รายงานสถานะหนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือน ก.พ. 2558 และผลการบริหารจัดการหนี้ภาครัฐที่ดำเนินการโดยสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะประจำเดือน ก.พ. 2558

ข่าวทั่วไป Monday April 20, 2015 13:39 —สำนักโฆษก

นายธีรัชย์ อัตนวานิช รองผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะในฐานะโฆษกสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ ได้แถลงข่าวการดำเนินงานของสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ดังนี้

1. รายงานหนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2558

ยอดหนี้สาธารณะคงค้าง ณ 28 กุมภาพันธ์ 2558 มีจำนวนทั้งสิ้น 5,720,425.58 ล้านบาท หรือคิดเป็น ร้อยละ 46.83 ของ GDP เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า 62,366.22 ล้านบาท ซึ่งแบ่งเป็น

หนี้ของรัฐบาลเพิ่มขึ้น 73,393.51 ล้านบาท ซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญเกิดจาก

  • การกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ จำนวน 50,859.81 ล้านบาท
  • การออกตั๋วเงินคลังเพื่อบริหารดุลเงินสด จำนวน 15,000 ล้านบาท
  • การกู้เงินเพื่อการลงทุน จำนวน 2,512.04 ล้านบาท ประกอบด้วย การให้กู้ต่อแก่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยและการรถไฟแห่งประเทศไทย 1,624.04 ล้านบาท สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว สายสีน้ำเงิน สายสีม่วง รถไฟสายสีแดงและโครงการปรับปรุงทางรถไฟที่ไม่ปลอดภัย และการเบิกจ่ายเงินกู้เพื่อใช้ในโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน (DPL) 888 ล้านบาท
  • การกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรรัฐบาลล่วงหน้าที่จะครบกำหนดในวันที่ 22 พฤษภาคม 2558 จำนวน 10,000 ล้านบาท

หนี้ของรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงินมียอดหนี้คงค้างลดลง 4,569.18 ล้านบาท ซึ่งในเดือนกุมภาพันธ์ 2558 มีการเบิกจ่ายเงินกู้เพื่อลงทุนในโครงการสำคัญๆ ได้แก่ โครงการก่อสร้างทางด่วนบูรพาวิถี ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย โครงการก่อสร้างระบบป้องกันอุทกภัย สำหรับนิคมอุตสาหกรรม 6 แห่ง ของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย การเบิกจ่ายเงินกู้เพื่อเป็นค่าหัวรถจักร 20 คัน 20 ตัน ของการรถไฟแห่งประเทศไทย และการเบิกจ่ายเงินกู้จากต่างประเทศเพื่อดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงของการรถไฟขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย

หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน) มียอดหนี้คงค้างลดลง 5,525.80 ล้านบาท

หนี้หน่วยงานอื่นของรัฐมียอดหนี้คงค้างลดลง 932.31 ล้านบาท

การที่หนี้ของรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน) และหนี้หน่วยงานอื่นของรัฐมียอดหนี้คงค้างลดลง เนื่องจากมีการชำระคืนมากกว่าการเบิกจ่ายเงินกู้ และจากผลของการเปลี่ยนแปลงอัตราแลกเปลี่ยน

ทั้งนี้ หนี้สาธารณะต่อ GDP เพิ่มจากเดือนที่แล้วขึ้นมาเพียงเล็กน้อยและยังคงต่ำกว่ากรอบความยั่งยืนทางการคลังที่กำหนดไว้ร้อยละ 60 ค่อนข้างมาก

หนี้สาธารณะ ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2558 เท่ากับ 5,720,425.58 ล้านบาท แบ่งเป็นหนี้ในประเทศ 5,375,531.51 ล้านบาท หรือเท่ากับร้อยละ 93.97 และหนี้ต่างประเทศ 344,894.07 ล้านบาท (ประมาณ 10,516.15 ล้านเหรียญสหรัฐ) หรือเท่ากับร้อยละ 6.03 ของยอดหนี้สาธารณะคงค้าง และ หากเปรียบเทียบกับเงินสำรองระหว่างประเทศ จำนวน 156,935.39 ล้านเหรียญสหรัฐแล้ว (ข้อมูล ณ 27 กุมภาพันธ์ 2558) หนี้ต่างประเทศจะคิดเป็นสัดส่วนเพียงร้อยละ 6.70 ของเงินสำรองระหว่างประเทศ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงเสถียรภาพและความมั่นคงในด้านการเงินของประเทศ

โดยหนี้สาธารณะแบ่งออกเป็นหนี้ระยะยาวถึง 5,561,395.38 ล้านบาท หรือร้อยละ 97.22 และมีหนี้ระยะสั้นเพียง 159,030.20 ล้านบาท หรือร้อยละ 2.78

2. รายงานผลการบริหารจัดการหนี้ภาครัฐที่ดำเนินการโดยสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2558

สบน. มีการบริหารจัดการหนี้ภาครัฐ วงเงินรวม 74,058.22 ล้านบาท แบ่งเป็นหนี้ของรัฐบาล จำนวน 71,466.22 ล้านบาท และหนี้รัฐวิสาหกิจ จำนวน 2,592 ล้านบาท

  • การบริหารจัดการหนี้ของรัฐบาล วงเงิน 71,466.22 ล้านบาท ประกอบด้วย

ผลการกู้เงินในประเทศของรัฐบาล จำนวน 53,371.85 ล้านบาท

  • การกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ จำนวน 50,859.81 โดยการออกพันธบัตรรัฐบาล 5 รุ่น จำนวน 49,963 ล้านบาท มีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยที่ร้อยละ 3.89 ต่อปี และพันธบัตรออมทรัพย์ จำนวน 896.81 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 3.25 ต่อปี
  • การเบิกจ่ายเงินกู้ให้กู้ต่อ จำนวน 1,624.04 ล้านบาท
  • การเบิกจ่ายเงินกู้ จำนวน 888 ล้านบาท ซึ่งเป็นการกู้เงินบาททดแทนเงินกู้จากธนาคารโลก เพื่อใช้ในโครงการเงินกู้เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน (DPL) ที่ได้ลงนามในสัญญาเงินกู้เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2557 วงเงิน 2,500 ล้านบาท

การปรับโครงสร้างหนี้ในประเทศของรัฐบาล จำนวน 10,000 ล้านบาท โดยการออกตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้ล่วงหน้าสำหรับพันธบัตรรัฐบาลที่จะครบกำหนดในวันที่ 22 พฤษภาคม 2558 โดยมีอัตราผลตอบแทนถัวเฉลี่ยที่ประมูลได้ร้อยละ 1.98489 ต่อปี

การชำระหนี้ของรัฐบาล จำนวน 8,094.37 ล้านบาท ซึ่งเป็นการชำระหนี้เงินต้น และดอกเบี้ย โดยใช้เงินจากงบประมาณ จำนวน 6,334.05 ล้านบาท และการชำระดอกเบี้ยของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ จำนวน 1,760.32 ล้านบาท โดยใช้เงินค่าธรรมเนียมที่ธนาคารแห่งประเทศไทยได้รับจากธนาคารพาณิชย์ภายใต้ พ.ร.ก. ปรับปรุงการบริหารหนี้เงินกู้ที่กระทรวงการคลังกู้เพื่อช่วยเหลือ FIDF ฯ

-การบริหารจัดการหนี้รัฐวิสาหกิจ วงเงิน 2,592 ล้านบาท ประกอบด้วย

การกู้เงินในประเทศของการรถไฟแห่งประเทศไทย จำนวน 1,792 ล้านบาท สำหรับดำเนินโครงการจัดหารถจักรดีเซลไฟฟ้า 20 คัน (20 ตัน) โดยกระทรวงการคลังค้ำประกัน

การปรับโครงสร้างหนี้ในประเทศของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย จำนวน 800 ล้านบาท โดยกระทรวงการคลังไม่ค้ำประกัน

คณะโฆษกสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ

โทร. 02 265 8050 ต่อ 5505, 5522, 5903

เอกสารแนบ 1

สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ ขอแถลงสถานะหนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2558 ดังนี้

ยอดหนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2558 มีจำนวน 5,720,425.58 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 46.83 ของ GDP เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้า หนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นสุทธิ 62,366.22 ล้านบาท โดยมีรายละเอียด ดังนี้

1. หนี้ของรัฐบาล 4,070,162.48 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 73,393.51 ล้านบาท

2. หนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน 1,064,172.91 ล้านบาท ลดลง 4,569.18 ล้านบาท

3. หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน) 580,097.92 ล้านบาท ลดลง 5,525.80 ล้านบาท

4. หนี้หน่วยงานอื่นของรัฐ 5,992.27 ล้านบาท ลดลง 932.31 ล้านบาท

ทั้งนี้ รายละเอียดและสัดส่วนของหนี้สาธารณะ ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2558 ปรากฏตามแผนภาพที่ 1 และตารางที่ 1 ตามลำดับ

1. หนี้ของรัฐบาล

1.1 หนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้าเพิ่มขึ้นสุทธิ 63,393.51 ล้านบาท เนื่องจาก

1.1.1 หนี้ต่างประเทศ ลดลงจากเดือนก่อนหน้า จำนวน 278.34 ล้านบาท โดยผลจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนทำให้ยอดหนี้คงค้างในรูปเงินบาทลดลง 539.75 ล้านบาท ในขณะที่การเบิกจ่ายและชำระคืนเงินกู้ สกุลเงินต่างๆ ทำให้ยอดหนี้คงค้างในรูปเงินบาทเพิ่มขึ้นสุทธิ 261.41 ล้านบาท ดังรายละเอียดปรากฏตามตารางที่ 2

อย่างไรก็ดี หากพิจารณาในรูปเงินบาท หนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรงจำแนกเป็นสกุลเงินต่างๆ หลังจากที่ทำการป้องกัน ความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนแล้วมีรายละเอียดปรากฏตามแผนภาพที่ 2

1.1.2 หนี้ในประเทศ เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า จำนวน 63,671.85 ล้านบาท โดยมีรายการสำคัญเกิดจาก

  • เงินกู้เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณและการบริหารหนี้เพิ่มขึ้น 61,159.81 ล้านบาท เนื่องจาก

การกู้เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ จำนวน 50,859.81 ล้านบาท โดยการออกพันธบัตรรัฐบาล 49,963 ล้านบาท และพันธบัตรออมทรัพย์ 896.81 ล้านบาท

การเพิ่มขึ้นของตั๋วเงินคลังสุทธิ 15,000 ล้านบาท

การชำระหนี้ภายใต้ พ.ร.บ. การบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 และที่แก้ไขเพิ่มเติม จำนวน 4,700 ล้านบาท

  • การเบิกจ่ายเงินให้กู้ต่อ เพิ่มขึ้น 1,624.04 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น

การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย จำนวน 974.96 ล้านบาท เพื่อจัดทำโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว วงเงิน 462.35 ล้านบาท โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน วงเงิน 353.50 ล้านบาท และโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง วงเงิน 159.11 ล้านบาท

การรถไฟแห่งประเทศไทย จำนวน 649.08 ล้านบาท เพื่อจัดทำโครงการปรับปรุงทางรถไฟที่ไม่ปลอดภัย 8 สายทาง จำนวน 603.60 ล้านบาท และโครงการรถไฟสายสีแดง จำนวน 45.48 ล้านบาท

  • การเบิกจ่ายเงินกู้ 888 ล้านบาท ซึ่งเป็นการกู้เงินบาททดแทนเงินกู้ต่างประเทศเพื่อใช้ในโครงการเงินกู้เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน (DPL) จากสัญญาเงินกู้วงเงิน 2,500 ล้านบาท ที่ได้ลงนามในสัญญาเงินกู้เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2557

1.2 หนี้ที่รัฐบาลกู้เพื่อชดใช้ความเสียหายให้แก่กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเดือนก่อนหน้า

1.3 หนี้เงินกู้ล่วงหน้าเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า 10,000 ล้านบาท โดยเป็นการออก R-bill ทั้งจำนวน เพื่อปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรรัฐบาลที่ออกภายใต้ พ.ร.บ. การบริหารหนี้สาธารณะฯ ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 22 พฤษภาคม 2558

2. หนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน

2.1 หนี้ที่รัฐบาลค้ำประกัน

2.1.1 หนี้ต่างประเทศ ลดลงจากเดือนก่อนหน้า จำนวน 1,016.07 ล้านบาท โดยเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนทำให้ยอดหนี้คงค้างในรูปเงินบาทลดลง 725.56 ล้านบาท ประกอบกับการเบิกจ่ายและชำระคืนหนี้สกุลเงินต่างๆ ทำให้ยอดหนี้คงค้างในสกุลเงินบาทลดลง 290.51 ล้านบาท ดังรายละเอียดปรากฏตามตารางที่ 3

2.1.2 หนี้ในประเทศ เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้าเพิ่มขึ้น จำนวน 984.24 ล้านบาท เนื่องจาก

  • การทางพิเศษแห่งประเทศไทยไถ่ถอนพันธบัตรที่ครบกำหนด 1,000 ล้านบาท
  • องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพไถ่ถอนพันธบัตรที่ครบกำหนด 1,000 ล้านบาท
  • รัฐวิสาหกิจมีการเบิกจ่ายจากแหล่งเงินกู้ต่างๆ จำนวน 2,984.24 ล้านบาท

2.2 หนี้ที่รัฐบาลไม่ค้ำประกัน

2.2.1 หนี้ต่างประเทศ ลดลงจากเดือนก่อนหน้า จำนวน 3,406.71 ล้านบาท โดยเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนทำให้ยอดหนี้คงค้างในรูปเงินบาทลดลง 2,634.05 ล้านบาท ประกอบกับการเบิกจ่ายเงินและชำระคืนหนี้สกุลเงินต่างๆ ทำให้ยอดหนี้คงค้างในสกุลเงินบาทลดลง 772.66 ล้านบาท ดังรายละเอียดปรากฏตามตารางที่ 4

2.2.2 หนี้ในประเทศ เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้าลดลง 1,130.64 ล้านบาท เนื่องจากรัฐวิสาหกิจมีการเบิกจ่ายจากแหล่งเงินกู้ต่างๆ น้อยกว่าชำระคืนต้นเงินกู้ โดยเป็นการเบิกจ่ายเงินกู้ 1,047.45 ล้านบาท และชำระคืนต้นเงินกู้ 2,178.09 ล้านบาท

3. หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน)

3.1 หนี้ต่างประเทศ ลดลงจากเดือนก่อนหน้า จำนวน 36.77 ล้านบาท โดยเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงของ อัตราแลกเปลี่ยนทำให้ยอดหนี้คงค้างในรูปเงินบาทลดลง 6.91 ล้านบาท ประกอบกับการชำระคืนหนี้สกุลเงินเยน ทำให้ยอดหนี้คงค้างในสกุลเงินบาทลดลง 29.86 ล้านบาท ดังรายละเอียดปรากฏตามตารางที่ 5

3 หนี้ต่างประเทศที่มีการบริหารความเสี่ยงแล้ว ใช้อัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ทำการบริหารความเสี่ยง

3.2 หนี้ในประเทศ เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้าลดลง 5,489.03 ล้านบาท เนื่องจาก

  • ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรไถ่ถอนพันธบัตรที่ครบกำหนด 12,200 ล้านบาท และการเบิกจ่ายตามสัญญาเงินกู้มากกว่าการชำระคืน จำนวน 7,710.97 ล้านบาท โดยเป็นการเบิกจ่ายเงินกู้ 12,979 ล้านบาท และชำระคืนต้นเงินกู้ 5,268.03 ล้านบาท
  • ธนาคารอาคารสงเคราะห์ไถ่ถอนพันธบัตรที่ครบกำหนด 1,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ หากพิจารณาในรูปเงินบาท หนี้ต่างประเทศของรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน และรัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน) หลังทำการป้องกันความเสี่ยงของอัตราแลกเปลี่ยน จำแนกเป็นสกุลเงินต่างๆ มีรายละเอียดปรากฏตามแผนภาพที่ 3

4. หนี้หน่วยงานอื่นของรัฐ

หนี้หน่วยงานอื่นของรัฐเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้าลดลง จำนวน 932.31 ล้านบาท เนื่องจากกองทุนอ้อยและน้ำตาลทรายเบิกจ่ายจากแหล่งเงินกู้ต่างๆ น้อยกว่าชำระคืนต้นเงินกู้ โดยเป็นการเบิกจ่ายเงินกู้ 1.92 ล้านบาท และชำระคืนต้นเงินกู้ 934.24 ล้านบาท

หนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2558 มีจำนวน 5,720,425.58 ล้านบาท ซึ่งหากแบ่งประเภทหนี้สาธารณะคงค้างเป็นหนี้ต่างประเทศ-หนี้ในประเทศ และหนี้ระยะยาว-หนี้ระยะสั้น มีรายละเอียด ดังนี้

หนี้ต่างประเทศและหนี้ในประเทศ หนี้สาธารณะคงค้าง จำนวน 5,720,425.58 ล้านบาท แบ่งออกเป็น หนี้ต่างประเทศ 344,894.07 ล้านบาท หรือร้อยละ 6.03 และหนี้ในประเทศ 5,375,531.51 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 93.97 ของยอดหนี้สาธารณะคงค้าง รายละเอียดปรากฏตามตารางที่ 6

หนี้ระยะยาวและหนี้ระยะสั้น แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้

  • หนี้ระยะยาวและหนี้ระยะสั้น (แบ่งตามอายุของเครื่องมือการกู้เงิน) หนี้สาธารณะคงค้าง จำนวน 5,720,425.58 ล้านบาท แบ่งออกเป็น หนี้ระยะยาว 5,561,395.38 ล้านบาท หรือร้อยละ 97.22 และหนี้ระยะสั้น 159,030.20 ล้านบาท หรือร้อยละ 2.78 ของยอดหนี้สาธารณะคงค้าง รายละเอียดปรากฏตามตารางที่ 7
  • หนี้ระยะยาวและหนี้ระยะสั้น (แบ่งตามอายุคงเหลือ) หนี้สาธารณะคงค้าง จำนวน 5,720,425.58 ล้านบาท แบ่งออกเป็น หนี้ระยะยาว 4,990,162.43 ล้านบาท หรือร้อยละ 87.23 และหนี้ระยะสั้น 730,263.15 ล้านบาท หรือร้อยละ 12.77 ของยอดหนี้สาธารณะคงค้าง รายละเอียดปรากฏตามตารางที่ 8

ส่วนวิจัยนโยบายหนี้สาธารณะ สำนักนโยบายและแผน

สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ โทร. 0 2265 8050 ต่อ 5512,5522

สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะขอสรุปผลการบริหารจัดการหนี้ภาครัฐที่ดำเนินการโดยสำนักงาน บริหารหนี้สาธารณะ ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2558 วงเงินรวม 74,058.22 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นหนี้รัฐบาล 71,466.22 ล้านบาท และหนี้รัฐวิสาหกิจ 2,592 ล้านบาท

1. การบริหารจัดการหนี้รัฐบาล วงเงินรวม 71,466.22 ล้านบาท

1.1 ผลการกู้เงินในประเทศของรัฐบาล กระทรวงการคลังกู้เงินและเบิกจ่ายเงินกู้ จำนวน 53,371.85 ล้านบาท รายละเอียดดังนี้

1.1.1 การกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ จำนวน 50,859.81 ล้านบาท โดยการออกพันธบัตรรัฐบาล 49,963 ล้านบาท และพันธบัตรออมทรัพย์ 896.81 ล้านบาท

1.1.2 การเบิกจ่ายเงินกู้ให้กู้ต่อ จำนวน 1,624.04 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น (1) การให้กู้ต่อแก่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยเพื่อจัดทำโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง จำนวน 159.11 ล้านบาท โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน จำนวน 353.50 ล้านบาท และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว จำนวน 462.35 ล้านบาท และ (2) การให้กู้ต่อแก่การรถไฟแห่งประเทศไทยเพื่อจัดทำโครงการรถไฟสายสีแดง จำนวน 45.48 ล้านบาท และโครงการปรับปรุงทางรถไฟที่ไม่ปลอดภัย 8 สายทาง จำนวน 603.60 ล้านบาท

1.1.3 การเบิกจ่ายเงินกู้ จำนวน 888 ล้านบาท ซึ่งเป็นการกู้เงินบาททดแทนเงินกู้จากธนาคารโลก เพื่อใช้ในโครงการเงินกู้เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน (DPL) ที่ได้ลงนามในสัญญาเงินกู้เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2557 วงเงิน 2,500 ล้านบาท

1.2 การปรับโครงสร้างหนี้ในประเทศของรัฐบาล จำนวน 10,000 ล้านบาท

ในเดือนกุมภาพันธ์ 2558 กระทรวงการคลังได้มีการกู้เงินล่วงหน้าเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ในประเทศของรัฐบาล (Pre-funding) โดยเป็นการออก R-bill จำนวน 10,000 ล้านบาท เพื่อปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรรัฐบาลที่ออกภายใต้ พ.ร.บ. การบริหารหนี้สาธารณะฯ ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 22 พฤษภาคม 2558

1.3 การชำระหนี้ของรัฐบาล กระทรวงการคลังได้ชำระหนี้ จำนวน 8,094.37 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น

1.3.1 การชำระหนี้ของรัฐบาลจากงบประมาณ เป็นจำนวน 6,334.05 ล้านบาท รายละเอียด ดังนี้

  • ชำระหนี้ในประเทศ 5,816.25 ล้านบาท แบ่งเป็น ต้นเงิน 4,700 ล้านบาท ดอกเบี้ย 243.12 ล้านบาท และค่าธรรมเนียม 873.13 ล้านบาท
  • ชำระหนี้ต่างประเทศ 517.80 ล้านบาท แบ่งเป็น ต้นเงิน 374.49 ล้านบาท และดอกเบี้ย 143.31 ล้านบาท

1.3.2 การชำระหนี้ของรัฐบาลจากแหล่งอื่น จำนวน 1,760.32 ล้านบาท

ในเดือนกุมภาพันธ์ 2558 มีการชำระหนี้ภายใต้ พ.ร.ก. ช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูระยะที่สองฯ (FIDF 3) จำนวน 1,760.32 ล้านบาท ซึ่งเป็นการชำระดอกเบี้ยทั้งจำนวน โดยใช้เงินจากบัญชีสะสมเพื่อการชำระคืนต้นเงินกู้ชดใช้ความเสียหายของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ

2. การบริหารจัดการหนี้รัฐวิสาหกิจ ในเดือนกุมภาพันธ์ 2558 วงเงินรวม 2,592 ล้านบาท

2.1 ผลการกู้เงินในประเทศของรัฐวิสาหกิจ

การรถไฟแห่งประเทศไทยกู้เงินในประเทศเป็นเงิน 1,792 ล้านบาท สำหรับดำเนินโครงการจัดหารถจักรดีเซลไฟฟ้า 20 คัน (20 ตัน) โดยกระทรวงการคลังค้ำประกัน

2.2 ผลการปรับโครงสร้างหนี้ในประเทศของรัฐวิสาหกิจ

การทางพิเศษแห่งประเทศไทยปรับโครงสร้างหนี้ในประเทศเป็นเงิน 800 ล้านบาท โดยกระทรวงการคลังไม่ค้ำประกัน

2.3 ผลการบริหารจัดการหนี้ต่างประเทศของรัฐวิสาหกิจเพื่อลดต้นทุนเงินกู้และป้องกันความเสี่ยงทางการเงิน

ไม่มีการบริหารจัดการหนี้ต่างประเทศของรัฐวิสาหกิจ

ที่มา : กระทรวงการคลัง

ผู้นำเสนอ : กลุ่มสารนิเทศการคลัง สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ