วันนี้ (12 พ.ค. 58) เวลา 13.20 น. ณ บริเวณห้องโถง ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี สรุปประเด็นสำคัญดังนี้
1. เรื่อง การจัดตั้งศูนย์พักพิงสำหรับชาวโรฮิงญา นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า อยู่ในขั้นตอนของการหารือ ซึ่งต้องดูเรื่องความมั่นคงปลอดภัยของประเทศไทย และเรื่องของสิทธิมนุษยชนควบคู่กัน เพราะหากมีการกระทำความผิดในประเทศไทยจะดูแลอย่างไร จึงต้องพูดคุยหารือกับประเทศเพื่อนบ้านที่เกี่ยวข้องและองค์กรระหว่างประเทศก่อน สำหรับกรณีที่ชาวโรฮิงญาลักลอบเข้าประเทศไทยในช่วงนี้เป็นจำนวนมากนั้น เป็นเพราะใกล้ช่วงฤดูมรสุมทำให้ชาวโรญิงญาลักลอบเข้าประเทศมากขึ้น จึงต้องกวดขันให้มากในช่วงนี้
ทั้งนี้ องค์กรระหว่างประเทศได้ประสานมาให้แก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ในประเทศไทยให้ได้ จึงต้องอาศัยความร่วมมือของประเทศเพื่อนบ้านและองค์กรระหว่างประเทศในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวต่อไป
2. เรื่อง เศรษฐกิจ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐบาลได้เร่งรัดทุกหน่วยงานรวมถึงภาคเอกชนจัดกิจกรรมธุรกรรมการเงิน การลงทุนซึ่งถือว่าเป็นไปได้ด้วยดี เพียงแต่ช่วงนี้เศรษฐกิจระดับล่างของประเทศไทยมีปัญหา เพราะโครงสร้างใหญ่ของประเทศไม่พร้อม ต้องสร้างความเข้มแข็งให้ภาคประชาชน รวมถึงการแก้ไขปัญหาด้านการเกษตร และการพัฒนาแหล่งน้ำ พร้อมทั้งให้ความรู้ และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการเพาะปลูกให้เหมาะกับกับปริมาณน้ำ
สำหรับการแก้ไขปัญหาด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลนั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาอยู่ตลอดเวลา และยังไม่มีการปรับคณะทำงานด้านเศรษฐกิจ ซึ่งคณะทำงานทุกคนทำงานอย่างเต็มที่เพื่อแก้ไขปัญหาด้านเศรษฐกิจ ทั้งนี้ สำหรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจนั้น รัฐบาลได้เร่งขับเคลื่อนการลงทุนต่าง ๆ แต่ติดปัญหาเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างซึ่งเป็นไปตามกระบวนการ
3. เรื่อง จัดสรรโควต้าสลากกินแบ่งรัฐบาล นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า การจัดสรรโควต้าจะคำนวณตามสัดส่วนความน่าจะเป็นอย่างเป็นธรรม ทั้งในส่วนของภาครัฐ สมาคม ส่วนราชการ และกลุ่มบุคคลที่มีรายได้น้อย คนพิการ ซึ่งต้องแยกให้ชัดเจนระหว่างผู้รับโควต้าสลากกินแบ่งรัฐบาลกับผู้ขายสลากกินแบ่งรัฐบาล โดยราคาที่ตั้งไว้ต้นทางจะเป็นราคาที่เหมาะสมเพื่อทำให้ผู้ขายสลากกินแบ่งรัฐบาลนำไปขายให้ได้ในราคา 80 บาท โดยเริ่มควบคุมราคาสลากกินแบ่งรัฐบาลในวันที่ 16 มิถุนายน 2558 เป็นงวดแรก
4. เรื่อง ร่างรัฐธรรมนูญ กรณีกำนันผู้ใหญ่นัดรวมตัวคัดค้าน มาตรา 285 ที่ให้มีการปฏิรูปด้านการบริหารท้องถิ่น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า จากการสอบถามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นเพียงการยื่นเสนอข้อคิดเห็นที่ไม่เห็นด้วยกับมาตรา 285 เท่านั้น ยังไม่มีความวุ่นวายเกิดขึ้น ซึ่งข้อกฎหมายทุกอย่างอยู่ในรัฐธรรมนูญ และรัฐธรรมอยู่ในขั้นตอนการพิจารณายังไม่ประกาศใช้ ต้องผ่านการพิจารณาก่อนว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยในแต่ละมาตรา
5. เรื่อง การลงพื้นที่พบปะประชาชน นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีที่รับผิดชอบแต่ละภูมิภาคพร้อมคณะทำงานขับเคลื่อนลงไปในพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนแล้ว เหลือเพียงการลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบความเรียบร้อยของนายกรัฐมนตรี ซึ่งต้องดูระยะเวลาที่เหมาะสมในการลงพื้นที่ต่อไป
6. เรื่อง ข้อร้องเรียนเรื่องค่าใช้จ่ายจากสถานพยาบาลเอกชนที่กระทบสร้างความเดือดร้อนกับประชาชน นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า มอบหมายให้ฝ่ายกฎหมาย และกระทรวงสาธารณสุขไปศึกษาผลกระทบแล้ว แต่ไม่ต้องการให้ไปควบคุมเพราะเป็นโรงพยาบาลเอกชน ซึ่งเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการรักษา แต่ที่เป็นห่วงคือต้องการให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางในการรักษาพยาบาล แต่ถ้าค่ารักษาพยาบาลสูงขึ้นมาก จำนวนผู้ใช้บริการชาวต่างประเทศก็จะน้อยลง ไปรักษาพยาบาลในประเทศเพื่อนบ้านแทน ทำให้เกิดการเคลื่อนย้ายการลงทุนด้านการรักษาพยาบาล รายได้ของประเทศก็จะลดลงตามไปด้วย จึงไม่ต้องการให้เกิดผลกระทบ แต่ต้องการให้เกิดความพึงพอใจของทั้งสองฝ่าย
7. เรื่อง เส้นทางความปลอดภัยของผู้ใช้รถจักรยาน นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปสำรวจเรื่องความปลอดภัย เส้นทางใดไม่ปลอดภัยต้องดำเนินการปิดเส้นทาง สำหรับปัญหาที่เกิดขึ้นนั้น ขออย่าให้โทษใคร ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของตนเอง และต้องใช้ถนนร่วมกันอย่างมีวินัย พร้อมทั้งเคารพกฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด
กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก
นราวุธ รายงาน
ที่มา: http://www.thaigov.go.th