ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490 แก้ไข เพิ่มเติม (ฉบับที่ 9) พ.ศ. 2543 และร่างพระราชบัญญัติยกเว้นความผิดทางอาญาให้แก่ผู้นำอาวุธปืนฯ มามอบให้แก่ทางราชการ พ.ศ. ....
คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 9) พ.ศ. 2543 และร่างพระราชบัญญัติยกเว้นความผิดทางอาญาให้แก่ผู้นำอาวุธปืนฯ มามอบให้แก่ทางราชการ พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ซึ่งได้ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 1 ซึ่งมีรองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ) เป็นประธานกรรมการฯ แล้ว
กระทรวงมหาดไทยได้เสนอร่างพระราชบัญญัติ และร่างกฎกระทรวงให้คณะรัฐมนตรีพิจารณา โดยให้เหตุผล ดังนี้
1. เหตุผลในการเสนอร่างพระราชบัญญัติ ได้พิจารณาสถานการณ์ปัจจุบันปรากฏว่ามีผู้ครอบครองอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนหรือวัตถุระเบิดที่ไม่ได้รับอนุญาตหรือที่กฎหมายห้ามออกใบอนุญาต ซึ่งจะนำไปสู่การกระทำความผิดทางอาญาได้ กระทบต่อความสงบเรียบร้อยในสังคม จึงสมควรให้ผู้มีนำมาไว้แก่ทางราชการเพื่อป้องกันอาชญากรรมได้ทางหนึ่ง
2. การเสนอร่างกฎกระทรวง กระทรวงมหาดไทยให้เหตุผลว่าค่าธรรมเนียมในการใช้อาวุธปืนเดิมใช้มานานไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ สมควรปรับให้สอดคล้องกับฐานะของเศรษฐกิจของกลุ่มบุคคลผู้ต้องการมีและใช้กล่าวคือ ได้กำหนดค่าธรรมเนียมใหม่ ดังนี้
2.1 ใบอนุญาตให้มีปืนติดตัวจากเดิม ฉบับละ 100 บาท เป็นฉบับละ 1,000 บาท
2.2 ใบอนุญาตให้มีปืนและใช้อาวุธปืนสำหรับ
- ปืนยาวประจุปาก (ปัจจุบันไม่มีการผลิตใหม่เป็นการโอนระหว่างราษฎรในชนบท) ปืนอัดลม(ใช้ในการกีฬา) เดิมฉบับละ 50 บาท เป็นฉบับละ 100 บาท
- ปืนอื่น ๆ จากเดิมฉบับละ 50 บาท เป็นฉบับละ 100 บาท
อนึ่ง คณะรัฐมนตรีให้นำข้อสังเกตของคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 1 ไปประกอบการพิจารณาดำเนินการ ดังนี้
1. อัตราโทษตามฐานความผิดของพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490 มีอัตราโทษสูงอยู่แล้ว และศาลจะเป็นผู้ใช้ดุลยพินิจให้ได้รับโทษตามความเหมาะสม จึงไม่ควรกำหนดอัตราโทษไว้ในร่างพระราชบัญญัติฯ
2. ร่างพระราชบัญญัติยกเว้นความผิดทางอาญาฯ พ.ศ. .... ยังไม่ครอบคลุมถึงอาวุธสงครามตามกฎหมายควบคุมยุทธภัณฑ์ สมควรเพิ่มข้อความในร่างพระราชบัญญัติให้ครอบถึงอาวุธสงครามด้วย เป็น "ร่างพระราชบัญญัติยกเว้นความผิดทางอาญาให้แก่ผู้นำอาวุธปืน เครื่องกระสุนหรือวัตถุระเบิดที่ไม่ได้รับอนุญาต หรือที่กฎหมายว่าด้วยการครอบคลุมยุทธภัณฑ์ห้ามออกใบอนุญาตมามอบให้แก่ทางราชการ
3. อัตราค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืนและใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัวในร่างกฎกระทรวงฯ เหมาะสมแล้ว ส่วนการปรับจำนวนปีการต่ออายุใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัวจำนวน 1 ปี เป็นข้อกำหนดที่บัญญัติอยู่ในพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490 หากจะปรับปรุงแก้ไขให้มีอายุ 2 ปี ควรนำความเห็นดังกล่าวไปประกอบการพิจารณาแก้ไขปรับปรุงพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490 ในโอกาสต่อไป
4. ผู้เข้าร่วมประชุมตั้งข้อสังเกตว่าคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2544 เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิงและสิ่งเทียมอาวุธปืน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... กำหนดห้ามพกอาวุธปืนเข้าไปในเขตท่องเที่ยว ดังนั้น จึงน่าจะพิจารณาเรื่องค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนจะขัดกับมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวหรือไม่ การที่ต้องซื้ออาวุธส่วนตัวเพื่อใช้ปฏิบัติหน้าที่ราชการ และกระทรวงมหาดไทยขอรับไปเสนอรัฐมนตรีรับทราบและพิจารณาในเรื่องนี้ต่อไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 4 ธ.ค. 44--จบ--
-สส-
คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 9) พ.ศ. 2543 และร่างพระราชบัญญัติยกเว้นความผิดทางอาญาให้แก่ผู้นำอาวุธปืนฯ มามอบให้แก่ทางราชการ พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ซึ่งได้ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 1 ซึ่งมีรองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ) เป็นประธานกรรมการฯ แล้ว
กระทรวงมหาดไทยได้เสนอร่างพระราชบัญญัติ และร่างกฎกระทรวงให้คณะรัฐมนตรีพิจารณา โดยให้เหตุผล ดังนี้
1. เหตุผลในการเสนอร่างพระราชบัญญัติ ได้พิจารณาสถานการณ์ปัจจุบันปรากฏว่ามีผู้ครอบครองอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนหรือวัตถุระเบิดที่ไม่ได้รับอนุญาตหรือที่กฎหมายห้ามออกใบอนุญาต ซึ่งจะนำไปสู่การกระทำความผิดทางอาญาได้ กระทบต่อความสงบเรียบร้อยในสังคม จึงสมควรให้ผู้มีนำมาไว้แก่ทางราชการเพื่อป้องกันอาชญากรรมได้ทางหนึ่ง
2. การเสนอร่างกฎกระทรวง กระทรวงมหาดไทยให้เหตุผลว่าค่าธรรมเนียมในการใช้อาวุธปืนเดิมใช้มานานไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ สมควรปรับให้สอดคล้องกับฐานะของเศรษฐกิจของกลุ่มบุคคลผู้ต้องการมีและใช้กล่าวคือ ได้กำหนดค่าธรรมเนียมใหม่ ดังนี้
2.1 ใบอนุญาตให้มีปืนติดตัวจากเดิม ฉบับละ 100 บาท เป็นฉบับละ 1,000 บาท
2.2 ใบอนุญาตให้มีปืนและใช้อาวุธปืนสำหรับ
- ปืนยาวประจุปาก (ปัจจุบันไม่มีการผลิตใหม่เป็นการโอนระหว่างราษฎรในชนบท) ปืนอัดลม(ใช้ในการกีฬา) เดิมฉบับละ 50 บาท เป็นฉบับละ 100 บาท
- ปืนอื่น ๆ จากเดิมฉบับละ 50 บาท เป็นฉบับละ 100 บาท
อนึ่ง คณะรัฐมนตรีให้นำข้อสังเกตของคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 1 ไปประกอบการพิจารณาดำเนินการ ดังนี้
1. อัตราโทษตามฐานความผิดของพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490 มีอัตราโทษสูงอยู่แล้ว และศาลจะเป็นผู้ใช้ดุลยพินิจให้ได้รับโทษตามความเหมาะสม จึงไม่ควรกำหนดอัตราโทษไว้ในร่างพระราชบัญญัติฯ
2. ร่างพระราชบัญญัติยกเว้นความผิดทางอาญาฯ พ.ศ. .... ยังไม่ครอบคลุมถึงอาวุธสงครามตามกฎหมายควบคุมยุทธภัณฑ์ สมควรเพิ่มข้อความในร่างพระราชบัญญัติให้ครอบถึงอาวุธสงครามด้วย เป็น "ร่างพระราชบัญญัติยกเว้นความผิดทางอาญาให้แก่ผู้นำอาวุธปืน เครื่องกระสุนหรือวัตถุระเบิดที่ไม่ได้รับอนุญาต หรือที่กฎหมายว่าด้วยการครอบคลุมยุทธภัณฑ์ห้ามออกใบอนุญาตมามอบให้แก่ทางราชการ
3. อัตราค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืนและใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัวในร่างกฎกระทรวงฯ เหมาะสมแล้ว ส่วนการปรับจำนวนปีการต่ออายุใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัวจำนวน 1 ปี เป็นข้อกำหนดที่บัญญัติอยู่ในพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490 หากจะปรับปรุงแก้ไขให้มีอายุ 2 ปี ควรนำความเห็นดังกล่าวไปประกอบการพิจารณาแก้ไขปรับปรุงพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490 ในโอกาสต่อไป
4. ผู้เข้าร่วมประชุมตั้งข้อสังเกตว่าคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2544 เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิงและสิ่งเทียมอาวุธปืน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... กำหนดห้ามพกอาวุธปืนเข้าไปในเขตท่องเที่ยว ดังนั้น จึงน่าจะพิจารณาเรื่องค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนจะขัดกับมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวหรือไม่ การที่ต้องซื้ออาวุธส่วนตัวเพื่อใช้ปฏิบัติหน้าที่ราชการ และกระทรวงมหาดไทยขอรับไปเสนอรัฐมนตรีรับทราบและพิจารณาในเรื่องนี้ต่อไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 4 ธ.ค. 44--จบ--
-สส-