กรอบการเจรจาสนธิสัญญาว่าด้วยการส่งผู้ร้ายข้ามแดน สนธิสัญญาว่าด้วยการโอนตัวผู้ต้อง คำพิพากษาและความร่วมมือในการบังคับให้เป็นไปตามคำพิพากษาคดีอาญา

ข่าวการเมือง Tuesday May 23, 2017 15:44 —มติคณะรัฐมนตรี

เรื่อง กรอบการเจรจาสนธิสัญญาว่าด้วยการส่งผู้ร้ายข้ามแดน สนธิสัญญาว่าด้วยการโอนตัวผู้ต้อง คำพิพากษาและความร่วมมือในการบังคับให้เป็นไปตามคำพิพากษาคดีอาญาและสนธิสัญญาว่าด้วยความช่วยเหลือซึ่งกันและกันในเรื่องทางอาญา

คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) เสนอ ดังนี้

1. เห็นชอบในหลักการกรอบการเจรจาสนธิสัญญา 3 ประเภท ได้แก่ สนธิสัญญาว่าด้วยการส่งผู้ร้ายข้ามแดน สนธิสัญญาว่าด้วยการโอนตัวผู้ต้องคำพิพากษาและความร่วมมือในการบังคับให้เป็นไปตาม คำพิพากษาคดีอาญา (สนธิสัญญาว่าด้วยการโอนตัวนักโทษ) และสนธิสัญญาว่าด้วยความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ในเรื่องทางอาญา และให้ กต. รับความเห็นของสำนักงานอัยการสูงสุดไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

2. อนุมัติให้คณะผู้แทนฝ่ายไทยสามารถใช้กรอบการเจรจาทั้ง 3 ประเภท ในการกำหนดท่าทีใน การเจรจาสนธิสัญญาทั้ง 3 ประเภทกับประเทศต่าง ๆ รวมทั้งในกรอบพหุภาคี โดยให้ กต. เป็นหน่วยงานประสานส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาจัดทำสนธิสัญญาทั้ง 3 ฉบับ และนำเรื่องดังกล่าวเสนอคณะรัฐมนตรีตามขั้นตอนต่อไป

3. ส่วนประเด็นการขออนุมัติให้คณะผู้แทนฝ่ายไทยในการเจรจาสนธิสัญญาทั้ง 3 ประเภท นั้น ให้ กต. ดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย

สาระสำคัญของเรื่อง

กต. รายงานว่า การจัดทำสนธิสัญญาว่าด้วยการส่งผู้ร้ายข้ามแดน สนธิสัญญาว่าด้วยการโอนตัวนักโทษ และสนธิสัญญาว่าด้วยความช่วยเหลือซึ่งกันและกันในเรื่องทางอาญาเป็นการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศในเรื่องทางอาญา รวมทั้งความร่วมมือด้านการยุติธรรมและการปราบปรามอาชญากรรมระหว่างประเทศ คู่ภาคี โดยการมีสนธิสัญญาทั้ง 3 ประเภทซึ่งจะช่วยให้ประเทศคู่ภาคีทราบถึงหลักเกณฑ์และกระบวนการที่แน่นอนในการขอความร่วมมือระหว่างประเทศ นอกจากนั้น การโอนตัวนักโทษสามารถดำเนินการได้เฉพาะในกรณีที่ประเทศผู้โอนและประเทศผู้รับโอนมีสนธิสัญญาระหว่างกัน และสำหรับบางประเทศหรือเขตบริหารพิเศษ เช่น เนเธอร์แลนด์และฮ่องกง การให้ความร่วมมือเรื่องการส่งผู้ร้ายข้ามแดนก็จำเป็นต้องมีสนธิสัญญาระหว่างกันเช่นกัน

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาไทยได้เจรจาจัดทำสนธิสัญญาทั้ง 3 ประเภทบนพื้นฐานของหลักการภายใต้บทบัญญัติของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง กล่าวคือ พระราชบัญญัติส่งผู้ร้ายข้ามแดน พ.ศ. 2551 พระราชบัญัญัติการปฏิบัติเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศในการดำเนินการตามคำพิพากษาคดีอาญา พ.ศ. 2527 และพระราชบัญญัติความร่วมมือระหว่างประเทศในเรื่องทางอาญา พ.ศ. 2535 และบนพื้นฐานของสนธิสัญญาทั้ง 3 เรื่องที่ไทยเคยจัดทำไว้กับประเทศอื่น ๆ ดัวย วัตถุประสงค์ของกรอบการเจรจา คือ ส่งเสริมการให้ความร่วมมือระหว่างประเทศคู่เจรจาในการปราบปรามอาชญากรรมอย่างมีประสิทธิภาพ โดยขอบเขตของสนธิสัญญา ครอบคลุมเฉพาะเรื่องความร่วมมือเกี่ยวกับการส่งผู้ร้ายข้ามแดน โดยไม่รวมถึงความร่วมมือเกี่ยวกับการโอนตัวผู้ต้องคำพิพากษาและการบังคับ ให้เป็นไปตามคำพิพากษาคดีอาญา (การโอนตัวนักโทษ) หรือการให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกันในเรื่องทางอาญาที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับการส่งผู้ร้ายข้ามแดน

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 23 พฤษภาคม 2560--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ