นายกรัฐมนตรีฝากให้ครูสอนนักเรียนให้อยู่ในกรอบของกฎหมาย ตามสิทธิและเสรีภาพ และนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาพัฒนาสื่อการเรียนการสอน

ข่าวทั่วไป Friday January 16, 2015 13:07 —สำนักโฆษก

นายกรัฐมนตรีเป็นประธานในพิธีงานวันครู ครั้งที่ 59 พร้อมกล่าวปราศรัยเนื่องในวันครู

วันนี้ (16 ม.ค.58) เวลา 10.30 น. ณ หอประชุมคุรุสภา กระทรวงศึกษาธิการ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธานในพิธีงานวันครู ครั้งที่ 59 พร้อมกล่าวปราศรัยเนื่องในวันครู โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ประธานกรรมการคุรุสภา ผู้บริหารสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา ครู และแขกผู้มีเกียรติร่วมงาน

สำหรับการจัดงานวันครูปีนี้ กำหนดวัตถุประสงค์ของการจัดงานไว้ 6 ประการ คือ 1.เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว “พระผู้ทรงเป็นครูแห่งแผ่นดิน” สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ “พระผู้ทรงเป็นแม่และครูแห่งแผ่นดิน” และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเจริญพระชนมายุ 60 พรรษา ในวันที่ 2 เมษายน 2558 2. เพื่อระลึกถึงพระคุณบูรพาจารย์ 3.เพื่อส่งเสริมสามัคคีธรรมระหว่างผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา และส่งเสริมความเข้าใจอันดีระหว่างผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษากับประชาชนในการพัฒนาการศึกษาของชาติ และสังคม 4.เพื่อส่งเสริมเชิดชูเกียรติวิชาชีพครู และรณรงค์ให้สังคมเห็นความสำคัญของครู และระลึกถึงพระคุณครู 5.เพื่อธำรงไว้ซึ่งขนบธรรมเนียมประเพณี และวัฒนธรรมอันดีงามของชาติ และ 6.เพื่อส่งเสริมให้ครู นักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมการจัดงานวันครู

นายกรัฐมนตรีกล่าวปราศรัยเนื่องในวันครูตอนหนึ่งว่า วันนี้โลกมีความเปลี่ยนแปลงทุกคนต้องตามให้ทันการเปลี่ยนแปลง เพราะฉะนั้นทุกคนต้องมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศให้ก้าวไปข้างหน้า และทุกคนต้องทำด้วยความเสียสละ โดยไม่สามารถบังคับได้ ทั้งนี้ ปัญหาในประเทศไทยคือการขับเคลื่อน ต้องแก้ไขอย่างไรให้ครูเดินไปในทางเดียวกัน ให้ประเทศชาติไม่เกิดความขัดแย้ง ให้เด็กและเยาวชนอยู่ในกรอบกฎหมาย ในนามของรัฐบาล ต้องคิดว่าจะทำอย่างไรให้ทุกคนมีความสุข อยู่กันได้โดยไม่เกิดความขัดแย้ง และเตรียมเข้าสู่อนาคต โดยเอาบทเรียนในอดีตก้าวไปข้างหน้า ดังนั้น การผลิตนักเรียน นักศึกษาออกมา ต้องมีการกำหนดพื้นฐานกระบวนการที่มีมาตรฐาน

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า วันนี้ครูในทุกศาสนาทุกระดับต้องขับเคลื่อนไปในแนวทางเดียวกัน คือ แนวทางการสร้างประเทศไปข้างหน้า เพื่อให้ลูกศิษย์อยู่ในกรอบของกฎหมาย มีสิทธิเสรีภาพในหน้าที่ ส่วนรัฐบาลเป็นผู้กำหนดนโยบายการศึกษาของประเทศ รวมทั้ง ยังต้องเตรียมการการเข้าสู่อนาคตโดยใช้บทเรียนที่ผ่านมา โดยการพัฒนาบุคลากรให้เท่าเทียมต่างประเทศ พร้อมกล่าวฝากให้ครูคิดว่าจะทำอย่างไรให้ครู นักเรียน และผู้ปกครองมีความสุข ทั้งเรื่องหนี้สิน ค่าใช้จ่าย คุณภาพชีวิต โดยการผลิตนักเรียนต้องมีพื้นฐาน ก่อนการพัฒนาไปสู่ระดับที่สูงขึ้นไป

นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อไป ขอให้ครูทุกคนช่วยกันขับเคลื่อน คือ 1.มีเหตุมีผลในการใช้จ่าย 2. การพอประมาณ 3.การมีความรู้คู่คุณธรรม โดยยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สำหรับการศึกษาต้องดูว่าวันนี้จะแก้ไขปัญหาการศึกษาได้อย่างไร โดยต้องนำครู นักเรียน ผู้ปกครอง มาเป็นโจทย์ วันนี้ครูต้องสอนให้นักเรียนมีระเบียบวินัย โดยทุกฝ่ายต้องให้กำลังใจครูในการทำหน้าที่ รัฐบาลพร้อมจะดูแลทุกส่วนที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาทั้งหมด สำหรับเรื่องหนี้สินสวัสดิการ ต้องแก้ไขด้วยวิธีการใหม่ เพราะวิธีการเดิมไม่สามารถแก้ไขได้ และรัฐบาลกำลังดำเนินการอยู่ ซึ่งปัญหาดังกล่าวต้องมีการแก้ไขใหม่ทั้งระบบ

สำหรับกรณีที่ครูต้องการมีเวลาสอนนักเรียนให้มากขึ้น จะต้องปรับแก้ไขการประเมินผลงานโดยปรับให้ใช้เวลาน้อยลงอย่างเหมาะสม ทั้งนี้ ทุกอย่างต้องปรับแก้ในปัญหาด้านโครงสร้างทั้งหมด ขณะเดียวกันการของบประมาณต้องคิด และประเมินให้รอบคอบ เพราะที่ผ่านมากระทรวงต่าง ๆ ยังขาดการประเมินในการของบประมาณ แต่กลับใช้แผนเดิมซึ่งไม่ตรงกับความเป็นจริง โดยต้องลดภาระเพื่อลดการใช้จ่าย อีกทั้ง ต้องจัดบุคลากรให้เหมาะสม มีการประเมินครู โรงเรียนอย่างเป็นระบบ นอกจากนี้ โรงเรียนต่าง ๆ ต้องยกระดับมาตรฐานการสอนให้เท่าเทียมกันให้ได้ เพื่อลดปัญหาการเก็บเงินสนับสนุนโรงเรียน

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ประเทศไทยยังขาดนักวิจัย นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญ หากสามารถดึงผู้ที่มีความสามารถของไทยที่ไปอยู่ต่างประเทศกลับมาได้จะเป็นเรื่องที่ดี ทั้งนี้ ปัจจุบันเด็กนักเรียน เรียนพิเศษตั้งแต่ชั้นอนุบาล ซึ่งไม่มีความจำเป็นเพราะทำให้ผู้ปกครองต้องเสียค่าใช้จ่าย โดยต้องมองว่าจะทำอย่างไรให้เด็กสนใจ การอ่านหนังสือ และเล่นเกมให้น้อยลง วันนี้ต้องพัฒนาสื่อการสอนโดยครูต้องเรียนรู้เทคโนโลยีสมัยใหม่ ซึ่งต้องผนวกความรู้ของครูให้เข้ากับสื่อ อาทิ เช่น google และ social media ต้องสอนเด็กให้รักการเรียนรู้ รักการอ่าน เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ วันนี้ต้องสอนว่า เรื่องใดมีประโยชน์อย่างไร เพราะปัจจุบันมีสิ่งชักจูงความสนใจของนักเรียนหลากหลาย ปัจจุบันเด็กสมาธิสั้น เราต้องสอนให้เด็กเกิดความเข้าใจ มีกระบวนการคิด และกล้าแสดงออกอย่างสร้างสรรค์

ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้คารวะและมอบของที่ระลึกแก่ครูอาวุโส จำนวน 2 ท่าน ได้แก่ คุณครูบุญมา รัตนอุบล และคุณครูวิจิตรา ไชยภัฎ อดีตครูโรงเรียนวัดนวลนรดิศ และถวายโล่รางวัลผู้มีคุณปการต่อการศึกษาของชาติแด่พระราชวิริยาลังการ พร้อมมอบโล่รางวัลผู้มีคุณูปการต่อการศึกษาของชาติ จำนวน 6 ราย และมอบโล่รางวัลคุรุสภา จำนวน 23 ราย

กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ