รมว.เกษตรฯ “ปีตีพงศ์” แถลงนโยบายขับเคลื่อนงานกระทรวงเกษตรฯ ตีกรอบแผนเร่งด่วนระยะ 1 ปี

ข่าวทั่วไป Monday September 15, 2014 14:50 —สำนักโฆษก

รมว.เกษตรฯ “ปีตีพงศ์” แถลงนโยบายขับเคลื่อนงานกระทรวงเกษตรฯ ตีกรอบแผนเร่งด่วนระยะ 1 ปี เร่งแก้สินค้าข้าว ยาง กุ้ง ภัยแล้ง และงานตามแนวทางนโยบายรัฐบาลในด้านการปรับโครงสร้างการผลิต ตรวจสอบที่ดิน ส.ป.ก. และปราบการวิ่งเต้นซื้อขายตำแหน่ง

นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยในโอกาสเดินทางเข้าปฏิบัติงานวันแรกพร้อมมอบนโยบายการทำงานให้กับผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงเกษตรฯ ว่า กรอบระยะเวลาในการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ จะเป็นไปตามโรดแมปของ คสช. คือ 1 ปี ดังนั้น แนวทางนโยบายหลักจะเน้นใน 2 ส่วนหลัก ส่วนแรก คือ การแก้ไขปัญหาเร่งด่วน แบ่งเป็น 4 ประเด็นหลัก ได้แก่ 1.ปัญหายางพารา ซึ่งจะเร่งรัดกำหนดแผนการแก้ไขปัญหาให้ชัดเจนภายใน 1 - 2 สัปดาห์ ไม่เน้นในเรื่องการแทรกแซงราคา และจะนำข้อเสนอแนะที่ได้รับฟังปัญหาจากตัวแทนกลุ่มเกษตรกรและสถาบันยางที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ เพื่อนำปัญหาเสนอคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติชุดใหม่ โดยให้ปลัดกระทรวงฯตั้งวอร์รูมมาดูแลเรื่องนี้โดยเฉพาะ รวมถึงยางในสต๊อกที่ต้องจัดการโดยเร็ว 2. สถานการณ์ภัยแล้งและบริหารจัดการน้ำ ได้มอบหมายให้หน่วยที่เกี่ยวข้องเร่งจัดทำแผนการปลูกพืชฤดูแล้งให้แล้วเสร็จภายในสิ้นเดือนนี้ รวมถึงแผนเยียวยาผลกระทบพื้นที่การเกษตรที่เสียหายจากภัยแล้งไว้ล่วงหน้าด้วย 3. การแก้ปัญหาเฉพาะของหน่วยงานในด้านบริหารจัดการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต เช่น การเพิ่มประสิทธิภาพการส่งออกกุ้ง การแก้ไขปัญหาแรงงานประมงผิดกฎหมาย เพื่อไม่ให้เป็นข้ออ้างในการกีดกันทางการค้า การยกระดับมาตรฐานโรงฆ่าสัตว์ให้เป็นสากล เช่น การปรับบทบาทกรมปศุสัตว์และสัตว์แพทย์ให้เป็นผู้กำกับโรงฆ่าและเป็นวิชาชีพที่จำเป็นต้องมี 4. การแก้ไขปัญหาการขาดสภาพคล่องของสหกรณ์ที่มีปัญหา ซึ่งในส่วนที่มีปัญหาในศาลจะไม่ก้าวล่วงกฎหมายสหกรณ์ แต่จะให้คำแนะนำและช่วยเหลือให้สหกรณ์เล็กๆ เดินหน้าต่อไปได้

สำหรับนโยบายหลักส่วนที่ 2 คือ การดำเนินงานสนับสนุนแนวนโยบายของรัฐบาลที่แถลงต่อรัฐสภา ได้แก่ 1. การปรับโครงสร้างการผลิตสินค้าเกษตร ซึ่งจะต้องปรับสมดุลระหว่างการผลิตและความต้องการของตลาด โดยเชื่อมโยงการทำงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น การแก้ไขปัญหายางพาราในระยะยาว การจัดทำยุทธศาสตร์สินค้าเกษตร 4 ชนิด คือ มันสำปะหลัง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปาล์ม และอ้อย แผนการบริหารจัดการน้ำ 2. การพัฒนาระบบสหกรณ์ให้ดำเนินธุรกิจด้านสหกรณ์การเกษตรให้มากขึ้น รวมถึงให้สหกรณ์เป็นกลไกสำคัญในพื้นที่เขตเกษตรเศรษฐกิจพิเศษด้วย และการสร้างตลาดนัดสินค้าเกษตรในเมืองหรือจังหวัด โดยอาศัยความร่วมมือจากหน่วยงานและภาคเอกชนในพื้นที่เพื่อเพิ่มช่องทางการตลาดให้แก่สินค้าเกษตร 3. การตรวจสอบการถือครองที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก.) ซึ่งได้มอบหมายให้เลขาธิการ สปก.เรียกประชุมปฏิรูปที่ดินทั่วประเทศ เพื่อเร่งตรวจสอบการถือครองที่ดินในเขตปฏิรูปทั้งหมด เพื่อแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินให้เกิดความชัดเจนใน 1 เดือน รวมถึงกรณีที่ ส.ป.ก.ไปซื้ออาจจะต้องให้เช่นซื้อหรือขายเพื่อนำเงินเข้ากองทุนฯ สปก. เพื่อนำมาพัฒนา ส่งเสริมการผลิตสินค้าเกษตรให้เป็นระบบต่อไป 4. การผลักดันกฎหมาย และกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนางานของกระทรวงเกษตรฯ เช่น กฎหมายยางพาราที่จะนำไปสู่การพัฒนายางระบบ

“แม้จะมีระยะเวลาทำงานเพียงปีเดียว แต่ก็พร้อมและมุ่งมั่นทำให้เกษตรกรมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น ซึ่งนอกจากการเร่งรัดแผนงานต่าง ๆ แล้ว สิ่งสำคัญที่สุดจะขอความร่วมมือข้าราชการ อย่าให้เกิดข้อร้องเรียนกรณีมีการซื้อขายตำแหน่ง ทุจริตคอรัปชั่น หรือเรียกรับสินบทจากเอกชน หากพบการทุจริตพร้อมจะดำเนินการลงโทษทันที"นายปีติพงศ์ กล่าว

ทั้งนี้ รมว.เกษตรฯ ยังแนะนำทีมที่ปรึกษาโดยมีพล.ต.อินทรรัตน์ ยอดบางเตย อดีตสว.เชียงใหม่ นายธวัชชัย สำโรงวัฒนา อดีตอธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน และประธานบอร์ดองค์การบริหารกิจการโคนมแห่งประเทศไทย นายอภิชาติ พงษ์ศรีหดุลชัย อดีตเลขาสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร นายบุญมี จันทรวงศ์ อดีตอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ นายอำนวย ปติเส อดีตรมช.คลังรัฐบาลนายชวน หลีกภัย อีกด้วย

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ