คณะรัฐมนตรีเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (เพิ่มโทษผู้ขับขี่รถในขณะเมาสุราเสพยาเสพติดให้โทษ หรือเสพวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท) ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอ และส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนนำเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาต่อไป
ร่างพระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (เพิ่มโทษผู้ขับขี่รถในขณะเมาสุราเสพยาเสพติดให้โทษ หรือเสพวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท) มีสาระสำคัญดังนี้
1. เพิ่มเติมการกำหนดให้ความผิดของผู้ขับขี่ฐานขับรถในขณะเมาสุราหรือของเมาอย่างอื่นซึ่งได้กำหนดโทษไว้ในมาตรรา 160 ตรี เป็นความผิดที่ห้ามมิให้เจ้าพนักงานจราจรหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 หรือพนักงานสอบสวนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ว่ากล่าวตักเตือนหรือมีอำนาจเปรียบเทียบ
2. ปรับปรุงอัตราโทษกรณีที่ผู้ขับขี่เสพยาเสพติดให้โทษตามกฎหมายว่าด้วยยาเสพติดให้โทษหรือเสพวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทตามกฎหมายว่าด้วยวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท
3. ปรับปรุงอัตราโทษกรณีที่ผู้ขับขี่ขับรถในขณะเมาสุราหรือของเมาอย่างอื่น
4. กำหนดให้ศาลมีอำนาจสั่งพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ในกรณีที่ผู้ขับขี่ต้องคำพิพากษาว่าได้กระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้และอาจก่อให้เกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินของผู้อื่น
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 16 มกราคม 2550--จบ--
ร่างพระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (เพิ่มโทษผู้ขับขี่รถในขณะเมาสุราเสพยาเสพติดให้โทษ หรือเสพวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท) มีสาระสำคัญดังนี้
1. เพิ่มเติมการกำหนดให้ความผิดของผู้ขับขี่ฐานขับรถในขณะเมาสุราหรือของเมาอย่างอื่นซึ่งได้กำหนดโทษไว้ในมาตรรา 160 ตรี เป็นความผิดที่ห้ามมิให้เจ้าพนักงานจราจรหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 หรือพนักงานสอบสวนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ว่ากล่าวตักเตือนหรือมีอำนาจเปรียบเทียบ
2. ปรับปรุงอัตราโทษกรณีที่ผู้ขับขี่เสพยาเสพติดให้โทษตามกฎหมายว่าด้วยยาเสพติดให้โทษหรือเสพวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทตามกฎหมายว่าด้วยวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท
3. ปรับปรุงอัตราโทษกรณีที่ผู้ขับขี่ขับรถในขณะเมาสุราหรือของเมาอย่างอื่น
4. กำหนดให้ศาลมีอำนาจสั่งพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ในกรณีที่ผู้ขับขี่ต้องคำพิพากษาว่าได้กระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้และอาจก่อให้เกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินของผู้อื่น
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 16 มกราคม 2550--จบ--