พลตำรวจเอกอดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้มีการรายงานความคืบหน้ากรณีแม่ร้องสภาทนายความฯ ลูกสาวอายุ ๑๐ ปี ถูกล่วงละเมิดทางเพศ และเกรงว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมที่จังหวัดพังงา โดยกรณีนี้บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดพังงา ได้ให้ความคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กหญิงตั้งแต่วันที่ ๗ สิงหาคม ๒๕๕๗ และให้การช่วยเหลือด้านที่พักอาศัยชั่วคราว บำบัดฟื้นฟูสภาพจิตใจ ให้บริการสังคมสงเคราะห์เฉพาะรายเบื้องต้น ซึ่งดำเนินงานร่วมกับสหวิชาชีพ รวมถึงให้การช่วยเหลือด้านการศึกษาให้เด็กได้รับการศึกษาต่อเนื่อง นอกจากนี้ ได้นำส่งเด็กเข้ารับการรักษาสุขภาพกายเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์และการติดเชื้อ HIV และมีการประเมินด้านสุขภาพจิต ด้านสังคมให้เด็กอยู่ในความคุ้มครองสวัสดิภาพในบ้านพักเด็กฯ ส่วนกรณีมีคนพิการร้องเรียนผ่านสื่อมวลชนเรื่องการจ่ายเงินเบี้ยยังชีพคนพิการที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาล่าช้า ซึ่งหลังจากได้รับรายงานเรื่องนี้ ตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการทันที โดยความคืบหน้ากรณีดังกล่าว สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้ชี้แจงว่า การดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ได้เน้นด้านการบริการประชาชน มีจิตมุ่งบริการและรวดเร็วมากขึ้น และได้ตรวจสอบคนพิการที่กู้เงินคนพิการพบว่า ปัจจุบันมีคนพิการที่ได้รับเงินกู้ยืมไปแล้วทั้งสิ้น ๗๙๗ ราย เฉลี่ยแต่ละปีมีการอนุมัติการกู้ยืมเพื่อประกอบอาชีพสำหรับคนพิการจำนวน ๕๐ ราย และจะเร่งดำเนินการต่อไปเพื่อให้ผู้กู้สามารถได้เงินกู้อย่างรวดเร็วและเสมอภาคทุกคน
พลตำรวจเอกอดุลย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากกรณีแม่พาลูกเข้าร้องเรียนกับผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ถูกรปภ.อายุ ๘๐ ปี ลวงไปข่มขืน และพาเด็กไปค้าประเวณีกับชายสูงวัยจำนวนอีก ๖ คน ในลักษณะเป็นธุระจัดหา ที่จังหวัดอุดรธานี ล่าสุดผู้ต้องหาได้รับสารภาพและยื่นประกันตัวไปแล้ว ซึ่งจากกรณีดังกล่าวตนได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าดูแลช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียหายและครอบครัวอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งรัดดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด นอกจากนี้ ยังได้รับรายงานถึงกรณีของนักศึกษาสาววัย ๑๙ ปี มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ เลี้ยงพ่อพิการเพียงลำพังนานกว่า ๑๐ ปี ที่จังหวัดสงขลา ซึ่งกรณีดังกล่าวถือเป็นแบบอย่างที่ดีของเยาวชน ซึ่งทุกหน่วยงานควรตระหนักถึงสำคัญและส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนกตัญญูต่อพ่อแม่ พร้อมทั้งให้เจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยเหลือดูแลพ่อที่พิการต่อไป
ที่มา: http://www.thaigov.go.th