แถลงข่าวเศรษฐกิจและการเงินเดือนกรกฏาคม 2557

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday September 2, 2014 13:31 —ธนาคารแห่งประเทศไทย

ฉบับที่ 8/2557

ภาวะเศรษฐกิจการเงินภาคเหนือเดือนกรกฎาคม 2557 ภาพรวมทรงตัวจากเดือนก่อน โดยการผลิตอุตสาหกรรม การส่งออก และการท่องเที่ยวขยายตัวดี ตามการฟื้นตัวของอุปสงค์จากต่างประเทศ และสถานการณ์ทางเศรษฐกิจการเมืองมีความชัดเจนมากขึ้น ทำให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและภาคธุรกิจกลับคืนมา ประกอบกับรายได้เกษตรกร และการใช้จ่ายภาครัฐปรับดีขึ้น แต่การใช้จ่ายและการลงทุนภาคเอกชนยังฟื้นตัวค่อนข้างช้า เนื่องจากครัวเรือนมีภาระหนี้สินอยู่ในระดับสูง ทำให้ยังระมัดระวังการใช้จ่าย ขณะที่ภาคธุรกิจส่วนใหญ่รอประเมินความชัดเจนของแนวนโยบายภาครัฐ สำหรับเสถียรภาพเศรษฐกิจในประเทศอยู่ในเกณฑ์ดี อัตราการว่างงาน และอัตราเงินเฟ้อปรับลดลง ด้านธนาคารพาณิชย์เงินฝากและสินเชื่อยังชะลอตัว

รายละเอียดของภาวะเศรษฐกิจภาคเหนือมี ดังนี้

ภาคอุปสงค์ทรงตัวจากเดือนก่อน แต่ยังหดตัวจากระยะเดียวกันปีก่อน โดยดัชนีการลงทุนภาคเอกชนหดตัวจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 1.4 แม้ความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจปรับดีขึ้น แต่ผู้ประกอบการยังชะลอการลงทุน เพื่อรอความชัดเจนของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและแนวนโยบายภาครัฐ สะท้อนจากเครื่องชี้สำคัญลดลง ทั้งยอดจดทะเบียนรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ และมูลค่าการนำเข้าเครื่องจักรกลและอุปกรณ์ อย่างไรก็ดี ปริมาณการจำหน่ายวัสดุก่อสร้างขยายตัวตามโครงการต่อเนื่องของภาครัฐ และพื้นที่รับอนุญาตก่อสร้างในเขตเทศบาลโดยเฉพาะหัวเมืองรองขยายตัว

ด้านดัชนีการอุปโภคบริโภคภาคเอกชนหดตัวจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 5.0 ตามการใช้จ่ายในสินค้าคงทนโดยเฉพาะหมวดยานยนต์ แม้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคปรับดีขึ้นต่อเนื่อง แต่ครัวเรือนมีภาระหนี้อยู่ในระดับสูง ทาให้ยังระมัดระวังการใช้จ่าย อย่างไรก็ดี ยอดจาหน่ายในห้างสรรพสินค้า และเครื่องใช้ไฟฟ้าขยายตัวจากการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย รวมทั้งสินค้าจาเป็นต่อการอุปโภคบริโภคยังขยายตัว สำหรับการเบิกจ่ายงบประมาณผ่านคลังจังหวัดมีจำนวน 14,406.2 ล้านบาท หดตัวร้อยละ 0.7 เนื่องจากรายจ่ายลงทุนยังทำได้ค่อนข้างจำกัด

การส่งออกผ่านด่านศุลกากรในเขตภาคเหนือมีมูลค่า 418.5 ล้านดอลลาร์ สรอ. เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 17.2 ตามการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมประเภทชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เช่น แผงวงจรสำเร็จรูป ไอซี และชิ้นส่วนเลนส์กล้องถ่ายภาพ ไปยังตลาดในกลุ่มอาเซียน ยุโรป และสหรัฐอเมริกา ประกอบกับการส่งออกสินค้าอุปโภคบริโภคผ่านด่านชายแดนขยายตัวดีทุกตลาด ด้านการนำเข้ามีมูลค่า 158.4 ล้านดอลลาร์ สรอ. หดตัวร้อยละ 3.5 ตามการนำเข้าวัตถุดิบ และสินค้าขั้นกลางเพื่อผลิตสินค้าอุตสาหกรรมลดลง

ภาคอุปทานทรงตัวจากเดือนก่อน โดยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 14.3 ตามการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์เพื่อเป็นส่วนประกอบของอุปกรณ์สื่อสาร ยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และอุปกรณ์สานักงาน รวมทั้งเซรามิกเครื่องใช้บนโต๊ะอาหาร ซึ่งขยายตัวดีจากความต้องการของตลาดเอเชีย และยุโรป ขณะที่การผลิตเพื่อการบริโภคในประเทศปรับดีขึ้นจากการผลิตสินค้าเกษตรแปรรูป และวัสดุก่อสร้างเพิ่มขึ้นตามการก่อสร้างโครงการต่อเนื่องของภาครัฐ ส่วนการผลิตอาหาร และเครื่องดื่มยังลดลง

รายได้เกษตรกรลดลงจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 1.9 แต่ปรับดีขึ้นจากเดือนก่อน ตามผลผลิตสินค้าเกษตรที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.6 จากผลผลิตลาไยเป็นสาคัญ เนื่องจากสภาพอากาศเอื้ออำนวย ประกอบกับผลผลิตข้าวนาปรังเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ขณะที่ราคาสินค้าเกษตรลดลงร้อยละ 12.5 จากสินค้าเกษตรเกือบทุกชนิดโดยเฉพาะข้าวเปลือกเจ้า และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ อย่างไรก็ดี ราคาปศุสัตว์อยู่ในเกณฑ์ดีโดยเฉพาะสุกร ด้านภาคการท่องเที่ยวปรับเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน และมีสัญญาณกลับสู่ภาวะปกติภายหลังสถานการณ์ทางการเมืองคลี่คลาย สะท้อนจากจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติโดยเฉพาะชาวจีนเดินทางเข้ามาในพื้นที่มากขึ้น ประกอบกับการจัดประชุมสัมมนาของหน่วยงานราชการจากมาตรการเร่งรัดการเบิกจ่ายของภาครัฐ ส่งผลให้อัตราการเข้าพักปรับสูงขึ้น

เสถียรภาพเศรษฐกิจของภาคเหนืออยู่ในเกณฑ์ดี อัตราเงินเฟ้อทั่วไปชะลอลงต่อเนื่องเหลือร้อยละ 2.2 ตามการปรับลดราคาน้ำมันเชื้อเพลิงตามราคาในตลาดโลก และผักผลไม้ เนื่องจากปริมาณผลผลิตออกสู่ตลาดมากขึ้น ด้านอัตราการว่างงานปรับลดลงเหลือร้อยละ 0.7 ขณะที่จำนวนผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมชะลอลงเล็กน้อย

ภาคการเงินขยายตัวชะลอลง โดยเงินฝากของสาขาธนาคารพาณิชย์ ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2557 มียอดคงค้าง 587,680 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 3.2 ชะลอต่อเนื่องจากเดือนก่อน แม้ธนาคารพาณิชย์เริ่มทยอยออกผลิตภัณฑ์เงินฝาก เพื่อรักษาฐานลูกค้าและบริหารเงินฝากให้เติบโตสอดคล้องกับเงินให้สินเชื่อ แต่ลูกค้าบางส่วนยังไปลงทุนในตราสารหนี้ที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าอัตราเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ ด้านเงินให้สินเชื่อมียอดคงค้าง 571,774 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 7.7 ชะลอลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 13 ตามการชะลอของสินเชื่ออุปโภคบริโภคส่วนบุคคลโดยเฉพาะเช่าซื้อรถยนต์ และสินเชื่อธุรกิจภาคเอกชน

ธนาคารแห่งประเทศไทย สานักงานภาคเหนือ

ข้อมูลเพิ่มเติม : กุศล จันทร์แสงศรี

โทร. 0 5393 1164 e-mail : Kusolc@bot.or.th

ที่มา: ธนาคารแห่งประเทศไทย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ