พลเอก สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานการประชุมเพื่อพิจารณาแนวทางการจัดการปัญหาแรงงานต่างด้าวและปัญหาการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน ณ ห้องประชุม ศ.นิคม จันทรวิทุร ชั้น 5 อาคารกระทรวงแรงงาน โดยที่ประชุมได้พิจารณาแนวทางการจัดการปัญหาแรงงานต่างด้าวตามมติ ครม.เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2557 ที่กำหนดให้ 1)แนวทางการตรวจสัญชาติแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมา ลาว และกัมพูชา ที่ได้รับอนุญาตทำงานชั่วคราวจากศูนย์บริการจดทะเบียนแรงงานต่างดัวแบบเบ็ดเสร็จ (One Stop Service) และแรงงานต่างด้าวที่ได้รับใบอนุญาตทำงานในกิจการประมง ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2556 เรื่องการบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมา ลาว และกัมพูชา 2)การกำชับและกำกับดูแลให้เจ้าหน้าที่ของรัฐในสังกัดปฏิบัติหน้าที่ตามอำนาจหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับแรงงานต่างด้าวให้ถูกต้องโปร่งใส และไม่แสวงประโยชน์ใดๆ 3)ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงแรงงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบังคับใช้กฎหมายและดำเนินคดีกับผู้ประกอบการที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายในการจ้างแรงงานต่างด้าวอย่างเคร่งครัด เช่น กรณีที่สถานประกอบการลักลอบหรือมีส่วนรู้เห็นในการจ้างแรงงานต่างด้าวอย่างไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ควรพิจารณาใช้มาตรการปิดสถานประกอบการเป็นการชั่วคราว
ในวันเดียวกัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้เป็นประธานการประชุมศูนย์ติดตามสถานการณ์ด้านแรงงาน โดยที่ประชุมได้รายงานความคืบหน้าของการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ ซึ่งตามที่นายกรัฐมนตรีได้ให้มีการประชุมของคณะอนุกรรมการศูนย์บริการเบ็ดเสร็จด้านแรงงาน สาธารณสุข และความมั่นคงในคณะกรรมการนโยบายเขตเศรษฐกิจพิเศษ (กนพ.) ครั้งที่ 2 โดยความคืบหน้านั้นแต่ละหน่วยงานได้ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ได้แจ้งให้เขตเศรษฐกิจพิเศษใน 5 จังหวัดได้จัดทำข้อเสนอเพื่อกำหนดว่าต้องการให้เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษประเภทใดเพื่อเข้าสู่การพิจารณา นอกจากนี้ให้จัดทำเวทีรับฟังความเห็นในพื้นที่ชายแดน สภาความมั่นคงแห่งชาติให้พิจารณาในประเด็นเรื่องเขตแดน การตรวจสอบดูแลแรงงานต่างด้าวและผู้หลบหนีเข้าเมือง การทำลายทรัพยากรธรรมชาติ ความพร้อมของเจ้าหน้าที่และเครื่องมือในการดำเนินการ เป็นต้น
“งานของกระทรวงแรงงานอนุญาตให้แรงงานต่างด้าวเข้ามาทำงาน ผ่าน 3 ขั้นตอน คือ เช้าไป - เย็นกลับ มาตามห้วงเวลา และมาตามฤดูกาล ดังนั้นต้องดูว่าลักษณะงานของกระทรวงแรงงานต้องทำอะไรบ้าง ทั้งนี้ต้องคำนึงถึงข้อเท็จจริงในพื้นที่ เช่นกรณีพื้นที่ อ.แม่สอด อ.แม่ระมาด และ อ.พบพระ จ.ตาก ซึ่งแต่ละอำเภอมีระยะห่างกันมาก อาจเป็นปัญหาในการเดินทางของแรงงานต่างด้าวที่จะมาดำเนินการตรวจสัญชาติรวมทั้งตรวจลงตรา การเข้า - ออก ดังนั้นอาจจะต้องกำหนดวิธีการภายใต้ข้อกฎหมายมารองรับ การดำเนินการเกี่ยวกับแรงงานต่างด้าวสำหรับเขตเศรษฐกิจพิเศษใน 5 พื้นที่จึงต้องมี 5 รูปแบบ เนื่องจากแต่ละพื้นที่อาจไม่สามารถนำรูปแบบเดียวกันมาใช้กันได้ โดยเบื้องต้นให้ผู้ว่าราชการจังหวัดในแต่ละพื้นที่เป็นผู้ออกแบบ " รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าว
กลุ่มงานเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ สป.รง.
ที่มา: http://www.thaigov.go.th