พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดโครงการ “คืนความสุขให้เธอ...เยาวชน”

ข่าวทั่วไป Wednesday December 17, 2014 16:45 —สำนักโฆษก

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดโครงการ “คืนความสุขให้เธอ...เยาวชน” พร้อมทั้งเยี่ยมชมนิทรรศการและกิจกรรมภายในงาน โดยมีพลเรือเอก ณรงค์ พิพัฒนาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ปลัดกระทรวง ผู้บริหารและข้าราชการจากกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) และกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) และนักเรียน ให้การต้อนรับและร่วมงาน เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2557 ที่ห้องมหกรรมสามมิติ อาคาร 2 ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพ

รมว.ศธ. กล่าวว่า ภารกิจของ ศธ.คือการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ด้วยการจัดการศึกษาทั้งรูปแบบการศึกษาในระบบและการศึกษานอกระบบ การศึกษาวิทยาศาสตร์ตามอัธยาศัยของเยาวชนและประชาชนทั่วไป ในแหล่งการเรียนรู้ของ ศธ.ที่ได้ถือกำเนิดมากว่า 50 ปี ที่ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพ ซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัดสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (สำนักงาน กศน.) ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (สป.) ทำหน้าที่เป็นแหล่งการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่จัดการศึกษาตามอัธยาศัยสำหรับเยาวชนและประชาชนทั่วไป

นับตั้งแต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพิธีเปิดท้องฟ้าจำลองกรุงเทพและหอดูดาว เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2507 จนบัดนี้ได้ให้บริการประชาชนไปแล้วประมาณ 24 ล้านคน ต่อมาเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2522 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพิธีเปิดพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งแรกของประเทศไทย ปัจจุบันศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษาได้ขยายตัวสู่ภูมิภาคต่างๆ โดยเปิดให้บริการแล้วรวม 16 แห่ง และอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง 3 แห่ง (จังหวัดนราธิวาส พิษณุโลก และนครพนม)

ภารกิจสำคัญที่ ศธ. มุ่งมั่นดำเนินการให้เห็นผล คือ การปฏิรูปการเรียนรู้ทั้งระบบ ซึ่งครอบคลุมการปฏิรูปการเรียนการสอนกับการเรียนรู้ยุคใหม่ การยกระดับคุณภาพการศึกษาสู่มาตรฐานสากล เพื่อพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้สอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน และเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของประเทศ การพัฒนาเยาวชนที่จะเติบโตเป็นอนาคตของชาติท่ามกลางกระแสความเปลี่ยนแปลงของสังคมไทย ภูมิภาคอาเซียน และระดับโลก ให้มีความรู้ทางวิทยาศาสตร์ ก้าวทันเทคโนโลยี และมีกระบวนการคิดแบบวิทยาศาสตร์เป็นพื้นฐาน มีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อการพัฒนาประเทศในขณะนี้

การบูรณาการทำงานร่วมกันระหว่าง ศธ. กับ วท. บนความเชื่อมั่นว่าวิทยาศาสตร์จะสามารถนำชาติยั่งยืน โดย วท.มีส่วนร่วมในการดำเนินการพัฒนาและยกระดับคุณภาพเยาวชน จัดการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์นอกห้องเรียนสำหรับเยาวชนในพื้นที่แหล่งการเรียนรู้ของ ศธ. ด้วยการนำองค์ความรู้ความเชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม มาถ่ายทอดให้เยาวชนได้เรียนรู้จากการลงมือปฏิบัติอย่างมีความสุข และเกิดแรงบันดาลใจ ใฝ่เรียนใฝ่รู้วิทยาศาสตร์ยิ่งขึ้น เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่และของขวัญวันเด็กที่ล้ำค่าแก่เยาวชนไทย

ในโอกาสพิเศษนี้ ศธ.โดยศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา จะเปิดให้เยาวชนและประชาชนทั่วไปเข้าชมและร่วมกิจกรรมในทุกอาคารและทุกพื้นที่โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคม 2557 จนถึงวันเด็กแห่งชาติในวันที่ 10 มกราคม 2558 ยกเว้นช่วงวันหยุดปีใหม่ ทั้งการชมท้องฟ้าจำลองที่มีการฉายดาวพร้อมการบรรยายสดโดยนักฟิสิกส์ การฉายภาพยนตร์แบบเต็มโดม 360 องศา การชมภาพยนตร์วิทยาศาสตร์ในห้องมหกรรมสามมิติ โลกใต้น้ำ การชมนิทรรศการวิทยาศาสตร์สาขาต่างๆ รวมถึงกิจกรรมเสริมความรู้ในสี่อาคาร

ความร่วมมือในวันนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการร่วมแรงร่วมใจของ วท. และ ศธ. เพื่อเร่งพัฒนาเยาวชนไทย ทั้งนี้ ศธ.มีความยินดีที่จะขยายความร่วมมือเช่นนี้ให้กว้างขวางยิ่งขึ้นและยั่งยืนต่อไป

รมว.วท. กล่าวว่า โครงการ “คืนความสุขให้เธอ...เยาวชน” เป็นการดำเนินงานเชิงบูรณาการของทั้งสองกระทรวงตั้งแต่เดือนตุลาคมที่ผ่านมา ในส่วนของ วท.มีภารกิจหลัก คือการพัฒนาความสามารถในการแข่งขันของประเทศด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ที่เน้นเรื่องโครงสร้างพื้นฐานวิทยาศาสตร์ การถ่ายทอดเทคโนโลยี การพัฒนาบุคลากร และการเสริมสร้างความตระหนักทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีให้แก่เยาวชน การสร้างองค์ความรู้และความตระหนักดังกล่าวเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาและสร้างสังคมให้เป็นสังคมฐานความรู้ มีเหตุมีผล การใช้องค์ความรู้ในการตัดสินใจ การดำเนินวิถีชีวิตในสังคม ซึ่งจำเป็นจะต้องเริ่มต้นตั้งแต่วัยเยาว์ ผ่านกิจกรรมที่มีความต่อเนื่องและสม่ำเสมอ

การดำเนินงานที่ผ่านมาของ วท.มีการจัดกิจกรรมที่มีความต่อเนื่อง และการดำเนินการร่วมกับภาคเอกชน และประชาสังคม อาทิ การจัดงานสัปดาห์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ งานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ กับหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนกว่า 100 หน่วยงาน มีเยาวชนและครอบครัวเข้าชมงานในปีที่ผ่านมามากกว่า 1 ล้านคน รวมทั้งการจัดนิทรรศการที่มีองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) และสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (สดร.) เป็นหน่วยงานหลัก การบูรณาการร่วมกันในครั้งนี้ เป็นรูปแบบของการส่งเสริมเยาวชนนอกห้องเรียนบนพื้นฐานที่ว่า ศธ.มีสถานที่แหล่งเรียนรู้มากมาย โดยเฉพาะศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา ในขณะที่ วท.มีองค์ความรู้ จึงเป็นการเชื่อมโยงที่ได้ผลดีโดยไม่ต้องลงทุนมาก และมีศักยภาพที่จะดำเนินการร่วมกันต่อไปในอนาคต ไม่เพียงเฉพาะกับศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษาเท่านั้น

กิจกรรมของโครงการ “คืนความสุขให้เธอ...เยาวชน” แบ่งออกเป็น 2 กิจกรรมหลัก คือ

1) นิทรรศการ “ดาราศาสตร์ บันดาลใจ” เป็นนิทรรศการด้านวิทยาศาสตร์และดาราศาสตร์ บนพื้นที่ 600 ตารางเมตรในอาคาร 2 โดยมุ่งเน้นให้เยาวชนได้เรียนรู้ด้วยความสนุกสนาน ผ่านสื่อ Interactive ที่สร้างความตื่นเต้นพร้อมด้วยกิจกรรมต่างๆ เช่น พระอัจฉริยภาพของพระมหากษัตริย์ไทยกับพัฒนาการด้านวิทยาศาสตร์และดาราศาสตร์ โลกและเอกภพ คณิตศาสตร์และการคำนวณทางดาราศาสตร์ วิทยาศาสตร์กับเทคโนโลยีการบิน และ Science Idol เส้นทางสู่นักวิทย์ เป็นต้น

2) กิจกรรม “สนุกวิทย์ สนุกคิด” เป็นกิจกรรมภายนอกอาคาร 2 มีกำหนดจัดแสดง 10 วัน (ตั้งแต่วันที่ 17-26 ธันวาคม 2557) โดย 12 หน่วยงานในสังกัด วท.ร่วมกันเปิดสถานีการทดลอง ผ่านเครื่องเล่นเสริมสร้างปัญญาที่จะช่วยฝึกสมอง ต่อยอดความคิดจินตนาการ และฝึกฝนทักษะผ่านการทดลองและปฏิบัติจริง

ความร่วมมือดังกล่าวเป็นนิมิตใหม่ในการร่วมกันทำงานอย่างเป็นรูปธรรม โดยหวังว่าเยาวชนในวันนี้จะก้าวย่างต่อไปในอนาคตด้วยความร่วมมือของทุกภาคส่วน และมีส่วนสำคัญในการพัฒนากำลังคนด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมที่มีความขาดแคลน เพื่อให้ประเทศไทยสามารถรองรับประชาคมอาเซียนและพัฒนาขีดความสามารถทางเศรษฐกิจของประเทศ

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ปัจจุบันทุกอย่างเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว เพราะฉะนั้น ประเทศไทยจะต้องพัฒนาเรื่องของความรู้และการศึกษา วันนี้มีกิจกรรมและนิทรรศการหลายอย่างด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น นิทรรศการ “ดาราศาสตร์ บันดาลใจ” กิจกรรม “สนุกวิทย์ สนุกคิด” ภายใต้แนวคิด “วิทยาศาสตร์ นำชาติอย่างยั่งยืน” เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ และการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ด้วยความสนุกสนาน

ประเทศไทยก้าวไปข้างหน้าช้าเพราะขาดแคลนบุคลากรทางด้านวิทยาศาสตร์และนักวิจัยในการสร้างนวัตกรรมใหม่ คือการผลิตสิ่งใหม่ๆ ที่เป็นความต้องการของมนุษย์และมีความทันสมัย จะเห็นได้ว่าประเทศที่สร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ได้มากจะมีความเจริญ มีรายได้เข้าประเทศมาก แต่ประเทศไทยเก่ง

ด้านเกษตรกรรมและปศุสัตว์ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการดำรงชีพของมนุษยชาติ คนไทยจึงต้องเปลี่ยนแนวคิดใหม่ในการทำให้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมีความทันสมัยขึ้น เพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าให้สูงขึ้น

จากการที่ได้หารือกับ รมว.ศธ.และ รมว.วท.มีความต้องการให้นักเรียนเรียนวิทยาศาสตร์มากขึ้น เพราะนักเรียนส่วนใหญ่เลือกเรียนในสาขาวิชาที่ง่ายกว่า

แต่เมื่อจบการศึกษาแล้วไม่มีงานทำ อีกทั้งต้องวางยุทธศาสตร์ของชาติด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การสร้างนวัตกรรมใหม่ โดยให้ ศธ.ปรับหลักสูตรให้สอดคล้องกัน นำผู้มีความรู้ความสามารถทางด้านวิทยาศาสตร์มาเป็นครูหรือนักวิจัย สร้างคนรุ่นใหม่กับคนยุคปัจจุบันให้สอดประสานกัน หากไม่สามารถสร้างครูใหม่ ก็ควรต่อยอดและพัฒนาครูที่อยู่ในระบบด้วยวิทยาการใหม่ ขยายครูวิทยาศาสตร์ให้มากขึ้น ปรับครูให้มีพื้นฐานใกล้เคียงกัน

ปัจจุบัน เยาวชนขาดกระบวนการคิดและวิสัยทัศน์ในการคิด ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องแก้ไข แต่ต้องใช้ระยะเวลา และคณะทำงานที่เข้มแข็ง โดยครู วิทยากรภายนอก นักเรียน และผู้ปกครองต้องร่วมมือกัน เนื่องจากประเทศไทยต้องการคนที่มีความรู้ มีกระบวนการคิดและวิสัยทัศน์ที่ดี คำนึงถึงชาติบ้านเมืองเป็นหลัก ดังคำขวัญวันเด็ก ประจำปี 2558 “ความรู้คู่คุณธรรม นำสู่อนาคต”

ขอชื่นชมโครงการ “คืนความสุขให้เธอ...เยาวชน” ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดี ตามที่ได้ให้ความสำคัญเรื่องการเรียนรู้ของเด็กและเยาวชน และขอขอบคุณผู้บริหารจาก ศธ.และ วท. เจ้าหน้าที่ ครู นักเรียน รวมถึงผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ที่ร่วมมือร่วมใจกัน โอกาสนี้ ขอให้ประสบความสำเร็จในการพัฒนาประเทศให้มีนักวิทยาศาสตร์ เพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ และสร้างความต่อเนื่องเชื่อมโยงในภูมิภาคในอนาคตต่อไป

กุณฑิกา พัชรชานนท์

บัลลังก์ โรหิตเสถียร

สรุป/รายงาน

17/12/2557

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ