ว่าที่ร้อยตรี อานุภาพ เกษรสุวรรณ์ อธิบดีกรมการท่องเที่ยว เปิดเผยว่า กรมการท่องเที่ยว ในฐานะหน่วยงานภาครัฐที่มีภารกิจหลักในการพัฒนามาตรฐานบริการด้านการท่องเที่ยว ได้ออกประกาศใช้มาตรฐานการท่องเที่ยวไทย การจัดกิจกรรมเจ็ตสกีเพื่อการท่องเที่ยว โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อวางแนวทางในการพัฒนาคุณภาพการให้บริการของกิจกรรมเจ็ตสกีที่ตอบสนองต่อความต้องการของนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างประเทศ ภายหลังจากช่วงที่ผ่านมามีผู้ประกอบการหลายรายเอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะชาวต่างประเทศ จนมีการร้องเรียนผ่านสถานทูตต่างๆ อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งจัดทำเป็นวิดีโอเผยแพร่ผ่านทางยูทูบ ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ทางการท่องเที่ยวอย่างรุนแรง การออกประกาศใช้มาตรฐานกิจกรรมเจ็ตสกีในครั้งนี้จะช่วยแก้ไขปัญหาการเอาเปรียบและหลอกลวงนักท่องเที่ยว และป้องกันสถานการณ์เชิงลบที่จะเกิดขึ้นกับการท่องเที่ยวไทยอีก
ขณะเดียวกันจะเป็นการส่งเสริมให้ผู้ประกอบธุรกิจด้านกิจกรรมเจ็ตสกี ตระหนักถึงความสำคัญของมาตรฐาน และเพื่อพัฒนาบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมเจ็ตสกี ให้มีความรู้ ทักษะ และความเชี่ยวชาญในการประกอบธุรกิจเจ็ตสกีอย่างมีคุณภาพ ก็จะทำให้กิจกรรมเจ็ตสกีได้รับความเชื่อถือและมีผู้นิยมเล่นเจ็ตสกีเพิ่มขึ้นต่อไป
สำหรับผู้ประกอบธุรกิจด้านกิจกรรมเจ็ตสกี หากต้องการขอรับการตรวจประเมินและรับรองมาตรฐานการบริการเจ็ตสกี ตามประกาศมาตรฐานกิจกรรมเจ็ตสกีของกรมการท่องเที่ยวที่ประกาศใช้เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2557 เป็นต้นมา จะต้องมีคุณสมบัติเบื้องต้นตามที่กำหนด เช่น ต้องมีใบจดทะเบียนธุรกิจกับกรมธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ซึ่งจดทะเบียนมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 เดือน มีชื่ออยู่ในทะเบียนประวัติผู้ประกอบการเจ็ตสกีเพื่อเช่า และมีสถานที่ติดต่อที่ชัดเจน พร้อมกันนี้ได้กำหนดเกณฑ์บังคับเบื้องต้น ให้เจ็ตสกีต้องมีใบอนุญาตใช้เรือและไม่หมดอายุ ต้องมีการประกันภัยเรือสำหรับเจ็ตสกีเพื่อเช่าที่ไม่หมดอายุ มีชื่อในทะเบียนประวัติผู้ประกอบการเจ็ตสกีเพื่อเช่า หรือสังกัดชมรม สมาคม ในท้องที่ประกอบกิจการ
นอกจากนั้นยังมีเกณฑ์บังคับอื่นๆ เช่นผู้ควบคุมดูแลเจ็ตสกีต้องผ่านการอบรมทักษะการปฐมพยาบาลและกู้ภัยทางน้ำเบื้องต้น โดยต้องมีชุดอุปกรณ์ปฐมพยาบาลฉุกเฉินประจำจุดให้บริการ และกำหนดให้ผู้ควบคุมดูแลเจ็ตสกีแต่ละท่านสามารถดูแลเจ็ตสกีได้ไม่เกิน 2 ลำ เพื่อความทั่วถึง และที่สำคัญคือต้องบังคับให้นักท่องเที่ยวทุกคนสวมเสื้อชูชีพที่ได้มาตรฐานก่อนและขณะใช้บริการทุกครั้ง อีกทั้งยังต้องประเมินศักยภาพและความพร้อมของนักท่องเที่ยว เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นด้วย ซึ่งนอกจากกฏระเบียบเหล่านี้แล้ว ผู้ประกอบการต้องปฏิบัติตามข้อบังคับ ระเบียบหรือหลักเกณฑ์ของส่วนราชการที่มีอำนาจในการควบคุมดูแลในแต่ละพื้นที่อย่างเคร่งครัด นอกจากนี้ในการสร้างความเป็นธรรม ผู้ประกอบการต้องมีแสดงอัตราสินค้าและค่าบริการที่ชัดเจนและเปิดเผย เพื่อเป็นการแสดงความโปร่งใสและสร้างความเชื่อใจให้นักท่องเที่ยว
“การท่องเที่ยวทางน้ำถือเป็นจุดขายของการท่องเที่ยวในประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลและเกาะต่างๆ ที่มีโอกาสต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติที่หลั่งไหลมาท่องเที่ยวตลอดฤดูกาล ซึ่งสร้างรายได้และเงินหมุนเวียนในประเทศไทยเป็นจำนวนมหาศาล การสร้างมาตรฐานการท่องเที่ยวที่ดีจึงมีความสำคัญต่อการท่องเที่ยวของประเทศไทยเป็นอย่างมาก” อธิบดีกรมการท่องเที่ยวกล่าว
ที่มา: http://www.thaigov.go.th