นายกรัฐมนตรีชื่นชมคนไทยครองแชมป์ด้านการอนุรักษ์พลังงานระดับอาเซียนหลายสมัยติดต่อกัน

ข่าวทั่วไป Friday November 21, 2014 16:26 —สำนักโฆษก

นายกรัฐมนตรีขอให้ทุกหน่วยงานลดการใช้พลังงานอย่างเป็นรูปธรรม ส่งเสริมการพัฒนาพลังงานทดแทนให้มากขึ้น

วันนี้ (21 พ.ค. 57) เวลา 10.00 น. ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีมอบรางวัล “Thailand Energy Awards 2014” ให้กับองค์กรและผู้ประกอบการที่มีผลงานดีเด่นด้านการอนุรักษ์พลังงาน และการพัฒนาพลังงานทดแทน จำนวน 63 ราย ทั้งนี้ เพื่อยกย่อง ส่งเสริม และประกาศเกียรติคุณให้กับองค์กรและผู้ประกอบการที่มีผลงานดีเด่นด้านการอนุรักษ์พลังงาน และการพัฒนาพลังงานทดแทน พร้อมเผยแพร่ความสำเร็จเพื่อเป็นการปลูกจิตสำนึกให้ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนได้ตระหนักถึงการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมนำไปปฏิบัติ หรือประยุกต์ใช้ให้เกิดผลเป็นรูปธรรมในการประหยัดพลังงาน การพัฒนาพลังงานหมุนเวียน และลดการนำเข้าพลังงานจากต่างประเทศ จัดโดย กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน โดยมีนายณรงค์ชัย อัครเศรณี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ผู้บริหารกระทรวงพลังงาน และหน่วยงานที่ได้รับรางวัล ประมาณ 300 คน เข้าร่วมงานในครั้งนี้

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวรายงานว่า การจัดงานในครั้งนี้ นับเป็นปีที่ 15 ของการประกวด Thailand Energy Awards 2014 สุดยอดรางวัลแห่งเกียรติยศด้านพลังงานไทยระดับสากล ที่เปรียบเสมือนเครื่องการันตีถึงความสำเร็จสูงสุดในการพัฒนาพลังงานและอนุรักษ์พลังงานระดับประเทศ โดยแบ่งการประกวดออกเป็น 5 ด้าน ได้แก่ ด้านพลังงานทดแทน ด้านอนุรักษ์พลังงาน ด้านบุคลากร ด้านพลังงานสร้างสรรค์ และด้านผู้ส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทน ซึ่งมีผลงานส่งเข้าประกวดรวมทั้งสิ้น 290 ผลงาน และมีผลงานที่ได้รับรางวัลทั้งหมด 63 รางวัล และคัดเลือกผู้ได้รับรางวัลเป็นผู้แทนประเทศไทยเข้าร่วมประกวด ASEAN Energy Awards 2014 จำนวน 17 โครงการ และสามารถคว้ารางวัลมาได้ จำนวน 13 รางวัล จากทั้งหมด 45 รางวัล ทำให้ประเทศไทยครองแชมป์ที่ 1 ในเวทีอาเซียนเป็นเวลาหลายปีติดต่อกัน ซึ่งได้สร้างความภาคภูมิใจให้กับประชาชนทั้งประเทศ

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ได้มอบรางวัล Thailand Energy Awards 2014 พร้อมกล่าวว่า การมอบรางวัลในวันนี้ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ส่งเสริมด้านการอนุรักษ์พลังงานและด้านการพัฒนาพลังงานทดแทนที่ตอบสนองนโยบายของรัฐบาล ซึ่งมีภาคเอกชนเข้าร่วมประกวดเป็นจำนวนมาก อีกทั้ง ยังเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศตามนโยบายด้านพลังงานของรัฐบาล บางหน่วยงานคิดค้นเทคโนโลยีเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน หรือการลงทุนเพื่อนำเข้าเครื่องจักรประหยัดพลังงาน เมื่อภาคธุรกิจและภาคอุตสาหกรรมได้ประโยชน์ ก็ย่อมส่งผลให้ประเทศชาติได้ประโยชน์เช่นเดียวกัน

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาลขับเคลื่อนด้านพลังงานและสร้างความเข้าใจซึ่งกันและกัน และถือว่าวันนี้เป็นอีกวันที่ภาคภูมิใจในความเป็นไทย เนื่องจากประเทศไทยได้รับรางวัล 17 รางวัลในจำนวนกว่า 20 รางวัล ถือว่าสูงสุดในอาเซียนและเป็นเกียรติประวัติให้กับประเทศ ซึ่งรัฐบาลยินดีร่วมมือกับเอกชนในการเดินหน้าด้านพลังงาน เศรษฐกิจ

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงปัญหาพลังงานเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในประเทศว่า ทุกคนจะต้องช่วยกันลดความขัดแย้งที่เกิดขึ้น ซึ่งรัฐบาลได้มีการปรับสัดส่วนการใช้พลังงานเป็นต้นทุนการผลิตการใช้เชื้อเพลิง เพื่อให้ภาคเอกชนสามารถเดินหน้าธุรกิจต่อไป แต่ต้องใช้เวลา และทุกคนจะต้องช่วยกันอนุรักษ์พลังงานเพื่อให้เกิดความมั่นคงด้านพลังงานมากที่สุด

ปัจจุบันประเทศไทยนำเข้าด้านพลังงานมากถึง 1.4 ล้านล้านบาทต่อปี หากมีการบูรณาการและใช้พลังงานทดแทนก็จะทำให้ลดจำนวนการนำเข้าได้ ซึ่งธุรกิจหลายแห่งได้มีการแข่งขันกันมากขึ้น โดยเฉพาะ solar cell จะต้องมีการพัฒนาอย่างยั่งยืน รัฐบาลพยายามที่จะเดินหน้าประเทศไทยและเดินหน้างานด้านพลังงานอย่างเป็นระบบ เราจะไม่พัฒนาไปอย่างไร้ขีดจำกัด และจะดำเนินการให้เกิดความเป็นธรรมให้มากที่สุด

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สิ่งที่โลกมองอยู่ในขณะนี้คือเรื่อง Economy เศรษฐกิจสีน้ำเงินคือความเชื่อมโยงกัน การเป็นหุ้นส่วนในภูมิภาคของแต่ละประชาคมโลก รวมถึง เรื่องเทคโนโลยีการลดโลกร้อน ซึ่งรัฐบาลได้มีการปรับสัดส่วนในการใช้พลังงานที่เป็นต้นทุนในการผลิตต่าง ๆ เช่น การผลิตไฟฟ้า และกำเนิดไฟฟ้าเพื่อสร้างพลังงาน และนำไปใช้เป็นเชื้อเพลิง แต่ต้องใช้ระยะเวลา

พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีได้ขอให้ทุกหน่วยงานช่วยกันลดการใช้พลังงานอย่างเป็นรูปธรรม และขอให้ภาคเอกชนช่วยกันลดความเหลื่อมล้ำในประเทศด้วยการจ้างงานในพื้นที่ และขอให้มีการต่อยอดการวิจัย พัฒนาและสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน สำหรับรางวัล Thailand Energy Awards ถือเป็นรางวัลแห่งความภูมิใจ และเป็นสัญลักษณ์ที่จะกระตุ้นเตือนให้หน่วยงานและบุคคลากรได้เห็นความสำคัญของการใช้พลังงานของชาติอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด เกิดความตื่นตัวในการอนุรักษ์พลังงาน และเกิดการพัฒนาด้านการใช้พลังงานทดแทนมากขึ้น เพื่อให้ลูกหลานของเราได้มีพลังงานใช้ในอนาคต ตลอดจนเป็นแบบอย่างที่ดีแก่องค์กรอื่นๆ ในการร่วมกันสร้างสรรค์พัฒนาพลังงานของประเทศให้มั่นคงต่อไป g

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ