ดร.ธัชพล กาญจนกูล รองผู้อำนวยการธนาคารออมสินอาวุโส รักษาการแทนผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการช่วยบรรเทาผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ และเสริมสภาพคล่องให้การดำรงชีวิตในปัจจุบัน รวมทั้งไถ่ถอนจำนอง (Re-finance) ธนาคารออมสินจึงมีแนวคิดนำสินทรัพย์มาแปลงเป็นเงินสดเพื่อให้สามารถนำไปใช้หมุนเวียนในการดำรงชีพ ด้วย “สินเชื่อออมสินบ้านแลกเงิน” วงเงินกู้สูงสุด 10 ล้านบาท ผ่อนชำระไม่เกิน 15 ปี ซึ่งเปิดให้บริการแล้วตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ณ ธนาคารออมสินทุกสาขาทั่วประเทศ
สำหรับคุณสมบัติผู้กู้ จะต้องเป็นบุคคลที่มีอาชีพ และมีรายได้แน่นอน อายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ชึ้นไป และเมื่อรวมอายุผู้กู้กับระยะเวลาชำระเงินกู้แล้วต้องไม่เกิน 65 ปี โดยธนาคารออมสินเปิดโอกาสการนำเงินกู้ไปใช้เพื่อการอุปโภคบริโภค หรือเพื่อไถ่ถอนจำนองจากสถาบันการเงิน โดยใช้ที่ดินพร้อมอาคาร หรือห้องชุด ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขของธนาคารออมสิน
ขณะที่จำนวนเงินให้กู้เปิดให้ผู้กู้เลือกใช้ได้ 2 ประเภท คือ เงินกู้ระยะยาว (L/T) ให้กู้ไม่เกินรายละ 10 ล้านบาท หรือ เงินกู้แบบผสม ได้แก่ เงินกู้ระยะยาว กับ วงเงินกู้เบิกเงินเกินบัญชี (โอดี) ธนาคารฯ ให้กู้รวมกันได้ไม่เกินรายละ 10 ล้านบาท ทั้งนี้วงเงินโอดีจะได้สูงสุดไม่เกิน 1 ล้านบาท ผ่อนชำระเงินกู้ไม่เกิน 15 ปี โดยหากมีวงเงินโอดี ธนาคารฯ จะทบทวนการใช้วงเงินทุกปี สำหรับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะยาว ปีที่ 1-2 คิดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ขั้นต่ำประเภทเงินกู้ที่มีระยะเวลา MLR - 1% ต่อปี (ปัจจุบัน MLR ของธนาคารออมสิน อยู่ที่ 6.875%) หลังจากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ย = MLR ส่วนเงินกู้โอดี คิดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ประเภทเงินเบิกเกินบัญชี MOR + 1% (ปัจจุบัน MOR ของธนาคารออมสิน อยู่ที่ 7.25%)
อย่างไรก็ตาม ในระยะการเปิดให้บริการในช่วงเริ่มต้นนี้ ธนาคารออมสินได้จัดโปรโมชั่นพิเศษ เฉพาะเงินกู้ระยะยาว คิดอัตราดอกเบี้ยเพียงร้อยละ 4.99 ต่อปี ใน 2 ปีแรก หลังจากนั้น คิดอัตราดอกเบี้ย MLR ตลอดอายุสัญญา (สำหรับลูกค้าที่ยื่นกู้และจดจำนองภายในวันที่ 30 ธันวาคม 2557)
“สินเชื่อออมสินบ้านแลกเงิน เป็นการสนับสนุนเศรษฐกิจฐานรากตามนโยบายของรัฐบาล ซึ่งธนาคารออมสินได้นำนโยบายมาปฏิบัติอย่างจริงจัง และด้วยความตั้งใจที่ทำตามภารกิจที่ได้รับมอบหมาย ธนาคารออมสินหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะมีส่วนสำคัญในการส่งเสริมและพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก พร้อมกับช่วยแก้ไขปัญหาหนี้สินครัวเรือน เพื่อเปิดโอกาสให้ครัวเรือนสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนใหม่ได้ และเป็นแหล่งทุนที่สร้างความยั่งยืนให้กับชีวิต”ดร.ธัชพล กล่าวในที่สุด.
ที่มา : กระทรวงการคลัง
ผู้นำเสนอ : กลุ่มสารนิเทศการคลัง สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง
ที่มา: http://www.thaigov.go.th