เปิดศูนย์บริการจัดหางานเพื่อคนไทย จัดบริการ ‘ครบ’ เพื่อการมีงานทำ

ข่าวทั่วไป Friday January 16, 2015 15:09 —สำนักโฆษก

กระทรวงแรงงาน มีนโยบายหลัก คนไทยทุกคนต้องมีงานทำ การบริหารจัดการแรงงานต่างด้าว และการคุ้มครองสิทธิแรงงานทั้งแรงงานไทยและต่างชาติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เช็คความพร้อมศูนย์บริการจัดหางานเพื่อคนไทย (Smart Job Center) พร้อมเปิดบริการเฟสแรก ๑๙ มกราคมนี้

พลเอก สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ในปี ๒๕๕๘ กระทรวงแรงงาน นำนโยบายของนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา) มาสู่การปฏิบัติ มีงานหลักอยู่ ๓ ส่วน ได้แก่ คนไทยทุกคนต้องมีงานทำ การบริหารจัดการแรงงานต่างด้าว และการคุ้มครองสิทธิแรงงานทั้งแรงงานไทยและต่างชาติ สำหรับเรื่องของคนไทยทุกคนต้องมีงานทำ คนไทยในวันนี้มีการพัฒนาฝีมือเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ มีการทำงานของต่างฝ่าย คนไทยหลายคนไม่ประสงค์จะเป็นลูกจ้างใครและอาจมีอาชีพอิสระ กระทรวงแรงงานจึงเป็นศูนย์กลางที่จะรวบรวมตำแหน่งงานว่างต่างๆ และค้นหาผู้ที่อยากทำงานมาจับคู่กัน จึงมีแนวคิดในการจัดตั้งศูนย์บริการจัดหางานเพื่อคนไทย (Smart Job Center)

ศูนย์บริการจัดหางานเพื่อคนไทยในเฟสแรก ได้แบ่งการทำงานออกเป็น ๒ ส่วน ส่วนแรกจะบริการค้นหาตำแหน่งงานว่าง ติดต่อบริษัทต่างๆ เพื่อหาตำแหน่งงานว่าง และส่วนที่สอง หาผู้ที่จะมาทำงานพร้อมทั้งติดตามสอบถามเรื่องงานโดยตลอด สำหรับลูกค้าที่จะมาใช้บริการ เริ่มต้นจากกลุ่มที่มีงานทำอยู่แล้วและต้องการเปลี่ยนงาน สามารถมาพูดคุยกันถึงความสามารถของตนเองจะทำงานอะไรได้บ้าง กลุ่มผู้ที่ตกงาน ผู้การศึกษาจบใหม่ คนไทยที่ไปทำงานต่างประเทศที่กลับมายังไม่รู้จะทำงานอะไรสามารถมาปรึกษาได้ รวมถึงผู้ต้องขังที่พ้นโทษออกมาแล้วไม่รู้จะทำอะไรก็สามารถมาปรึกษาได้ ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ค่อยให้คำแนะนำเสมือนญาติ โดยแบ่งการให้บริการออกเป็น ชั้นล่างเป็นส่วนของการหางานทำ ซึ่งได้นำเอาเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาช่วยในการหางาน จอทัชสกรีนค้นหางาน ห้องสัมภาษณ์พูดคุยกับนายจ้างผ่านระบบสไกป์ รวมถึงห้องแนะแนวอาชีพ สำหรับแนะนำผู้หางาน นักศึกษาว่างงานที่ต้องการทำจะเป็นแบบใด โดยศูนย์บริการฯ จะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในวันที่ ๑๙ มกราคม ๒๕๕๘ ช่วงแรกเปิดให้บริการในเวลาราชการ แต่ขณะนี้ศูนย์บริการฯ ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็นต์ ชั้นล่างพร้อมเปิดให้บริการเรื่องการหางานทำ และการให้การแนะแนวและคำปรึกษา ส่วนชั้นสองต่อไปจะเป็นเรื่องการพัฒนาฝีมือแรงงาน การเพิ่มผลิตภาพแรงงานไทย และชั้นสามการคุ้มครองแรงงานตามกฎหมาย และการประกันสังคม ซึ่งหากศูนย์ฯ ทำได้เต็มรูปแบบในอีกสองสามเดือนข้างหน้าก็อาจจะเปิดให้บริการจนถึงสองทุ่ม

เรื่องการบริหารจัดการแรงงานต่างด้าว (One Stop Service) มีแรงงานต่างด้าวมาขึ้นทะเบียน ๑.๖ ล้านคน และช่วงนี้เป็นการตรวจสัญชาติเพื่อให้ประเทศต้นทางรับรองสัญชาติ และทางกระทรวงแรงงานจะให้ใบอนุญาตทำงาน ซึ่งกำลังเดินหน้าไปได้ด้วยดี และกำลังจะเพิ่มการจดทะเบียนสัญชาติเวียดนาม ที่เข้ามาทำงานในประเทศไทยที่พาสปอร์ตหมดอายุให้ได้จดทะเบียน แต่สิ่งสำคัญที่สุดแรงงานทั้ง ๔ สัญชาติ จะต้องอยู่ในหลักเกณฑ์ คือ มีนายจ้าง มีงานทำอยู่แล้ว และประเทศต้นทางให้การรับรอง ส่วนปัญหาการขาดแคลนแรงงานในภาคประมงและการก่อสร้าง จะขออนุมัติจากนายกรัฐมนตรีนำเข้าแรงงานอย่างถูกกฎหมายจากประเทศเวียดนาม บังกลาเทศ และอินโดนีเซีย ขณะนี้น่าจะถึงขั้นตอนของการอนุมัติแล้ว ซึ่งเรื่องของประมงต่อไปนี้จะทำถูกกฎหมายทั้งหมด

ส่วนการคุ้มครองสิทธิจะแบ่งออกเป็น ๒ ส่วน คือ เรื่อง การเจรจาไกล่เกลี่ยนายจ้างลูกจ้าง โดยเน้นให้นายจ้างลูกจ้างอยู่กันอย่างเอื้ออาทรร่วมแบ่งปันกันไปสู่การสร้างสรรค์สังคมไทย ส่วนเรื่องประกันสังคมให้การคุ้มครอง ดูแลผู้ประกันตนที่บาดเจ็บ พิการ ชราภาพ ฯลฯ

สำหรับการก้าวสู่ประชาคมอาเซียน แรงงานไทยต้องมีความซื่อสัตย์ต่อองค์กร นายจ้าง และวิชาชีพ ขยัน อดทน ต้องมุ่งมั่นต่องานวิชาชีพไม่ท้อถอย ทำงานด้วยการพัฒนาตนเองให้มากขึ้น เพื่อให้ได้ค่าแรงที่เพิ่มขึ้น และคนไทยต้องทักษะฝีมือสูงขึ้น ซึ่งเป็นเป้าหมายของกระทรวงแรงงาน และฝากถึงผู้ที่เกี่ยวข้องกับแรงงาน นายจ้างต้องดูแลแรงงานอย่างดี และดูแลสถานประกอบการให้มีความปลอดภัย ลูกจ้างต้องทำงานด้วยความซื่อสัตย์ ขยัน มั่นคงในอาชีพ และพัฒนาตนเองให้มีความสามารถมากขึ้น และขอให้เชื่อมั่นในกระทรวงแรงงานภายใต้รัฐบาลนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา) ได้เข้มงวดกวดขันให้ทำงานเพื่อประชาชน และคืนความสุขให้ประชาชนอย่างเต็มความสามารถ

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ