สธ.ส่งทีมสุขภาพจิตดูแลจิตใจ “ครอบครัวนางสังเวียน”ที่ลพบุรีอย่างใกล้ชิด

ข่าวทั่วไป Thursday October 16, 2014 16:22 —สำนักโฆษก

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เยี่ยมอาการนางสังเวียนหญิงชาวลพบุรีที่จุดไฟเผาตัวเองจากปัญหาหนี้สิน ขณะนี้ รักษาตัวในห้องไอซียู วชิรพยาบาล ทีมแพทย์ให้การดูแลอย่างใกล้ชิด ป้องกันการติดเชื้อแทรกซ้อนบาดแผลไฟไหม้ ส่วนดวงตายังบวม ไม่สามารถประเมินการมองเห็นได้ เนื่องจากต้องให้ผู้ป่วยรู้สึกตัว และร่วมมือในการตอบการมองเห็นภาพ

เย็นวันนี้ (16 ตุลาคม 2557) ศาสตราจารย์ นายแพทย์รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังเยี่ยมอาการนางสังเวียน รักษาเพ็ชร์ หญิงชาวจังหวัดลพบุรีที่ราดน้ำมันจุดไฟเผาตัวเองหลังเดินทางไปร้องเรียนเรื่องปัญหาหนี้สินที่ศูนย์บริการประชาชน ตรงข้ามทำเนียบรัฐบาล เมื่อเช้าวานนี้ (15 ตุลาคม 2557) ซึ่งขณะนี้รับการรักษาที่ห้องไอซียู วชิรพยาบาล กทม. ว่า มีความเป็นห่วงผู้ป่วย จึงไปเยี่ยมได้พูดคุยสอบถามอาการจากผู้อำนวยการวิชรพยาบาล โดยขณะนี้ทีมแพทย์ของวชิรพยาบาลได้ให้การดูแลรักษาอย่างใกล้ชิด แม้ว่าผู้ป่วยรายนี้จะอยู่ในการดูแลของเขตกทม.ก็ตาม แต่ก็ต้องให้กำลังใจซึ่งกันและกัน ซึ่งขณะนี้ผู้ป่วยอยู่ในขั้นวิกฤต จึงไม่สามารถแจ้งความคืบหน้าว่าเจ้าหนี้ได้ยกเลิกหนี้สินให้แล้ว

ในส่วนของกระทรวงสาธารณสุขมีหน้าที่ดูแลคนเจ็บป่วย ผู้ที่ประสบอุบัติเหตุ หรือได้รับอันตรายต่อชีวิตร่างกาย ได้จัดแพทย์จากกรมสุขภาพจิตมาร่วมดูแลด้านจิตใจของผู้ป่วยและครอบครัว เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่กระทบกระเทือนจิตใจมาก โดยทีมแพทย์จังหวัดลพบุรีได้ติดตามประเมินสุขภาพจิตของสามีและลูกผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด ซึ่งในวันนี้ทีมแพทย์ได้พูดคุยกับครอบครัวของผู้ป่วย แต่ยังประเมินปัญหาจิตใจไม่ได้มาก เนื่องจากยังอยู่ในภาวะตกใจกลัวต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ด้านรองศาสตราจารย์นายแพทย์พลเลิศ พันธุ์ธนากุล ผู้อำนวยการวชิรพยาบาล กล่าวว่า อาการของผู้ป่วยตลอดคืนที่ผ่านมา มีอาการคงที่ สัญญาณชีพปกติ มีปัญหาอย่างเดียวคือปัสสาวะออกน้อย วันนี้แพทย์จึงได้เพิ่มการให้สารน้ำทางหลอดเลือด เป็นสารสังเคราะห์ ซึ่งจะช่วยอุ้มน้ำที่อยู่ในเลือดให้มีการไหลเวียนดีขึ้น จะทำให้ปัสสาวะออกมากขึ้น ซึ่งพบว่าได้ผลเป็นไปตามคาดหมาย วันนี้ผู้ป่วยมีปัสสาวะออกมากขึ้น โดยทีมแพทย์ได้วางแผนล้างแผลในห้องผ่าตัด แต่ยังไม่สามารถทำได้ เนื่องจากผู้ป่วยยังใช้เครื่องช่วยหายใจ แพทย์จึงตัดสินใจล้างแผลในห้องไอซียูแทน

สำหรับการดูแลผิวหนังที่ถูกทำลายจากไฟไหม้ ทางโรงพยาบาลได้ดูแลผู้ป่วยตามมาตรฐาน จากเดิมประเมินว่าถูกทำลายประมาณร้อยละ 50 แต่จากการทำแผลในวันนี้พบว่าพื้นที่ผิวหนังที่ถูกทำลายมีประมาณร้อยละ 40 ส่วนบาดแผลไฟไหม้ที่หน้าอก น่าเป็นห่วง เนื่องจากลึกมากอยู่ที่ระดับ 3 และ 2 นับจากใต้ผิวหนัง ส่วนผลการตรวจเลือดพบว่ามีปริมาณเม็ดเลือดขาวมากขึ้น บ่งชี้ได้ว่าอาจจะมีการติดเชื้อแทรกซ้อน จึงต้องเพิ่มการเฝ้าระวัง โดยแพทย์ได้ใช้ยาปฏิชีวนะในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการติดเชื้อซ้ำซ้อน

ส่วนเรื่องดวงตาของผู้ป่วย ซึ่งในวันแรกมีอาการบวมมาก วันนี้ยุบลงบ้าง แต่ยังไม่สามารถเปิดตาทั้ง 2 ข้าง เพื่อตรวจสอบการมองเห็นได้ เนื่องจากต้องขอความร่วมมือจากผู้ป่วย ในการตอบการรับรู้ว่าเห็นภาพหรือไม่ ซึ่งยังไม่สามารถประเมินในตอนนี้ได้ ผู้อำนวยการวชิรพยาบาล กล่าว

16 ตุลาคม 2557

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ