แถลงข่าวเศรษฐกิจและการเงินเดือนพฤษภาคม 2557

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday July 3, 2014 10:25 —ธนาคารแห่งประเทศไทย

ฉบับที่ 6/2557

ภาวะเศรษฐกิจการเงินภาคเหนือ เดือนพฤษภาคม 2557 โดยรวมทรงตัวจากเดือนก่อน แม้ภาคการผลิตสินค้าอุตสาหกรรมและการส่งออกขยายตัวตามการฟื้นตัวของอุปสงค์จากต่างประเทศ และสถานการณ์ทางการเมืองภายในประเทศที่มีความชัดเจนขึ้นในช่วงปลายเดือน อย่างไรก็ตาม ครัวเรือน และธุรกิจยังคงระมัดระวังการอุปโภคบริโภค จากภาระหนี้สินอยู่ในระดับสูง และรายได้เกษตรกรลดลงมากจากภาวะความแห้งแล้งและราคาข้าวที่ลดลง แม้ทางการจะเริ่มทยอยจ่ายเงินโครงการรับจานาข้าวให้แก่ชาวนา รวมทั้งการท่องเที่ยวชะลอลง และผู้ประกอบการยังชะลอการลงทุนรอความชัดเจนของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ สาหรับเสถียรภาพเศรษฐกิจในประเทศอยู่ในเกณฑ์ดี อัตราการว่างงานอยู่ในระดับต่า อัตราเงินเฟ้อปรับสูงขึ้นเล็กน้อย เงินฝากและสินเชื่อชะลอตัว

รายละเอียดของภาวะเศรษฐกิจภาคเหนือมี ดังนี้

ภาคอุปสงค์โดยรวมปรับดีขึ้นเล็กน้อยจากเดือนก่อน แต่หดตัวจากระยะเดียวกันปีก่อน โดยดัชนีการอุปโภคบริโภคภาคเอกชนค่อนข้างทรงตัวจากเดือนก่อน แต่หดตัวจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 5.8 ตามการใช้จ่ายสินค้าคงทนปีก่อนที่เพิ่มมากเป็นสาคัญ ประกอบกับผู้บริโภคยังระมัดระวังการใช้จ่าย ตามภาระหนี้ครัวเรือนอยู่ในระดับสูง และเกษตรกรมีรายได้ลดลงมาก แม้มีสัญญาณดีขึ้นจากการทยอยรับเงินจากโครงการรับจานาข้าวอย่างไรก็ดี สถานการณ์ทางการเมืองที่มีความชัดเจนในช่วงปลายเดือน ส่งผลให้ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคปรับดีขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 14 เดือน

ด้านดัชนีการลงทุนภาคเอกชนลดลงเล็กน้อยจากเดือนก่อน และลดลงร้อยละ 4.5 จากระยะเดียวกันปีก่อน เนื่องจากผู้ประกอบการชะลอการลงทุนรอความชัดเจนของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และแนวนโยบายภาครัฐ ส่งผลให้เครื่องชี้สาคัญลดลง ทั้งมูลค่าการนาเข้าเครื่องจักรกลและอุปกรณ์ ยอดการจดทะเบียนรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ และพื้นที่รับอนุญาตก่อสร้างในเขตเทศบาล ประกอบกับปริมาณการจาหน่ายวัสดุก่อสร้างชะลอลงตามภาวะการก่อสร้างของภาคเอกชน ส่วนการเบิกจ่ายงบประมาณผ่านคลังจังหวัด มีจานวน 14,128.8 ล้านบาท ปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อน และจากระยะเดียวกันปีก่อนเล็กน้อย

การส่งออกมีมูลค่า 468.1 ล้านดอลลาร์ สรอ. โดยเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 2.7 และเพิ่มจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 12.2 ตามการส่งออกชิ้นส่วนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้ในอุปกรณ์สื่อสาร และรถยนต์ ไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา และยุโรปเป็นสาคัญ ประกอบกับการส่งออกสินค้าอุปโภคบริโภคผ่านด่านชายแดนไปเมียนมาร์เพิ่มขึ้นด้วย ด้านการนาเข้ามีมูลค่า 129.5 ล้านดอลลาร์ สรอ. เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 6.9 จากการนาเข้าวัตถุดิบ และสินค้าขั้นกลางเพื่อผลิตสินค้าอุตสาหกรรมการส่งออก อาทิ แผงวงจรรวม เพชรยังไม่เจียระไน ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และแผ่นแก้วสาหรับทาเลนส์

ภาคอุปทานโดยรวมค่อนข้างทรงตัวจากเดือนก่อน โดยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมขยายตัวร้อยละ 7.0 และ 3.6 จากเดือนก่อนและระยะเดียวกันปีก่อน ตามการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ในอุปกรณ์สื่อสารและยานยนต์เซรามิก เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องหนัง และรองเท้า จากความต้องการของตลาดต่างประเทศโดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา ยุโรป และญี่ปุ่น รวมทั้งการผลิตเลนส์กล้องถ่ายภาพซึ่งได้ส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ การผลิตเพื่อการ บริโภคในประเทศมีสัญญาณดีขึ้น จากการผลิตวัสดุก่อสร้างเพิ่มขึ้นตามการก่อสร้างของภาครัฐ ประกอบกับการผลิตเครื่องดื่มปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อน ขณะที่ผลผลิตสินค้าเกษตรลดลงร้อยละ 14.1 จากระยะเดียวกันปีก่อนโดยเฉพาะผลผลิตข้าวนาปรัง อ้อยโรงงาน และถั่วเหลือง เนื่องจากได้รับผลกระทบจากภาวะภัยแล้งรุนแรง และขยายวงกว้างมากขึ้น และราคาสินค้าเกษตรลดลงร้อยละ 14.2 ตามราคาข้าวเปลือกเจ้า ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และอ้อยโรงงาน ที่ลดลงตามราคาตลาดโลก แม้ราคาสับปะรด และปศุสัตว์อยู่ในเกณฑ์ดี แต่ชดเชยรายได้เพียงบางส่วนส่งผลให้รายได้เกษตรกรลดลงจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 28.3 ปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยจากร้อยละ 29.9 เดือนก่อน

ภาคการท่องเที่ยวชะลอลงจากเดือนก่อนตามฤดูกาล แต่ปรับดีขึ้นเมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อนการชะลอลงจากเดือนก่อน เพราะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ทางการเมือง ทาให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติกลุ่มที่มีความอ่อนไหวเดินทางเข้ามาลดลงโดยเฉพาะชาวจีน สาหรับดัชนีค้าปลีกทรงตัวจากเดือนก่อน แต่ลดลงร้อยละ 12.9 จากระยะเดียวกันปีก่อน ตามสินค้ากลุ่มยานยนต์และเกี่ยวเนื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้า น้ามันเชื้อเพลิงเฟอร์นิเจอร์ และเครื่องแต่งกาย อย่างไรก็ดี ยอดขายในห้างสรรพสินค้า และวัตถุดิบการเกษตรยังขยายตัวดี

เสถียรภาพเศรษฐกิจในประเทศ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปปรับเป็นร้อยละ 2.69 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนตามการส่งผ่านต้นทุนไปยังราคาอาหารสาเร็จรูป เนื่องจากการปรับเพิ่มของราคาก๊าซหุงต้ม น้ามันเชื้อเพลิง และอาหารสด อัตราการว่างงานทรงตัวจากเดือนก่อนและระยะเดียวกันปีก่อนอยู่ที่ร้อยละ 0.7 ขณะที่จานวนผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมชะลอลงเล็กน้อย

ภาคการเงินขยายตัวในอัตราชะลอลง โดยเงินฝากของสาขาธนาคารพาณิชย์ ณ สิ้นเดือนเมษายน2557 มียอดคงค้าง 592,054 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 5.3 ชะลอลงจากเดือนก่อน เนื่องจากธนาคารพาณิชย์ชะลอการแข่งขันระดมเงินฝากลง เพื่อประเมินภาวะเศรษฐกิจ และแนวโน้มอัตราดอกเบี้ย ประกอบกับการบริหารเงินฝากให้สอดคล้องกับความต้องการสินเชื่อของภาคธุรกิจและครัวเรือน ที่ชะลอลง ท่ามกลางสถานการณ์ทางการเมือง และความระมัดระวังในการพิจารณาให้สินเชื่อเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้เงินให้สินเชื่อ มียอดคงค้าง 572,013 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 10.4 ชะลอตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 11

ธนาคารแห่งประเทศไทย สานักงานภาคเหนือ

ข้อมูลเพิ่มเติม : กุศล จันทร์แสงศรี

โทร. 0 5393 1164

e-mail : Kusolc@bot.or.th

ที่มา: ธนาคารแห่งประเทศไทย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ