1. เห็นชอบร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน
ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างบันทึกความเข้าใจฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้ กก. พิจารณาดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าว ตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2558 (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ด้วย
2. อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาหรือผู้ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬามอบหมายเป็นผู้ลงนามในร่างบันทึกความเข้าใจฯ (โดยระบุตำแหน่ง)
3. มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศ จัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้แก่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาหรือผู้แทนสำหรับการลงนามในบันทึกความเข้าใจฯ
สาระสำคัญของ ร่างบันทึกความเข้าใจฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างมิตรภาพที่มีอยู่ระหว่างทั้งสองประเทศ และการขยายความร่วมมือทวิภาคีด้านการท่องเที่ยวระหว่างกัน ซึ่งเดิมทั้งสองประเทศได้เคยมีบันทึกความเข้าใจด้านการท่องเที่ยวระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐอิสลามอิหร่านว่าด้วยความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวที่ได้มีการลงนามแล้วเมื่อวันที่ 25 เมษายน ค.ศ. 2002 (มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2543) ในการนำเสนอครั้งนี้เป็นการจัดทำร่างบันทึกความเข้าใจฯ ขึ้นใหม่เพื่อใช้แทนบันทึกความเข้าใจฯ เดิม เพื่อขยายความร่วมมือทวิภาคีด้านการท่องเที่ยวระหว่างกัน โดยสาระสำคัญของร่างบันทึกความเข้าใจฯ ครอบคลุม 6 ประเด็นหลัก ได้แก่
1) ส่งเสริมตลาดการท่องเที่ยวระหว่างกัน
2) ส่งเสริมให้มีการลงทุนด้านการท่องเที่ยวเพื่อสนับสนุนให้มีการลงทุนระหว่างกัน
3) อำนวยความสะดวกการส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยวผ่านสื่อ
4) แลกเปลี่ยนข้อมูลและความร่วมมือด้านการศึกษาและหลักสูตรอบรมด้านการท่องเที่ยวให้กับบุคลากรด้านการท่องเที่ยว
5) แลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการท่องเที่ยวเชิงนิเวศและเชิงสุขภาพ และ
6) จัดตั้งคณะกรรมการเพื่อดำเนินการตามบันทึกความเข้าใจฯ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 11 เมษายน 2560--