แผนพัฒนาการประกันภัย ฉบับที่ 3 (พ.ศ. 2559-2563)

ข่าวการเมือง Tuesday July 12, 2016 17:55 —มติคณะรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบแผนพัฒนาการประกันภัย ฉบับที่ 3 (พ.ศ. 2559-2563) ตามที่กระทรวงการคลัง (กค.) เสนอ

สาระสำคัญของเรื่อง

กค. รายงานว่า

1. สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ได้จัดทำแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 3 ซึ่งผ่านการระดมความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน เพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาธุรกิจประกันภัยไทยในระยะต่อไป และเป็นการวางกรอบทิศทางในการพัฒนาธุรกิจประกันภัยไทยช่วงปี พ.ศ. 2559-2563 ที่ต้องการมุ่งเน้นให้ “ระบบประกันภัยไทยเติบโตอย่างยั่งยืนและได้รับความเชื่อถือไว้วางใจจากประชาชน” ประกอบด้วยยุทธศาสตร์หลัก 4 ยุทธศาสตร์ ดังนี้

ยุทธศาสตร์

ยุทธศาสตร์ที่ 1 การเพิ่มศักยภาพอุตสาหกรรมประกันภัย

สาระสำคัญ

  • เสริมสร้างศักยภาพผู้ประกอบการ โดยพัฒนากรอบการกำกับเงินกองทุนตามระดับความเสี่ยง ระยะที่ (RBC 2) และลดต้นทุนจากการประกอบธุรกิจ โดยนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ มาใช้เพื่อมุ่งสู่การเป็นองค์กรดิจิทัล
  • ยกระดับมาตรฐานการดำเนินธุรกิจประกันภัย โดยมุ่งเน้นการบริหารจัดการที่ดี การเปิดเผยข้อมูล รวมถึงการคัดกรองบุคคลที่มีคุณภาพในการเข้ามาดำเนินธุรกิจประกันภัย
  • ยกระดับพฤติกรรมทางการตลาดของระบบประกันภัย โดยให้ความสำคัญกับกระบวนงานที่ส่งผลกระทบโดยตรงก่อนเป็นอันดับแรก

ยุทธศาสตร์ที่ 2 การเสริมสร้างความรู้และการเข้าถึงการประกันภัย

สาระสำคัญ

  • เสริมสร้างความรู้ความเข้าใจด้านการประกันภัย ผ่านการพัฒนาเครื่องมือรูปแบบวิธีการและสื่อประชาสัมพันธ์ที่เหมาะสมกับทุกกลุ่มเป้าหมาย
  • ส่งเสริมการพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยให้สอดคลัองกับความต้องการและความเสี่ยงโดยมุ่งเน้นผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่รองรับสังคมผู้สูงอายุ ผู้ด้อยโอกาสและผู้พิการผลิตภัณฑ์ประกันภัยสำหรับรายย่อย รวมถึงผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่จะช่วยลดความเสี่ยงจากการประกอบอาชีพ
  • ขยายช่องทางการเข้าถึงการประกันภัยของประชาชนรายย่อยและท้องถิ่นผ่านการพัฒนากระบวนการขายประกันภัยผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ที่ปลอดภัย

ยุทธศาสตร์ที่ 3 การสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการแข่งขัน

สาระสำคัญ

  • เสริมสร้างการแข่งขันผ่านการผ่อนคลายการกำกับผลิตภัณฑ์ประกันภัย เพื่อให้มีความยืดหยุ่นและอิงกลไกตลาดมากขึ้น
  • พัฒนาการกำกับ และกระบวนการให้ความเห็นชอบ / อนุมัติผลิตภัณฑ์ประกันภัยเพื่อลดอุปสรรคและความล่าช้า แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานการกำกับตามระดับความมั่นคงและระดับความเสี่ยงของบริษัทประกันภัย
  • ส่งเสริมการเชื่อมโยงตลาดประกันภัยในภูมิภาคอาเซียน โดยให้ไทยเป็นศูนย์กลางด้านการประกันภัยในกลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม) รวมถึงการส่งเสริมความร่วมมือด้านวิชาการในกลุ่มประเทศ CLMV

ยุทธศาสตร์ที่ 4 การเสริมสร้างโครงสร้างพื้นฐานประกันภัย

สาระสำคัญ

  • พัฒนาและยกระดับบุคลากรประกันภัยให้เป็นมืออาชีพ โดยการสร้างมาตรฐานวิชาชีพของบุคลากรประกันภัย ผลักดันให้สถาบันวิทยาการประกันภัยระดับสูงเป็นศูนย์กลางพัฒนาหลักสูตรและการฝึกอบรม และการให้ทุนสำหรับบุคลากรประกันภัย และนิสิตนักศึกษาในสาขาที่ขาดแคลน
  • เสริมสร้างศักยภาพการวิจัยและสารสนเทศ โดยส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาในระบบประกันภัย และพัฒนาฐานข้อมูลกลางด้านการประกันภัยให้สมบูรณ์
  • ผลักดันให้การประกันภัยเป็นเครื่องมือบริหารความเสี่ยง โดยเฉพาะการประกันภัยพืชผลสำหรับเกษตรกร การประกันภัยรถโดยสารสาธารณะ อาคารสาธารณะและสถานประกอบการที่มีความเสี่ยงสูง
  • เสริมสร้างศักยภาพของหน่วยงานกำกับ โดยปรับปรุงและพัฒนากฎหมายเกี่ยวกับการประกันภัย รวมถึงพัฒนาการบังคับใช้กฎหมาย และเตรียมความพร้อมเพื่อการประเมินในโครงการประเมินภาคการเงิน (Financial Sector Assessment Program: FSAP)

2. ความสำเร็จของแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 3 พิจารณาจากปัจจัยชี้วัดความสำเร็จด้านพัฒนาการและเสถียรภาพของระบบประกันภัย 5 ปัจจัย ดังนี้

2.1 สัดส่วนเบี้ยประกันภัยต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (Insurance Penetration) อยู่ในระดับเดียวกับค่าเฉลี่ยสัดส่วนเบี้ยประกันภัยต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของโลก อยู่ที่ร้อยละ 6.2

2.2 จำนวนกรมธรรม์ประกันชีวิตต่อประชากรอยู่ที่ร้อยละ 50

2.3 มูลค่าเบี้ยประกันภัยต่อหัว (Insurance Density) ของไทยอยู่ในระดับเดียวกับค่าเฉลี่ยมูลค่าเบี้ยประกันภัยต่อหัวของโลก ระหว่าง 18,000 – 23,000 บาท

2.4 ระดับความสำเร็จของการยกระดับความมั่นคงทางการเงินโดยบริษัทประกันภัยสามารถดำรงเงินกองทุนได้ครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนดในปัจจุบัน ทั้งนี้ อัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุน (CAR ratio) ในปัจจุบันอยู่ที่ระดับร้อยละ 140

2.5 สัดส่วนเรื่องร้องเรียนที่เข้าสู่ระบบไกล่เกลี่ยเรื่องร้องเรียนของสำนักงาน คปภ. ต่อจำนวนกรมธรรม์ประกันภัย ไม่เกินร้อยละ 0.016

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 12 กรกฏาคม 2559--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ