กล้วยน้ำไท) เพื่อขับเคลื่อน 3 กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย ได้แก่ 1.กลุ่มเครื่องมืออุปกรณ์อัจฉริยะ หุ่นยนต์ และระบบเครื่องกล ที่ใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ควบคุม 2.กลุ่มดิจิทัล เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตที่เชื่อมต่อการทำงานของอุปกรณ์ต่าง ๆ ปัญญาประดิษฐ์ และเทคโนโลยีสมองกลฝังตัว และ 3.กลุ่มอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ วัฒนธรรม และบริการที่มีมูลค่าสูง โดยโตโยต้าจะให้ความช่วยเหลือด้วยการนำองค์ความรู้ในการทำธุรกิจที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ได้แก่ วิถีโตโยต้า (Toyota Way) และระบบการผลิตแบบโตโยต้า (Toyota Production System) และปรัชญาลูกค้าเป็นที่หนึ่ง (Customer First) มาถ่ายทอดเพื่อพัฒนาศักยภาพให้สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างมืออาชีพ พร้อมมุ่งเน้นให้มีการปรับปรุงคุณภาพสินค้าให้มีมาตรฐาน สามารถแข่งขันได้ทั้งในด้านปริมาณ คุณภาพ และราคา นอกจากนี้ยังจะมีการนำเทคโนโลยีหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพทุกกระบวนการจัดการ ซึ่งมั่นใจว่ากลไกความร่วมมือดังกล่าวจะเป็นส่วนสนับสนุนให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และวิสาหกิจชุมชนปรับตัวได้ทันกับความเปลี่ยนแปลงได้มากขึ้น พร้อมเชื่อมโยงการตลาดและการทำการค้าในยุคดิจิทัลได้อย่างมีศักยภาพในอนาคต ด้าน นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัดกล่าวเพิ่มเติมว่า ภายใต้ความร่วมมือในครั้งนี้ ได้สนับสนุนสร้างความเข้มแข็งแก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ผ่านโครงการ Big Brother หรือ "พี่ช่วยน้อง" ซึ่งนำองค์กรเอกชนขนาดใหญ่มาผนึกกำลังความช่วยเหลือ ถ่ายทอดนวัตกรรม ความรู้ และประสบการณ์ต่างๆ ในการทำธุรกิจแก่ผู้ประกอบการ เพื่อมุ่งสู่การเป็น "SMEs ยุค 4.0" โดยโตโยต้าได้ใช้ประสบการณ์จริงนำความรู้ทางวิชาการและความรู้เชิงขั้นตอนของโตโยต้า มาสนับสนุนใน 2 โครงการดังกล่าว โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 1. ศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรม 4.0 (Industry Transformation Center: ITC) โตโยต้าได้จัดตั้ง "ศูนย์การเรียนรู้โตโยต้า ธุรกิจชุมชนพัฒน์" ภายในศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรม 3 แห่ง ใน กรุงเทพฯ ชลบุรี และนครราชสีมา ที่ให้ข้อมูลในเรื่อง ระบบการผลิตแบบโตโยต้าและการประยุกต์ใช้กับธุรกิจ ซึ่งเป็นนิทรรศการเพื่อให้ผู้ประกอบการได้เข้าศึกษาหลักการปรับปรุงธุรกิจและแนวทางการบริหารจัดการตามแนวปฏิบัติของโตโยต้า รวมถึงตัวอย่างการปรับปรุงธุรกิจชุมชนต่าง ๆ ภายใต้โครงการ โตโยต้า ธุรกิจชุมชนพัฒน์ นอกจากนั้นยังมีการจัดแสดงวิธีการไคเซ็นกระบวนการผลิตด้วยกลไกอัติโนมัติ Karakuri หรือ การใช้กลไกพื้นฐาน เช่น รอก พื้นเอียง คาน ฯลฯ มาประยุกต์ใช้กับธุรกิจ เพื่อลดการใช้พลังงาน และค่าใช้จ่าย 2. หมู่บ้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ (Creative Industry Village: CIV) โตโยต้านำประสบการณ์จาก โครงการโตโยต้าธุรกิจชุมชนพัฒน์ เข้ายกระดับหมู่บ้านที่มีศักยภาพ 4 แห่ง ใน 4 ภูมิภาค ได้แก่ ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ ให้เป็นหมู่บ้านต้นแบบ โดยจะร่วมกับเจ้าหน้าที่ของโครงการเข้าเป็นพี่เลี้ยงในการถ่ายทอดหลักการไคเซ็นแก่ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับผลิตภัณฑ์หลักของชุมชน ตลอดจนการจัดอบรมผู้ฝึกสอนเพื่อให้เป็นผู้ให้คำปรึกษาและขยายผลการนำไปประยุกต์ใช้แก่หมู่บ้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ในแต่ละพื้นที่อย่างเหมาะสมต่อไป อันจะเป็นการเตรียมความพร้อมสู่การขยายผลทางการท่องเที่ยวของชุมชนในอนาคต โดย นายวุฒิกร กล่าวปิดท้ายว่า หวังเป็นอย่างยิ่งว่า การร่วมมือระหว่าง กสอ. และโตโยต้าในครั้งนี้ จะเป็นส่วนหนึ่งในการยกระดับศักยภาพผู้ประกอบการไทย ให้สามารถแข่งขันและพึ่งพาตนเองเตรียมความพร้อมสู่การเป็น SMEs 4.0 ได้อย่างภาคภูมิ ซึ่งโตโยต้ายังคงจะเดินหน้าขยายผลโครงการ "โตโยต้า ธุรกิจชุมชนพัฒน์" ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการ อันจะนำมาซึ่งประโยชน์สูงสุดต่อการสร้างเสถียรภาพแก่เศรษฐกิจฐานรากของประเทศให้เติบโตอย่าง มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืนต่อไป อย่างไรก็ดี กสอ. และบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ยังได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ "โครงการศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรม 4.0 และโครงการหมู่บ้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์" พร้อมเปิดศูนย์ศูนย์การเรียนรู้โตโยต้า ธุรกิจชุมชนพัฒน์ ณ กองพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีอุตสาหกรรมกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล้วยน้ำไท กรุงเทพฯ สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจรายละเอียด สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กองพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีอุตสาหกรรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม โทรศัพท์ 0 2367 8201-4,0 หรือ เข้าไปที่ www.dip.go.th หรือ เข้าไปที่ www.dip.go.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ