นายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ความคืบหน้าการป้องกันโรคอีโบลา ว่า กระทรวงสาธารณสุขได้ติดตามสถานการณ์โรคอย่างใกล้ชิดกับองค์การอนามัยโลก โดยการระบาดโรคยังอยู่ใน 4 ประเทศในทวีปอาฟริกาด้านตะวันตก คือกินิ ไลบีเรีย เซียร์ร่า ลีโอน และเมืองลากอส ประเทศไนจีเรีย ยังไม่มีการระบาดออกนอกทวีป ในส่วนของไทย ขณะนี้ได้วางมาตรการเฝ้าระวัง ทั้งในคนและในสัตว์ ดำเนินการครอบคลุมทุกด่านทั้งทางอากาศ ทางน้ำ และทางบก พร้อมทั้งการเตรียมความพร้อมด้านการดูแลผู้ป่วย และการตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อสร้างความมั่นใจของบุคลากรและประชาชน โดยที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิขณะนี้ได้ตั้งเครื่องวัดอุณหภูมิอัตโนมัติ (Thermoscan) ตรวจวัดไข้ในผู้โดยสารขาเข้าที่เดินทางมาจากพื้นที่ระบาด จำนวน 5 เครื่องตลอด 24 ชั่วโมง โดยตั้งที่บริเวณขาเข้า 3 เครื่อง และที่จุดแวะต่อเครื่องไปประเทศอื่นอีก 2 เครื่อง และเพิ่มการประชาสัมพันธ์บนเครื่องบินและทางสื่อมวลชนต่างๆ จนถึงวันนี้พบว่า ได้รับความร่วมมือจากผู้เดินทางอย่างดีมาก ทุกคนยินดีให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขติดตาม ตรวจสุขภาพและเฝ้าระวังต่อเนื่องเป็นเวลา 21 วันตามระยะการฟักตัวของโรค ซึ่งหากเกิดมีผู้ป่วยขึ้นก็จะสามารถค้นหาและควบคุมโรคได้อย่างทันท่วงที
ทางด้านนายแพทย์โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า สถานการณ์โรคอีโบลาทั่วโลก องค์การอนามัยโลกรายงาน ณ วันที่ 20 สิงหาคม 2557 มีผู้ติดเชื้อ 2,615 ราย เสียชีวิต 1,427 ราย ใน 4 ประเทศ ดังนี้ กินี ป่วย 607 ราย เสียชีวิต 406 ราย ไลบีเรียป่วย 1,082 ราย เสียชีวิต 624 ราย เซียร์ร่าลีโอน ป่วย 910 ราย เสียชีวิต 392 ราย ไนจีเรีย ป่วย 16 ราย เสียชีวิต 5 ราย ในจำนวนนี้เป็นบุคลากรสาธารณสุขติดเชื้อ 240 ราย เสียชีวิต 120 ราย
ผลการตรวจวัดไข้ในกลุ่มผู้เดินทางมาจากพื้นที่เกิดโรค 4 ประเทศ ตั้งแต่วันที่ 8 มิถุนายน 2557- 26 สิงหาคม 2557 ทั้งหมด 798 คน ในจำนวนนี้มีผู้ที่ต้องติดตามอาการเป็นเวลา 21 วันหลังออกจากพื้นที่เกิดโรค จำนวน 214 คน ขณะนี้ทุกคนสบายดี โดยกรมควบคุมโรคได้จัดทำแนวทางปฏิบัติและคำแนะนำสำหรับผู้ประกอบการโรงแรมทั่วประเทศ และผู้เดินทาง เน้นการสังเกตอาการป่วยและให้รีบไปพบแพทย์หากมีอาการป่วย เพื่อสร้างความเข้มแข็งในการเฝ้าระวังในชุมชนให้มากยิ่งขึ้น ประชาชนสามารถโทรสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโรคอีโบลาได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422 ฟรีตลอด 24 ชั่วโมง นายแพทย์โสภณกล่าว
ที่มา: http://www.thaigov.go.th