โครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด

ข่าวการเมือง Wednesday April 1, 2015 07:00 —มติคณะรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบหลักการโครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เสนอ โครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด มีสาระสำคัญสรุปได้ดังนี้

1. วัตถุประสงค์ : เป็นการจัดสวัสดิการพื้นฐานเพื่อสร้างระบบการคุ้มครองทางสังคมและเป็นหลักประกันสิทธิขั้นพื้นฐานให้เด็กแรกเกิดได้รับการเลี้ยงดูที่มีคุณภาพ รวมทั้งเป็นมาตรการจูงใจให้พ่อแม่ ผู้ปกครอง ผู้ดูแลเด็ก นำเด็กเข้ารับบริการทางสาธารณสุขที่มีคุณภาพอย่างเป็นระบบ

2. กลุ่มเป้าหมายและงบประมาณ : เด็กแรกเกิดสัญชาติไทยที่บิดาและ/หรือมารดามีสัญชาติไทย เกิดระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2558 – 30 กันยายน 2559 และอยู่ในครัวเรือนยากจนและครัวเรือนที่เสี่ยงต่อความยากจน โดยอุดหนุนรายละ 400 บาทต่อคนต่อเดือน เป็นเวลา 1 ปี

3. พื้นที่การดำเนินงาน : ครัวเรือนยากจนและครัวเรือนที่เสี่ยงต่อความยากจนทั่วประเทศ

4. เป้าหมาย : จัดสวัสดิการพื้นฐานเพื่อสร้างระบบการคุ้มครองทางสังคม ลดความเหลื่อมล้ำและเป็นหลักประกันสิทธิขั้นพื้นฐานให้เด็กแรกเกิดได้รับการเลี้ยงดูที่มีคุณภาพ

5. ประโยชน์ที่ประชาชนได้รับ :

5.1 ประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศ : เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าเพื่อพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และสร้างรากฐานที่สำคัญของการพัฒนาประเทศ เพื่อให้เด็กสามารถเติบโตเป็นประชากรที่มีคุณภาพของสังคมและเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศต่อไปในอนาคต

5.2 ประโยชน์ต่อเด็ก : เด็กแรกเกิดได้รับการเลี้ยงดูที่มีคุณภาพ เข้าถึงบริการทางสาธารณสุข มีคุณภาพอย่างเป็นระบบ ซึ่งจะสามารถส่งเสริมให้เด็กแรกเกิดและปฐมวัย มีพัฒนาการเหมาะสมตามวัย เป็นพื้นฐานที่สำคัญในการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในช่วงวัยอื่นๆ ต่อไป

5.3 ประโยชน์ต่อพ่อแม่ ผู้ปกครอง ผู้ดูแลเด็ก : ได้รับการช่วยเหลือแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในการดูแลเด็ก รวมทั้งทำให้พ่อแม่ ผู้ปกครอง ผู้ดูแลเด็ก มีความรู้ความเข้าใจในการเลี้ยงดูและส่งเสริมพัฒนาการเด็กผ่านโรงเรียนพ่อแม่

6. ผลสัมฤทธิ์และตัวชี้วัด : ร้อยละ 95 ของเด็กที่ได้รับเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิดได้รับการเลี้ยงดูที่มีคุณภาพและมีพัฒนาการที่เหมาะสมตามวัย

7. การติดตามประเมินผล : ติดตามประเมินผลโดยกลไกคณะอนุกรรมการส่งเสริมการพัฒนาเด็กปฐมวัยระดับจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 31 มีนาคม 2558--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ