ทส. นำร่องอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ หรืออยู่อาศัยในเขตป่าสงวนแห่งชาติภายใต้โครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายของรัฐบาล ประเทศมั่นคง ประชาชนมั่งคั่ง อย่างยั่งยืน

ข่าวทั่วไป Tuesday April 7, 2015 14:55 —สำนักโฆษก

ทส. นำร่องอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ หรืออยู่อาศัยในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ภายใต้โครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายของรัฐบาล ประเทศมั่นคง ประชาชนมั่งคั่ง อย่างยั่งยืน

เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2558 ณ โรงเรียนบ้านห้วยทราย ตำบลแม่ทา อำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานสักขีพยานในพิธีมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ หรืออยู่อาศัยในเขตป่าสงวนแห่งชาติ โดยอาศัยอำนาจมาตรา 16 แห่งพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 เพื่อดำเนินโครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายของรัฐบาล ประเทศมั่นคง ประชาชนมั่งคั่ง อย่างยั่งยืน โดยพลเอก ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นผู้มอบหนังสือแสดงโครงการป่าชุมชน และหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์เขตป่าสงวนแห่งชาติเพื่อปลูกสร้างสวนป่า รวมขนาดพื้นที่ 7,282 ไร่ ให้แก่นายสุริยะ ประสาทบัณฑิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และตัวแทนชุมชน ตำบลแม่ทา เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ด้านการอนุรักษ์ควบคู่กับการพัฒนาอย่างยั่งยืนต่อไป โดยโอกาสนี้ พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ข้าราชการ ประชาชนในพื้นที่ร่วมให้การต้อนรับและเป็นสักขีพยานในพิธี

โครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน เป็นการดำเนินงานภายใต้นโยบายของรัฐบาลที่ได้แถลงไว้ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เมื่อวันศุกร์ที่ 12 กันยายน 2557 เรื่องการสร้างสมดุลระหว่างการอนุรักษ์กับการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน จากนโยบายดังกล่าว เพื่อให้การบริหารจัดการที่ดินของประเทศเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ แก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนและพัฒนาศักยภาพการใช้ประโยชน์ที่ดินให้เกิดประโยชน์สูงสุด สมดุล เป็นธรรมและยั่งยืน ทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และความมั่นคงของประเทศ คณะรัฐมนตรีจึงเห็นชอบให้ออกระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ พ.ศ 2557

คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ หรือเรียกชื่อย่อว่า "คทช.” มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน และ คทช. ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อมาขับเคลื่อนนโยบายนี้ขึ้นอีก 4 ชุด ได้แก่

1) คณะอนุกรรมการจัดหาที่ดิน โดยมีพลเอก ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธาน มีหน้าที่ในการจัดหาที่ดินที่มีศักยภาพในการดำเนินการตามนโยบาย

2) คณะอนุกรรมการจัดที่ดิน โดยมี พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธาน มีหน้าที่กำหนดหลักเกณฑ์และพิจารณาจัดที่ดินให้กับประชาชนในรูปแบบของชุมชนที่เหมาะสม เช่น สหกรณ์ หรือรูปแบบอื่น ๆ

3) คณะอนุกรรมการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพ โดยมีปีติพงษ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธาน มีหน้าที่ส่งเสริมพัฒนาอาชีพและการตลาด ตลอดจนพัฒนาระบบสาธารณูปโภค

4) คณะอนุกรรมการนโยบายที่ดินจังหวัด โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธาน ทำหน้าที่ประสานงานและตรวจสอบการดำเนินงานให้แก่คณะอนุกรรมการทั้ง 3 ชุด

ในการดำเนินงานของ คทช. ในระยะแรกได้กำหนดพื้นที่เป้าหมายใน 6 พื้นที่ 4 จังหวัด เนื้อที่ 53,697 ไร่ และโครงการระยะที่ 2 จำนวน 8 พื้นที่ ใน 8 จังหวัด เนื้อที่ 51,929 ไร่

ระยะที่ 1 เป็นการเริ่มโครงการที่ชุมชนแม่ทา อำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ เป็นหนึ่งในพื้นที่ดำเนินการโครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติที่เสื่อมสภาพ ขนาดพื้นที่ 7,282 ไร่ ทั้งนี้ เพื่อให้คนกับป่าอยู่ร่วมกันได้อย่างเป็นระบบ เน้นด้านการอนุรักษ์ควบคู่กับการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยร่วมกันดูแลรักษาทรัพยากรป่าไม้ที่เหลืออยู่ ฟื้นฟูป่าไม้ที่เสื่อมสภาพให้ความสมบูรณ์กลับคืนมา การจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนนั้น ที่ดินยังคงเป็นที่ดินของรัฐ โดยจะเป็นการจัดระเบียบให้ราษฎรใช้ประโชยน์อยู่อาศัยทำกินในลักษณะแปลงรวม ไม่ให้เป็นส่วนบุคคล เพื่อป้องกันการซื้อขาย เปลี่ยนมือ และให้ราษฎรมีส่วนร่วมในการดูแลป้องกันรักษาป่าโดยรอบพื้นที่ที่ได้รับอนุญาต

และนอกจากการจัดที่ดินในลักษณะแปลงรวมแล้ว เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ที่ให้คนอยู่ร่วมกับป่าได้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมป่าไม้ ได้จัดทำโครงการจัดการป่าไม้อย่างยั่งยืน ดังนี้

1) การจัดตั้งป่าชุมชน ให้ราษฎรหมู่บ้านละ 1 ป่าชุมชน จำนวน 7 หมู่บ้าน รวม 7 ป่าชุมชน เพื่อให้ราษฎรได้ใช้สอยประโยชน์จากผลผลิตจากป่าเพื่อการยังชีพได้อย่างยั่งยืน

2) การส่งเสริมให้ราษฎรในพื้นที่ปลูกป่าเศรษฐกิจชุมชนไว้ใช้สอยไม้ในชุมชนได้ในอนาคต นอกจากการจัดระเบียบการใช้ที่ดินเพื่อให้ราษฎรมีความมั่นคงในการใช้ที่ดินแล้ว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะได้มีแผนพัฒนาแหล่งน้ำและส่งเสริมอาชีพตามความเหมาะสมและความต้องการของแต่ละชุมชน เพื่อความอยู่ดีกินดี รวมทั้งส่งเสริมการรวมกลุ่มและการบริหารจัดการในรูปแบบสหกรณ์ เพื่อให้ชุมชนที่เข้มแข็งอยู่แล้วแห่งนี้ มีศักยภาพเพิ่มขึ้นและส่งผลต่อประเทศชาติโดยรวม

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ